TAXI IN NEW YORK ส่องรถแทกซีในมหานครนิวยอร์ค

มหานครนิวยอร์ค เมืองที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายอาชีพ และเชื้อชาติ มีประชากรมากกว่า 20 ล้านคน ผู้คนมีการสัญจรอยู่ตลอดเวลา

แม้จะเป็นเมืองที่มีการวางผังเมืองมาเป็นอย่างดีตั้งแต่ต้น มีระบบรถไฟฟ้าใต้ดินที่เรียกว่า “ซับเวย์” ที่เข้าถึงแทบทุกที่ แต่ด้วยความหนาแน่นที่สูง การจราจรในย่านใจกลางเมืองจึงค่อนข้างคับคั่ง และติดขัด ไม่แพ้บ้านเราเลยทีเดียว   ด้วยความที่สภาพการจราจรมีความหนาแน่นสูงไม่แพ้กรุงเทพฯ ผนวกกับแทกซีก็เป็นระบบขนส่งที่ได้รับความนิยมสูง ผมจึงอยากรู้ว่า ที่มหานครนิวยอร์ค เขาเอารถอะไรมาทำเป็นแทกซี และแตกต่างจากบ้านเรามากน้อยแค่ไหน มาดูกันเลย !    

Dodge Grand Caravan (2015-2016)

รถยนต์เอ็มพีวียอดนิยมที่ถูกออกแบบขึ้นเพื่อเอาใจชาวอเมริกันโดยเฉพาะ มันถูกใช้เป็นทั้งรถบรรทุกสินค้า และรถครอบครัว ติดตั้งเครื่องยนต์ เบนซิน วี 6 สูบ 3.6 ลิตร 283 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ถ้าคุณเดินทางกันเป็นครอบครัว 5-6 คนพร้อมสัมภาระ คุณคงได้นั่งรถยนต์รุ่นนี้บ่อยๆ และแน่นอนว่าค่าโดยสารจะแพงกว่ารถแทกซีที่เป็นซีดานทั่วไป    

Ford Crown Victoria (1980-2010)

จริงอยู่ที่ซีดานขนาดใหญ่หน้าตาเรียบๆ รุ่นนี้ไม่มีให้เห็นในบ้านเรา แต่สำหรับที่นั่น มันคือไอคอนของรถแทกซี และรถตำรวจอเมริกันเลยทีเดียว มันเคยเป็นรถที่ถูกทำเป็นแทกซีมากที่สุดในช่วงยุค 1980 – 2000 ด้วยขนาด และหน้าตาที่ออกแบบเพื่อคนอเมริกันโดยเฉพาะ โดยส่วนใหญ่จะติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน วี 8 สูบ 4.6 ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ไม่ว่ามันจะได้รับความนิยมขนาดไหน แต่สุดท้ายทางฟอร์ดก็ได้ยุติการผลิตรถยนต์รุ่นนี้อย่างถาวรในปี 2011 เนื่องจากมีรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นที่ประหยัดน้ำมัน และตอบโจทย์การใช้งานได้ดีกว่า แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีให้เห็นประปราย    

Ford Escape Hybrid (2010-2012)

รถ Crossover ขนาดกลางที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นรถยอดนิยมในประเทศไทย และได้ยุติการผลิตไปเมื่อหลายปีก่อน แต่สำหรับชาวอเมริกัน มันเป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงรุ่นหนึ่ง มีเครื่องยนต์ให้เลือกหลายรูปแบบ แต่สำหรับรุ่นที่ถูกใช้เป็นแทกซีจะติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 2.5 ลิตร 192 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แบบ Planetary เหมาะสำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน พร้อมสัมภาระจำนวนมากกว่าปกติ    

Nissan NV200 (2014-2016)

รถตู้พาณิชย์ขนาดเล็ก เหมาะสำหรับผู้โดยสาร 4 คน ที่ต้องการขนสัมภาระจำนวนมากกว่าปกติ แม้ว่าเราจะแทบไม่เคยเห็นรถยนต์รุ่นนี้ในประเทศไทย แต่มันเป็นรถที่ได้รับความนิยมในหลากหลายประเทศทั่วโลก ทั่งในบ้านเกิดของมันที่ญี่ปุ่น รวมถึงในทวีปอเมริกาเหนือ และยุโรป ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร 137 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ ซีวีที ตามแบบฉบับของรถยนต์นิสสันส่วนใหญ่    

Toyota Camry Hybrid (2012-2016)

รถยนต์นั่งขนาดกลางที่ได้รับความนิยมในหลากหลายประเทศทั่วโลก โดยเวอร์ชันที่เห็นในอเมริกาจะมีหน้าตาที่แตกต่างจากที่เห็นในบ้านเราเล็กน้อย ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 2.5 ลิตร พ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังรวมสูงสุด 200 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แบบ Planetary สำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน    

Toyota Highlander Hybrid (2015-2016)

รถ Crossover ขนาดใหญ่ ที่ได้รับความนิยมในหลากหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในทวีปอเมริกาเหนือ และออสเตรเลีย ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน วี 6 สูบ 3.5 ลิตร พ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุดรวม 280 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 6 คน    

Toyota Prius V Hybrid (2015-2016)

มันคือ Toyota Prius ในรูปแบบของรถ เอมพีวี มีทั้งรุ่นที่รองรับผู้ได้สารได้ 4 คน และ 6 คน ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร พ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุดรวม 134 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แบบ Planetary  ซึ่งแม้ว่ากำลังเครื่องจะดูน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับขนาดรถ แต่ก็แลกกับความประหยัดขั้นเทพ เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองเป็นอย่างมาก    

Toyota Sienna (2015-2016)

รถครอบครัวเชื้อชาติญี่ปุ่นที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อตลาดอเมริกาเหนือ และออสเตรเลียเป็นหลัก คู่แข่งโดยตรงของ Dodge Grand Caravan ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน วี 6 สูบ 3.5 ลิตร 268 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 6 คนพร้อมสัมภาระ   โดยสรุปแล้ว รถแทกซีในมหานครนิวยอร์คนั้น มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ มีทั้งแบบที่รอบผู้โดยสารได้ 4 คน และ 6 คน ทั้งรถซีดาน ครอสส์โอเวอร์ และเอมพีวี ส่วนใหญ่เป็นรถแบรนด์ตลาดที่ได้รับความนิยมสูง ดูแลรักษาง่าย ที่น่าสนใจคือ มีการนำรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบไฮบริดมาทำเป็นรถแทกซีจำนวนมาก ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา หลังจากที่รถซีดานยอดนิยมอย่าง Ford Crown Victoria ได้ยุติการผลิตลง จึงพอจะสรุปได้ว่า ในมุมมองของคนขับรถในนิวยอร์ค รถยนต์ไฮบริดเป็นรถที่ช่วยพวกเขาลดต้นทุนได้จริง ทั้งในเรื่องอัตราสิ้นเปลืองที่ต่ำ และค่าบำรุงรักษาที่ไม่ได้สูงอย่างที่คิด   ถ้าเลือกได้ ก็อยากให้แทกซีไทยมีรถยนต์หลากหลายรุ่น หลากหลายขนาดให้เลือกแบบนี้บ้าง เพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกันไปของผู้โดยสารแต่ละคน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์นั่งหลายรุ่น มีรถยนต์รุ่นใหม่เปิดตัวทุกปี ตามที่เห็นในเวปไซท์ autoinfo.co.th และงาน “มหกรรมยานยนต์” ในแต่ละปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ว่าจะตัดสินใจนำรถยนต์ที่หลากหลายมาเป็นแทกซีหรือไม่