NEW MG VS HEV เป็นรถครอสส์โอเวอร์รุ่นล่าสุดจากค่าย MG ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา และ 4 WHEELS ได้ไปสัมผัสและทดลองขับมาแล้ว
หน้าตาดูโดดเด่นมาก ด้านหน้ารถดูมีมิติที่ชัดเจน กระจังหน้าดีไซจ์น ELECTRIFIED MATRIX เสริมแต่งด้วยคิ้วสีฟ้าให้อารมณ์สปอร์ท มาพร้อมไฟหน้าแบบ LED PROJECTOR และไฟท้ายแบบ LED มิติตัวรถมีความยาว 4,370 มม. กว้าง 1,809 มม. สูง 1,653 มม. ระยะฐานล้อ 2,585 มม. ตัวรถมีระยะต่ำสุดจากพื้นถนน 145 มม.
การออกแบบห้องโดยสารแบบ DUAL WILDSCREEN COCKPIT ให้ความรู้สึกล้ำสมัยกว่าที่เคยกับ FULL VIRTUAL DASHBOARD และหน้าจอดิจิทอลแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว จำนวน 2 จอ ที่วางเรียงต่อเนื่องกัน ทำให้ได้ภาพ และมุมมองที่แตกต่าง และล้ำมากๆ จอแสดงผลการขับขี่เป็นแบบ FULL VIRTUAL DASHBOARD ที่แสดงผลได้ชัดเจนทุกมุมมอง ส่วนจอกลางคอนโซลมีขนาด 12.3 นิ้วเช่นกัน เป็นจอแบบสัมผัส ที่รองรับทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นระบบนำทาง GPS, ระบบความบันเทิง หรือระบบสั่งการต่างๆ ย้ำชัดๆ ว่า หน้าจอใหญ่ที่สุดในรถครอสส์โอเวอร์คลาสส์เดียวกัน !
คอนโซลกลางออกแบบใหม่ DOUBLE LAYER มาพร้อม WIRLESS CHARGER และช่องเชื่อมต่อ USB TYPE A และ TYPE C อันนี้ถือว่าดีงามสุดๆ เชื่อมต่อได้ทุกระบบ พวงมาลัยแบบฟันเฟือง และตัวหนอน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) แบบมัลทิฟังค์ชัน น้ำหนักดี จับกระชับถนัดมือ ช่วยให้ควบคุมรถได้คล่องแคล่วว่องไว และมีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 ม.
อีกหนึ่งจุดที่สะดุดตา คือ คันเกียร์แบบใหม่ ที่สวย และเรียบหรู ช่วยยกระดับให้ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT เพิ่มรายละเอียดการออกแบบ และเพิ่มการสัมผัสแบบพรีเมียมด้วยวัสดุที่ดูดี ยอมรับเลยว่า เป็นคันเกียร์ที่ใส่ใจในเรื่องการออกแบบจริงๆ
ขุมพลังผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว VTI-TECH ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีดมัลทิพอยท์ ให้กำลัง 109 แรงม้า (80 กิโลวัตต์) ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 14.0 กก.-ม. (142 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,500 รตน. ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า กำลัง 95 แรงม้า (70 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 20.0 กก.-ม. (200 นิวตัน-เมตร) ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT ที่สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ 3 โหมด คือ ECO, COMFORT และ SPORT พร้อมด้วยโหมด KERS ช่วยชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบทเตอรีได้ในขณะชะลอรถ เมื่อรวมกำลังทั้งจากเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าแล้วจะมีกำลังรวมสูงสุด 177 แรงม้า แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ความจุ 2.13 กิโลวัตต์ชั่วโมง
ด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทอร์ชันบีม ระบบห้ามล้อด้านหน้าแบบจาน พร้อมช่องระบายความร้อน ด้านหลังแบบจาน
ผลการทดลองขับ ระยะทางประมาณ 150-200 กม. เส้นทางจากกรุงเทพฯ-พระนครศรีอยุธยา แวะเข้าสนามแข่งรถปทุมธานีสปีดเวย์ เพื่อทดสอบอัตราเร่ง และการบังควบคุมรถในสถานีต่างๆ ที่จำลองขึ้นมาเพื่อวัดสมรรถนะของรถ
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในโหมด COMFORT ทำได้ 8.45-8.90 วินาที และโหมด SPORT ทำได้ 8.16-8.40 วินาที ! ถือว่าเป็นรถครอสส์โอเวอร์ สุดจี๊ดคันหนึ่งเลยก็ว่าได้ ส่วนการขับขี่อื่นๆ ในสภาพการใช้งานจริง ที่ความเร็วระดับ 100-120 กม./ชม. ให้การตอบสนองที่คล่องตัว อัตราเร่งแซงไหลลื่น พวงมาลัยน้ำหนักกำลังดี ควบคุมง่าย ในบางจังหวะที่เจอผิวถนนขรุขระ หรือคอสะพาน ช่วงล่างมียวบยาบบ้างตามสภาพถนน แต่โดยรวมแล้ว ความนุ่ม และนิ่งยังไว้ใจได้อยู่