ทดลองขับ
TOYOTA HILUX REVO D DOUBLE CAB 2.4 Z EDITION MY 2022
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดทริพทดลองขับ TOYOTA HILUX REVO D DOUBLE CAB 2.4 Z EDITION MY 2022 (โตโยตา ไฮลักซ์ รีโว ดี ดับเบิลแคบ 2.4 เซด เอดิชัน) บนเส้นทางกรุงเทพฯ-เขาใหญ่ ระยะทางไป/กลับกว่า 400 กม. พร้อมทำกิจกรรม CSR บริจาคข้าวสารให้แก่โรงเรียนหมูสี เพื่อสนับสนุนอาหารกลางวันแก่เด็กนักเรียน TOYOTA HILUX REVO D DOUBLE CAB 2.4 Z EDITION MY 2022 เป็นรถกระบะ 4x2 รุ่นล่าสุด ที่ค่าย TOYOTA แนะนำสู่ตลาดรถเมืองไทย รายละเอียดในการปรับแต่งมีอะไรบ้าง ไปดูกัน
ภายนอก
ภายนอก หน้าตายังคงดุดันตามสไตล์ TOYOTA กระจังหน้าขนาดใหญ่สีดำเงา ตรงกลางติดโลโกขนาดใหญ่ ไฟหน้าทรงโฉบเฉี่ยว แบบ BI-BEAM LED มีระบบเปิด/ปิดอัตโนมัติ พร้อมปรับสูง/ต่ำ ด้านข้างรถตรงประตูซ้าย และขวา ติดโลโก HILUX และ TOYOTA 60 ปี สีดำ ไฟท้ายแบบ LED LIGHT GUIDING ทรงเลข 3 พร้อมไฟเบรคดวงที่ 3 ที่ฝากระบะท้าย มือเปิดกระบะสีดำ และกระจกมองข้างสีดำ ติดตั้งไฟเลี้ยวไว้ภายในกรอบกระจกมองข้าง จุดเปลี่ยนหลักๆ ของตัวรถภายนอก คือ ล้อ และยาง ครั้งนี้เปลี่ยนแนวคิดใหม่ จากยางรถกระบะเดิมๆ มาใช้ยางรถเก๋ง ล้ออัลลอยจาก TOYOTA COROLLA CROSS และใส่ยางของ TOYOTA CAMRY โดยใส่ยาง BRIDGESTONE TURANZA T005A ขนาด 215/55 R17 เพื่อเน้นความนุ่มนวลในการขับขี่ และเพิ่มการยึดเกาะถนนมากขึ้น
ภายใน
ภายในห้องโดยสาร ออกแบบเรียบๆ เน้นโทนสีเข้ม แผงคอนโซลหน้าทรงตัว T ขนาดใหญ่ มีที่วางแก้วน้ำทั้งด้านซ้าย และขวา เบาะนั่งปรับมือหุ้มด้วยผ้าสีดำ มีที่วางแขนตรงกลางติดตั้งมาให้ ถึงเบาะนั่งจะไม่ได้ปรับไฟฟ้า แต่ก็ปรับพนักเบาะให้รับกับสรีระได้ง่าย และนั่งสบายเกินคาด พวงมาลัยแบบมัลทิฟังค์ชัน ทรง 3 ก้านยอดนิยม สามารถปรับควบคุมระบบเสียง และใช้งานต่างๆ แผงแอร์แอนาลอกแบบปุ่มบิดปรับ ใช้งานง่าย เน้นความคงทน หน้าจอดิสพเลย์แบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว ขนาดกำลังพอดี รองรับการเล่น APPLE CAR PLAY หน้าจอหลักจะแสดงข้อมูลการขับขี่ต่างๆ รองรับภาษาไทย ใช้งานง่าย อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ชัดเจน ส่วนเบาะนั่งด้านหลังหุ้มด้วยผ้าสีดำ มีที่วางแขนตรงกลาง และเบาะหลังปรับเอนไม่ได้ น่าเสียดายที่ไม่ได้ติดตั้งระบบ PUSH START, กล้องหน้า และกล้องถอยหลัง พร้อมเซนเซอร์กะระยะมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ตรงส่วนนี้กับรถราคา 805,000 บาท น่าจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายในการใช้งาน และยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ถ้าเพิ่มเติมมาให้อีกสักหน่อย จะลงตัวมากๆ
เครื่องยนต์
ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ GD SUPER POWER ดีเซล คอมมอนเรล ไดเรคท์อินเจคชัน 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รตน. แรงบิด 34.7 กก.-ม. (340 นิวตัน-เมตร) ที่ 1,400-2,800 รตน. ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมระบบ SEQUENTIAL SHIFT ผลักเกียร์ไปด้านขวามือเพื่อเปลี่ยนเกียร์เองได้ และข้างๆ ซุ้มเกียร์จะมีปุ่มปรับเลือกโหมดการขับขี่ 2 โหมด คือ ECO และ POWER ส่วนก้านดึงเบรคมือแบบธรรมดา ใช้งานง่าย เน้นทนทาน
