ทดลองขับ
HONDA WR-V
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีรุ่นใหม่ HONDA WR-V มีนีเอสยูวีของคนรุ่นใหม่ เพื่อตอบรับกระแสความนิยม และความต้องการรถกลุ่มเอสยูวีในปัจจุบัน HONDA WR-V โดดเด่นด้วยความสปอร์ท แกร่ง และเท่อย่างมีสไตล์ ห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมเบาะนั่งด้านหลังแถว 2 ปรับพับได้ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ พละกำลังจากเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 121 แรงม้า ให้อัตราประหยัดน้ำมันที่ดี 16.7 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20 ขับขี่ปลอดภัย มั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ HONDA SENSING ในทุกรุ่นย่อย ไม่ว่าจะเป็น รุ่น SV หรือรุ่นทอพ RS ซึ่งรอบนี้ทาง HONDA จัดรถมาให้ได้ทดลองกันเพียงรุ่นทอพ RS เท่านั้น
ภายนอก
ไฟหน้าพร้อมไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED SEQUENTIAL พร้อมระบบเปิด/ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับ และพับไฟฟ้า มือจับประตูด้านหน้าสีเดียวกับตัวรถ ด้านหลังอยู่ในแนวเสาหลัง ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา และระบบปัดน้ำฝนด้านหลัง เสาอากาศแบบครีบฉลาม และไฟท้ายแบบ LED
WR-V รุ่นทอพ RS โดดเด่นที่ความสปอร์ท และยกระดับความสปอร์ทพรีเมียมไปอีกขั้น ด้วยดีไซจ์นเอกซ์คลูซีฟรอบคัน กระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ท โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ RS ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับ และพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ (รุ่น SV ไม่มีพับอัตโนมัติ) ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว (ขนาด 16 นิ้ว ในรุ่น SV) ทำให้จุดต่ำสุดของ WR-V มีระยะห่างจากพื้นถนน 220 มม. มากกว่า BR-V อยู่ 11 มม. (8.7 นิ้ว)
ภายใน
รุ่น RS ภายในสีดำ และตกแต่งด้วยแถบสีแดง (ในรุ่น SV แถบสีเงิน) เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง/ต่ำได้ เบาะหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยผ้า และด้ายสีแดง (ในรุ่น SV ด้ายสีน้ำเงิน) พนักเท้าแขนด้านหน้า และด้านหลัง (รุ่น SV มีเพียงด้านหน้า) โดยรวมดูสปอร์ทพอตัว
พวงมาลัยแบบมัลทิฟังค์ชันปรับ 2 ทิศทาง (สูง/ต่ำ) หุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ปรับระดับสูง/ต่ำได้ พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับ/วางสายโทรศัพท์ ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (PADDLE SHIFT) ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ ADVANCED TOUCH รองรับ APPLE CAR PLAY และ ANDROID AUTO พร้อมรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI และ ANDROID AUTO ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมระบบทำความเย็นเร็ว และโหมดทิศทางลมเพื่อความสะดวกสบาย
แผงบังแดดพร้อมกระจกแต่งหน้าทั้งด้านคนขับ และผู้โดยสารด้านหน้า และแบบมีฝาปิด พร้อมไฟส่องสว่างด้านคนขับ และผู้โดยสารด้านหน้า ในรุ่น RS กระจกมองหลังแบบตัดแสง กระจกไฟฟ้า 4 บาน พร้อมระบบปรับขึ้น/ลงอัตโนมัติด้านคนขับ ช่องเก็บของหลังเบาะผู้โดยสารด้านหน้า ที่วางแก้ว 6 ตำแหน่ง เบาะนั่งหลังมีพื้นที่ช่วงขากว้างขึ้น สามารถปรับพับแยกแบบ 60:40 แต่ปรับเอน และพับตลบแบบ BR-V ไม่ได้ มีที่แขวนของในพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย ไฟภายในห้องโดยสาร 2 ตำแหน่ง ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย ราวมือจับ 4 ตำแหน่ง (รุ่น SV ราวมือจับ 3 ตำแหน่ง) คิ้วบันไดสเตนเลสส์ที่ประตูหน้า พร้อมสัญลักษณ์ RS
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC I-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับระบบเกียร์ CVT ชุดเดียวกันกับที่ใช้อยู่ใน BR-V ปรับทูนตามขนาดตัว โดยยังให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รตน. และแรงบิดสูงสุด 14.8 กก.-ม. (145 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,300 รตน. ตอบสนองการขับขี่ได้ดีพอตัว แต่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 16.7 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20
ส่วนอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยช่วงความเร็วต้นประมาณ 80-90 กม./ชม. มาตรวัดแจ้งว่า 22.2-22.8 กม./ลิตร แต่ถ้าเพิ่มความเร็วขึ้นไประดับ 100-110 กม./ชม. ทำได้ 15.9-16.7 กม./ลิตร ขณะที่ผลทดสอบของ BR-V ทำเอาไว้ 16.7 กม./ลิตร เท่ากับตัวเลขอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยของ WR-V ที่ผู้ผลิตแจ้งไว้
ระบบรองรับ
ความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของ HONDA BR-V คือ ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ HONDA SENSING ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังค์ชันการทำงานหลักๆ ดังนี้ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรค (CMBS) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS) ระบบเตือน และช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (RDM WITH LDW) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (LCDN) พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่นๆ อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ระบบลอครถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ ระบบลอคประตูรถอัตโนมัติตามความเร็วรถ และไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง
ส่วนการขับขี่โดยรวม หลังจากลองขับ HONDA WR-V เป็นรถให้ความคล่องตัว ด้วยความยาวตัวรถเพียง 4 ม. และประหยัดน้ำมัน เมื่อใช้ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. สำหรับการใช้งานทั่วไป ระยะห่างจากพื้นถนน 220 มม. เพียงพอสำหรับการลุย และสภาพถนนที่ไม่ดี หรือมีน้ำรอการระบาย ระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้า/คู่หลัง 1,548/1,540 มม. เท่าๆ กับ HONDA BR-V และชอคอับที่ยืด/ยุบกำลังดี ไม่มาก หรือน้อย ทำให้ทรงตัวมั่นใจในขณะเข้าโค้ง เรื่องความสะดวกสบาย อุปกรณ์ที่ให้มาครบ ประกอบกับขนาดห้องโดยสารที่กว้างพอตัว ก็สร้างความพึงพอใจได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งคงต้องประเมินกันที่ราคา...ว่าคุ้มค่าแค่ไหน
ฟันธง
เล็กๆ แต่ครบเครื่องเรื่องความอเนกประสงค์ พร้อมลุย
HONDA WR-V ใหม่ รุ่น RS ราคา 869,000 บาท และรุ่น SV ราคา 799,000 บาท
สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีใหม่ สีเงินสเตลลาร์ ไดมอนด์ (มุก) สีแดงอิกไนท์ (เมทัลลิค)/หลังคาสีดำ (ทูโทน) (เฉพาะรุ่น RS) สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิค) และสีขาวทาฟเฟตา