วี-คูล คอร์ปอเรชั่น ไทยฯ เปิดตัวฟีล์ม Synkronize : Ultimate Blue-light Series

บริษัท วี-คูล คอร์ปอเรชั่น ไทย จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ฟีล์ม ซิงโครไนซ์ บาย วี-คูล คอร์พอเรชัน ไทย หรือ Synkronize by V-Kool Corporation Thai แนะนำฟีล์มกรองแสงรุ่นที่ 4 ที่สามารถกรองรังสีแสงสีฟ้า หรือ Blue-light ซึ่งเป็นคลื่นแสงที่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง และจอตาในระดับที่รุนแรงกว่ารังสีอุลทราไวโอเลทหลายเท่า

กฤณัทฐพัชร์ จตุรภัทรพนิต กรรมการบริหาร บริษัท วี-คูล คอร์ปอเรชั่น ไทย จำกัด เปิดเผยว่าหลังจากได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว จึงได้เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตฟีล์มกรองแสง ในระดับที่สูงขึ้นเพื่อปกป้องผู้ขับขี่ยานยนต์ให้พ้นจากภัยร้ายที่เกิดจากรังสีแสงสีฟ้า "ฟีล์มกรองแสงในอดีตนั้น ยุคแรกเป็นฟีล์มกรองแสงเท่านั้น ไม่มีคุณสมบัติในการกรองรังสีและคลื่นความร้อนได้ ในขณะที่ยุคที่ 2 เป็นฟีล์มที่สามารถกรองรังสีและคลื่นความร้อนได้ แต่วัสดุที่ใช้ไม่คงทน จนนำไปสู่ฟีล์มยุคที่ 3 ที่พัฒนาวัสดุที่คงทนมากขึ้นแต่ไม่มีการศึกษาถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ มานานกว่า 20 ปี" ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับรังสีแสงสีฟ้า หรือ Blue-Light นี้ถูกค้นพบในห้องปฏิบัติการหรือห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ที่ค้นพบว่ารังสี UV นั้น มีช่วงคลื่นความถี่ที่กว้างมาก ตั้งแต่ 400 nm (นาโนมิเตอร์) ไปจนถึง 500 nm และแต่ละคลื่นความถี่ให้ผลการทำลายในระดับที่แตกต่างกัน ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาทุกคนเข้าใจว่า รังสี UV เป็นอันตรายต่อผิวหนัง ซึ่งเป็นความจริงแต่มีการค้นพบรังสีแสงสีฟ้าที่อยู่ในคลื่นความถี่ ประมาณ 400-450 nm เป็นรังสีที่อันตรายต่อจอประสาทตาโดยตรงสามารถทะลุเข้าไปทำลายเซลล์จอประสาทตาได้ และที่สำคัญเป็นรังสีที่ทะลุผ่านเข้ามาสัมผัสร่างกายคนในรูปของแสงแดดพลังงานสูง ซึ่งส่งผลทำให้เกิดการบกพร่องในการทำงานของระบบการหลั่งสารเคมีต่างๆ ในร่างกายที่ผิดเพี้ยน ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ด้านสุขภาพที่ตามมา อาทิ โรคมะเร็ง โรคอ้วน มีไขมันส่วนเกิน โรคหัวใจ เบาหวานไมเกรน โรคเครียด และนอนไม่หลับ "ในขณะเดียวกันระหว่างที่ค้นคว้าและวิจัยเรื่องฟีล์มป้องกันรังสีแสงสีฟ้าสิ่งที่ค้นพบเพิ่มเติม คือ ฟีล์มที่ได้บริการติดตั้งให้ลูกค้าที่ผ่านมานอกจากจะป้องกันความร้อนจากรังสีอินฟราเรดแล้ว กลับแทบจะไม่มีมูลค่าใดๆ เพิ่มไปกว่านี้สำหรับรถลูกค้าอีกเลย เนื่องจากฟีล์มที่ติดตั้งให้ลูกค้าป้องกันได้เฉพาะรังสี UVB ในขณะที่ความเป็นจริงแล้วกระจกรถยนต์ของลูกค้าก็สามารถป้องกันรังสี UVB ที่มีความถี่ระหว่าง 280-315 nm นี้ได้อยู่แล้ว (UVBไม่สามารถผ่านทะลุกระจกได้) ส่วนรังสี UV ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากที่สุดคือ UVA-Class1 และ UVA-Class2 ที่มีความถี่ระหว่าง 315-400 nm ซึ่งรังสี UVA นั้นมีปริมาณมากถึง95 % ของรังสี UV ทั้งหมดที่เข้ามาในชั้นบรรยากาศของโลกนี้และมีมากกว่า UVB ถึง 50 เท่า โดยที่ผ่านมานั้นเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมการผลิตฟีล์มกรองแสงยังมีข้อจำกัดอยู่มากทำให้การพัฒนายังไปไม่ถึงขั้นที่จะผลิตได้ จนล่าสุดนี้ที่ Advance SynchronizeTechnology (AST) ได้ถูกนำมาใช้ในการผลิต" กฤณัทฐพัชร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในด้านอันตรายต่อสุขภาพจากรังสี UV นั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังได้ค้นพบว่า รังสี UVA สามารถเจาะลึกถึงชั้นในสุดและชั้นคอลลาเจนของผิวหนังส่งผลให้เกิดรอยเหี่ยวย่น กระ  ฝ้า พร้อมทั้งทำลายเซลล์ DNA ส่งผลถึงระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังได้ ส่วนรังสี UVB นั้นสัมผัสเฉพาะผิวชั้นนอกซึ่งทำให้ผิวแสบร้อนได้ หากถูกแดดนานๆ การที่ชั้นโอโซนของโลกถูกทำลายลงนั้นส่งผลให้รังสี UVA มีปริมาณที่มากขึ้นและเข้มข้นขึ้นทุกวัน "ภายหลังจากข้อเท็จจริงที่ได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์และเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก ว่ารังสีแสงสีฟ้า และรังสี UVA เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อมนุษย์ตนจึงได้เสาะหาผู้ผลิตฟีล์มชั้นนำของโลกเพื่อร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ฟีล์มกรองแสงจนได้ผู้ผลิตฟีล์มจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการผลิตฟีล์มที่ใช้ในร่ม บริษัทฯ จึงได้เข้าร่วมกับบริษัทดังกล่าวเพื่อพัฒนาฟีล์มที่สามารถกรองรังสีแสงสีฟ้า และรังสี UVA ที่สามารถนำมาใช้กลางแดดได้จนประสบความสำเร็จเป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อ ซิงโครไนซ์ บาย วี-คูลคอร์พอเรชัน ไทย ซึ่งบริษัทฯ ได้จดเครื่องหมายการค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยฟีล์มตัวใหม่ล่าสุดนี้จะมีคุณสมบัติเพิ่มเติมจากฟีล์มทั่วไปในท้องตลาดที่สามารถกรองรังสี UV ทั่วไปแล้วยังสามารถกรองรังสีแสงสีฟ้าได้ถึง 85 %" เพื่อเป็นการตอบแทนแก่ลูกค้าผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ จึงได้เสนอเงื่อนไขพิเศษสำหรับลูกค้าของบริษัทฯ ในการมอบส่วนลดตั้งแต่ 30-80 % แล้วแต่ระยะเวลาการติดตั้งโดยลูกค้าที่ติดตั้งฟีล์ม วี-คูล จากบริษัทฯ ไปด้วยระยะเวลา 48 เดือนจะได้รับส่วนลดที่ 30 % และเพิ่มส่วนลดไปอัตราผกผันกับระยะเวลาโดยลูกค้าที่จะได้รับส่วนลดสูงสุดที่ 80 % จะเป็นลูกค้ากลุ่มที่เพิ่งติดตั้งฟีล์ม วี-คูล จากบริษัทฯ ในระยะเวลาไม่เกิน12 เดือน โดยบริษัทฯ ได้จัดทำจดหมายตรงไปถึงลูกค้าเพื่อให้พิจารณานำรถเข้ามาเปลี่ยนฟีล์มซิงโครไนซ์ บาย วี-คูล คอร์พอเรชัน ไทย โดยมีระยะเวลา 30 วันสำหรับการพิจารณานับจากวันที่ได้รับจดหมาย “ผมมั่นใจว่าสินค้าของเราจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาด และเราอยากจะเริ่มจากกลุ่มลูกค้าในอดีตของเราก่อนเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสินค้าที่ผมไม่อาจจะให้บริการหลังการขายแก่พวกเขาเหล่านั้นได้อีก ซึ่งเป็นผลจากข้อกฎหมาย” กฤณัทฐพัชร์ กล่าว ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ยังไม่มีแผนการแต่งตั้งร้านค้าตัวแทนจำหน่ายฟีล์มยุคที่ 4 นี้เพราะบริษัทฯ ต้องการรุกตลาดด้วยตัวเองเพื่อสร้างกระแสการตอบรับในลักษณะปากต่อปากจากผู้ที่ได้มีโอกาสใช้ ซิงโครไนซ์ บาย วี-คูล คอร์พอเรชัน ไทย โดยแต่งตั้งให้ บริษัท A1 Auto Film & Glass ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 2 สาขาเป็นผู้ติดตั้ง และมีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 2 สาขาในปีหน้า