จุดเปลี่ยนแปลงหลักๆ ที่น่าสนใจของ TOYOTA HILUX REVO D DOUBLE CAB 2.4 Z EDITION MY 2022 คือ ระบบรองรับ หรือช่วงล่างมีการคิดนอกกรอบ โดยปรับทูนพิเศษสไตล์สปอร์ท เน้นการทรงตัว ให้ความมั่นใจในการขับขี่ นุ่มสบายคล้ายรถเก๋ง มีการปรับคอยล์สปริงหน้าใหม่ ลดความสูงลง 23 มม. เพื่อช่วยในเรื่องแฮนด์ลิง และลดอาการโคลงตัว ส่วนแหนบมีการปรับใหม่โดยปรับลดความสูงลง 23 มม. เช่นกัน ตรงนี้เข้าใจว่าจะเน้นเรื่องแฮนด์ลิงการขับขี่ ลดอาการโคลงตัว แต่ยังสามารถบรรทุกสัมภาระต่างๆ ได้ในน้ำหนักบรรทุกเท่าเดิม
อีกจุดหนึ่งที่ปรับเปลี่ยน คือ มีการเพิ่มขนาดของชอคอับให้ใหญ่ขึ้น จากเดิมที่ใช้ขนาด 30 เปลี่ยนเป็นขนาด 32 เพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ โดยรวมแล้วความสูงของตัวรถจะลดลงด้วยประมาณ 23 มม. ยกชุดช่วงล่างจาก GR ตัวเตี้ยมาใส่ ส่วนระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบแหนบแผ่นซ้อน พร้อมชอคอับที่ปรับทูนใหม่
ระบบรองรับ
ระบบห้ามล้อด้านหน้าเป็นแบบจาน ด้านหลังแบบดุม ระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่มีให้ อาทิ โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA, ระบบเบรค ABS, ระบบกระจายแรงเบรค EBD ถุงลมนิรภัยในตำแหน่งผู้ขับ และผู้โดยสารแถวหน้า, เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด, กระจกไล่ฝ้าด้านหลัง เป็นต้น
เราได้ลอง TOYOTA HILUX REVO D DOUBLE CAB 2.4 Z EDITION MY 2022 วันแรกบนเส้นทางกรุงเทพฯ-เขาใหญ่ ระยะทางประมาณ 201 กม. ฝ่าสายฝนที่ตกตลอดเส้นทางจากบางนา-รังสิต-นครนายก-หนองชะอม-ปราจีนบุรี ความเร็วที่ใช้ในการเดินทาง 80-110 กม. เส้นทางเรียบสลับเส้นทางที่ขับผ่านชุมชน โค้งขึ้น/ลงบนเขาใหญ่ การตอบสนองของพวงมาลัยน้ำหนักดี ควบคุมง่าย ช่วงล่างเซท GR ทำงานได้ดี บวกกับการนำล้อ และยางที่ใช้ในรถเก๋งมาใส่ ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ อาการเด้ง หรือกระดอนลดลงไปเยอะมาก เปลี่ยนเป็นนุ่ม หนึบ เข้าโค้งได้เนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมันดีงาม และสร้างความแตกต่างจากรถกระบะเดิมๆ ที่เราเคยรู้จัก
อัตราสิ้นเปลืองที่เราลองวัดคร่าวๆ ระยะทางขากลับจากเขาใหญ่-กรุงเทพฯ 213.9 กม. ขับขี่ในโหมด ECO แต่ขับด้วยความเร็วเฉลี่ย 120-140 กม./ชม. บางช่วงถนนโล่งใช้ความเร็วระดับทอพสปีด (ช่วงสั้นๆ) ถึง 182 กม./ชม. ให้ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ 11.4 กม./ลิตร แต่ไม่แนะนำให้ขับขี่ด้วยความเร็วสูง
สรุป
สรุป TOYOTA HILUX REVO D DOUBLE CAB 2.4 Z EDITION MY 2022 กับช่วงล่างเซทใหม่ ที่ยกชุด GR มาใส่ชอคอับกระบอกใหญ่ขึ้น แหนบใหม่ สปริงใหม่ ปรับลดลง 23 มม. และจำหน่ายในราคาเดิม 805,000 บาท ถือว่าเป็นรถกระบะแนวใหม่ที่เน้นสมรรถนะการขับขี่ที่นุ่มหนึบเสมือนรถเก๋ง ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีในตลาดรถกระบะบ้านเรา และอย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นว่า ถ้าเติมระบบ PUSH START, กล้องหน้า และกล้องหลังพร้อมเซนเซอร์เตือนการชนสิ่งกีดขวางด้านหลังมาให้ จะดีงาม และน่าใช้งานยิ่งขึ้น