ทดลองขับ(formula)
โตโยตา แคมรี 2.5 ไฮบริด
หลังจากได้ทดลองขับ โตโยตา แคมรี ใหม่ เครื่องยนต์รหัส 2AR-FE DUAL VVT-I ขนาด 2.5 ลิตร 181 แรงม้า ที่ขับสนุกสะใจกว่าเดิมกันไปแล้ว ครั้งนี้ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดรถรุ่น 2.5 เอชวี เนวิเกเตอร์ ที่ถือว่าเป็นตัวทอพของ 2.5 ไฮบริด มาให้ได้ลองสัมผัสความหรูหราล้ำสมัย ภูมิฐาน นั่งสบาย และเครื่องยนต์แบบพันทาง ที่ประหยัด และแรงกว่าเดิมหลังจากได้ทดลองขับ โตโยตา แคมรี ใหม่ เครื่องยนต์รหัส 2AR-FE DUAL VVT-I ขนาด 2.5 ลิตร 181 แรงม้า ที่ขับสนุกสะใจกว่าเดิมกันไปแล้ว ครั้งนี้ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด�จัดรถรุ่น 2.5 เอชวี เนวิเกเตอร์ ที่ถือว่าเป็นตัวทอพของ 2.5 ไฮบริด มาให้ได้ลองสัมผัสความหรูหราล้ำสมัย ภูมิฐาน นั่งสบาย และเครื่องยนต์แบบพันทาง ที่ประหยัด และแรงกว่าเดิม ภายนอก สง่างาม สไตล์ซีดานหรู กระจังหน้าดีไซจ์นใหม่ เด่นด้วยสีฟ้าภายในสัญลักษณ์สามห่วง บอกให้รู้ว่าเป็นรุ่น 2.5 ไฮบริด และชุดไฟหน้าใหม่แบบ DUAL-LED รมดำ ปรับสูง/ต่ำอัตโนมัติ กันชนหน้า ช่องรับลม และชุดไฟตัดหมอกกรอบโครเมียมทรงตั้งช่วยเพิ่มความแตกต่างจากรุ่นอื่น มองจากด้านข้าง และท้ายรถรุ่น 2.5 ไฮบริด ไม่ต่างจากรุ่นเบนซิน 2.5 จี เพราะใช้ล้อแมกขนาด 17 นิ้ว แบบ 10 ก้าน และยางขนาด 215/55 R17 ตัวเดียวกัน ในขณะที่ไฟท้ายที่แต่เดิมเคยเป็นสีฟ้าใส ก็เปลี่ยนมาเป็นสีแดงขาวเหมือนกัน จึงต้องดูสัญลักษณ์ ไฮบริด เท่านั้น ภายใน สบายระดับเฟิร์สคลาสส์ รุ่น ไฮบริด ตกแต่งด้วยลายไม้สีเข้ม หรูหรา ด้านบนแผงคอนโซลหน้าหุ้มหนัง เพิ่มลูกเล่นด้วยการเย็บด้ายที่ขอบ ดูดีมีราคา จอดีวีดี และระบบนำทางในรุ่นทอพ พวงมาลัยพร้อมสวิทช์ควบคุมหน้าตาคล้ายจอยสติคสำหรับเล่นเกมใช้งานง่าย นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และปุ่มควบคุมปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าต่อเชื่อมกับระบบบันทึกตำแหน่ง ซึ่งจดจำตำแหน่งทั้งพวงมาลัย เบาะนั่งด้านคนขับ และกระจกมองข้าง และปรับเลือนออกเมื่อดับเครื่องยนต์ เบาะคู่หน้าไฟฟ้าปรับได้ 8 ทิศทาง เพิ่มปุ่มดันหลังไฟฟ้าด้านคนขับ เบาะหลังระดับเฟิร์สคลาสส์ ปรับเอนได้ด้วยระบบไฟฟ้า ที่เท้าแขนพร้อมสวิทช์ที่สามารถควบคุมระบบปรับอากาศด้านหลัง ระบบเครื่องเสียง ม่านบังแดดด้านหลัง และระบบปรับอากาศแบบแยกอิสระอัตโนมัติ 3 โซนมาให้ด้วย เครื่องยนต์ ไฮบริด ทั้งแรงและประหยัด ขุมพลังไฮบริดให้กำลังสูงสุดถึง 205 แรงม้า ด้วยการผสานกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงคโรนัสแม่เหล็กถาวร ที่ออกแบบให้มีขนาดเล็กลง และน้ำหนักเบาขึ้น ให้กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 27.5 กก.-ม. ที่ 0-1,500 รตน. กับเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร รุ่น 2AR-FXE แบบ 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร ให้แรงบิดสูงสุด 21.7 กก.-ม. ที่ 4,500 รตน. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบซีวีที การออกตัวและการใช้งานในเมืองแรงบิดที่สูงจากมอเตอร์ไฟฟ้าบวกกับระบบส่งกำลังแบบซีวีทีของ แคมรี 2.5 ไฮบริด นุ่มนวลต่อเนื่อง และมีพลัง ขณะที่เดินทางไกลใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำ ส่งผลให้มีอัตราสิ้นเปลืองน้อยกว่า หรือใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ส่วนการเร่งแซงมอเตอร์ไฟฟ้าก็ช่วยเสริมเติมกำลังได้ดี แม้จะไม่จัดจ้านเท่ากับการลดเกียร์ในรุ่น 2.5 ที่ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ นอกจากนี้ รุ่น 2.5 ไฮบริด ยังมี โหมดการขับไฟฟ้า (EV MODE) ที่เลือกใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ไปได้ไม่ไกลนักและต้องใช้ความเร็วต่ำ เช่น ขับรถเข้าบ้าน ก็ทำได้ ส่วนโหมดขับประหยัดน้ำมัน (ECO MODE) ที่ใช้กำลังจากมอเตอร์และเครื่องยนต์ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าสูงสุด ช่วยฝึกวินัยในการขับ ระบบรองรับ สปอร์ทและนุ่มหนึบกว่ารุ่นเดิม ระบบกันสะเทือนพัฒนาขึ้นใหม่ของ รุ่น 2.5 ไฮบริด แม้จะเน้นความนุ่มนวล แต่เมื่อใช้ความเร็วจะพบว่ามันถูกปรับให้แน่นและสปอร์ทมากขึ้นอย่างชัดเจน ส่วนเรื่องความปลอดภัยรุ่น 2.5 ไฮบริด เต็มรูปแบบ ทั้งระบบควบคุมการทรงตัว (VSC) ระบบรักษาการทรงตัว (EPS) ระบบช่วยเสริมแรงเบรค (BA) ระบบช่วยกระจายแรงเบรค (EBD) ระบบช่วยป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC) ระบบป้องกันล้อลอค (ABS) ระบบช่วยในการออกตัวบนเส้นทางลาดชัน (HAC) และถุงลมนิรภัยคู่หน้า (SRS) ถุงลมนิรภัยด้านข้าง สรุป ขับสนุก นั่งสบาย รูปร่างหน้าตา เรียบง่าย ดูธรรมดา แต่เมื่อได้สัมผัสความหรูหรา ความสะดวกสบายภายใน โดยเฉพาะอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่าง เบาะหลังระดับเฟิร์สคลาสส์ ปรับไฟฟ้าเอนได้ พร้อมสวิทช์ควบคุมบนที่เท้าแขน คล้ายกับ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 7 และขุมพลังไฮบริด 205 แรงม้า ที่ขับสนุกและประหยัด ซึ่งคู่แข่งไม่มี ก็ทำให้ แคมรี 2.5 ไฮบริด เป็นตัวเลือกที่ไม่น่ามองข้าม สำหรับผู้บริหาร ข้อมูลจำเพาะ โตโยตา แคมรี 2.5 เอชวี เนวิเกเตอร์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด� โทร. 0-2305-1000 มิติ และน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,825/1,825/1,470 ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,575/1,560 ฐานล้อ (มม.) 2,775 น้ำหนัก (กก.) 1,590 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 65 เครื่องยนต์ แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ความจุ (ซีซี) 2,494 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 90.0/98.0 อัตราส่วนกำลังอัด 12.5:1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 160/5,700 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม.(นิวตัน-เมตร)/รตน.) 21.7 (213)/4,500 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค EFI มอเตอร์ไฟฟ้า ชนิด มอเตอร์ซิงคโรนัสแม่เหล็กถาวร แรงดันไฟฟ้าสูงสุด (โวลท์) 650 กำลังสูงสุด (กิโลวัตต์) 105 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม.(นิวตัน-เมตร)) 27.5 (270)/0-1,500 ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์ อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า ระบบรองรับ หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลัง อิสระ ดูอัลลิงค์สตรัท ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส อีบีดี บีเอ หน้า จาน พร้อมช่องระบายความร้อน หลัง จาน ราคา (บาท) 1,869,000
ภายนอก สง่างาม สไตล์ซีดานหรู
กระจังหน้าดีไซจ์นใหม่ เด่นด้วยสีฟ้าภายในสัญลักษณ์สามห่วง บอกให้รู้ว่าเป็นรุ่น 2.5 ไฮบริด และชุดไฟหน้าใหม่แบบ DUAL-LED รมดำ ปรับสูง/ต่ำอัตโนมัติ กันชนหน้า ช่องรับลม และชุดไฟตัดหมอกกรอบโครเมียมทรงตั้งช่วยเพิ่มความแตกต่างจากรุ่นอื่น
มองจากด้านข้าง และท้ายรถรุ่น 2.5 ไฮบริด ไม่ต่างจากรุ่นเบนซิน 2.5 จี เพราะใช้ล้อแมกขนาด 17 นิ้ว แบบ 10 ก้าน และยางขนาด 215/55 R17 ตัวเดียวกัน ในขณะที่ไฟท้ายที่แต่เดิมเคยเป็นสีฟ้าใส ก็เปลี่ยนมาเป็นสีแดงขาวเหมือนกัน จึงต้องดูสัญลักษณ์ ไฮบริด เท่านั้น
ภายใน สบายระดับเฟิร์สคลาสส์
รุ่น ไฮบริด ตกแต่งด้วยลายไม้สีเข้ม หรูหรา ด้านบนแผงคอนโซลหน้าหุ้มหนัง เพิ่มลูกเล่นด้วยการเย็บด้ายที่ขอบ ดูดีมีราคา จอดีวีดี และระบบนำทางในรุ่นทอพ
พวงมาลัยพร้อมสวิทช์ควบคุมหน้าตาคล้ายจอยสติคสำหรับเล่นเกมใช้งานง่าย นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และปุ่มควบคุมปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าต่อเชื่อมกับระบบบันทึกตำแหน่ง ซึ่งจดจำตำแหน่งทั้งพวงมาลัย เบาะนั่งด้านคนขับ และกระจกมองข้าง และปรับเลือนออกเมื่อดับเครื่องยนต์
เบาะคู่หน้าไฟฟ้าปรับได้ 8 ทิศทาง เพิ่มปุ่มดันหลังไฟฟ้าด้านคนขับ เบาะหลังระดับเฟิร์สคลาสส์ ปรับเอนได้ด้วยระบบไฟฟ้า ที่เท้าแขนพร้อมสวิทช์ที่สามารถควบคุมระบบปรับอากาศด้านหลัง ระบบเครื่องเสียง ม่านบังแดดด้านหลัง และระบบปรับอากาศแบบแยกอิสระอัตโนมัติ 3 โซนมาให้ด้วย
เครื่องยนต์ ไฮบริด ทั้งแรงและประหยัด
ขุมพลังไฮบริดให้กำลังสูงสุดถึง 205 แรงม้า ด้วยการผสานกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงคโรนัสแม่เหล็กถาวร ที่ออกแบบให้มีขนาดเล็กลง และน้ำหนักเบาขึ้น ให้กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 27.5 กก.-ม. ที่ 0-1,500 รตน. กับเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร รุ่น 2AR-FXE แบบ 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร ให้แรงบิดสูงสุด 21.7 กก.-ม. ที่ 4,500 รตน. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบซีวีที
การออกตัวและการใช้งานในเมืองแรงบิดที่สูงจากมอเตอร์ไฟฟ้าบวกกับระบบส่งกำลังแบบซีวีทีของ แคมรี 2.5 ไฮบริด นุ่มนวลต่อเนื่อง และมีพลัง ขณะที่เดินทางไกลใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำ ส่งผลให้มีอัตราสิ้นเปลืองน้อยกว่า หรือใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ส่วนการเร่งแซงมอเตอร์ไฟฟ้าก็ช่วยเสริมเติมกำลังได้ดี แม้จะไม่จัดจ้านเท่ากับการลดเกียร์ในรุ่น 2.5 ที่ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
นอกจากนี้ รุ่น 2.5 ไฮบริด ยังมี โหมดการขับไฟฟ้า (EV MODE) ที่เลือกใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ไปได้ไม่ไกลนักและต้องใช้ความเร็วต่ำ เช่น ขับรถเข้าบ้าน ก็ทำได้ ส่วนโหมดขับประหยัดน้ำมัน (ECO MODE) ที่ใช้กำลังจากมอเตอร์และเครื่องยนต์ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าสูงสุด ช่วยฝึกวินัยในการขับ
ระบบรองรับ สปอร์ทและนุ่มหนึบกว่ารุ่นเดิม
ระบบกันสะเทือนพัฒนาขึ้นใหม่ของ รุ่น 2.5 ไฮบริด แม้จะเน้นความนุ่มนวล แต่เมื่อใช้ความเร็วจะพบว่ามันถูกปรับให้แน่นและสปอร์ทมากขึ้นอย่างชัดเจน
ส่วนเรื่องความปลอดภัยรุ่น 2.5 ไฮบริด เต็มรูปแบบ ทั้งระบบควบคุมการทรงตัว (VSC) ระบบรักษาการทรงตัว (EPS) ระบบช่วยเสริมแรงเบรค (BA) ระบบช่วยกระจายแรงเบรค (EBD) ระบบช่วยป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC) ระบบป้องกันล้อลอค (ABS) ระบบช่วยในการออกตัวบนเส้นทางลาดชัน (HAC) และถุงลมนิรภัยคู่หน้า (SRS) ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
สรุป ขับสนุก นั่งสบาย
รูปร่างหน้าตา เรียบง่าย ดูธรรมดา แต่เมื่อได้สัมผัสความหรูหรา ความสะดวกสบายภายใน โดยเฉพาะอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่าง เบาะหลังระดับเฟิร์สคลาสส์ ปรับไฟฟ้าเอนได้ พร้อมสวิทช์ควบคุมบนที่เท้าแขน คล้ายกับ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 7 และขุมพลังไฮบริด 205 แรงม้า ที่ขับสนุกและประหยัด ซึ่งคู่แข่งไม่มี ก็ทำให้ แคมรี 2.5 ไฮบริด เป็นตัวเลือกที่ไม่น่ามองข้าม สำหรับผู้บริหาร