ทดลองขับ(formula)
HONDA HR-V E:HEV RS
ตลาดกลุ่มครอสส์โอเวอร์ระดับ บี-เซกเมนท์ กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง กับรุ่นใหม่ล่าสุดของ HONDA HR-V (ฮอนดา เอชอาร์-วี) ขุมพลังไฮบริด E:HEV (อี:เอชอีวี) กับหลายจุดที่พัฒนาได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้านี้
ภายนอก เส้นสายดูแกร่งกว่าเดิม
HONDA HR-V เป็นครอสส์โอเวอร์ระดับ บี-เซกเมนท์ รุ่นแรกๆ ที่เข้ามาทำตลาดเมื่อประมาณ 7 ปีก่อน ได้รับความนิยมไม่น้อยกับรูปทรงที่ทันสมัย และพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง มาถึงรุ่นล่าสุด ปรับเปลี่ยนเส้นสายให้มีความทันสมัย ส่วนหน้าของตัวรถดูหนา บึกบึนกว่าเดิม ในรุ่นทอพ RS (อาร์เอส) มีความคมเข้มแบบสปอร์ทเป็นพิเศษ กระจังหน้าแบบสะท้อนแสง ไฟเลี้ยวคู่หน้าเรียงตัวในแนวขวางเมื่อเปิดใช้งาน ชุดตกแต่งตัวถังโทนสีดำเข้ม พร้อมทางเลือกสีตัวถังแบบทูโทน และล้อแมกขนาดใหญ่ถึง 18 นิ้ว ส่วนท้ายของตัวถังมีแนวหลังคาที่ลาดเท โดยเฉพาะบริเวณเสา ดี เพื่อให้ตัวรถมีความปราดเปรียวตามสไตล์รถยนต์ที่ใช้งานในตัวเมืองด้วย
ภายใน กว้างขวาง ซันรูฟขนาดใหญ่
ห้องโดยสารของ HR-V รุ่นล่าสุด มีการออกแบบที่ทันสมัยกว่าเดิม พร้อมกับพื้นที่ใช้สอยที่เหลือเฟือ เบาะด้านหลังสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ พร้อมช่องแอร์สำหรับเบาะหลัง หลังคาซันรูฟมีพื้นที่ของกระจกที่มากเป็นพิเศษ ให้ความโปร่งโล่งอย่างได้ผล อย่างไรก็ตาม หลังคากระจกไม่สามารถเปิดออกเพื่อรับลมได้ ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ด้านหน้าเป็นหลังคาผ้าใบแบบเลื่อนเปิด/ปิดได้ ส่วนด้านหลังเป็นแผ่นปิดจำนวน 2 แผ่น แยกด้านซ้าย/ขวา ทางผู้ผลิตระบุว่า หลังคากระจกถูกเคลือบด้วยสารพิเศษ สามารถป้องกันรังสียูวีได้ถึง 90 % และกันความร้อนได้ถึง 70 % และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานหลายปี ขณะทดลองขับเราสังเกตว่า แม้จะเปิดแผ่นปิดกระจกหลังคาด้านหลัง ห้องโดยสารก็ไม่ได้ร้อนแต่อย่างใด (หากเปิดแอร์เพียงพอ) คาดว่าทางผู้ผลิตคงตั้งใจให้กระจกเน้นความโปร่งโล่งของทัศนวิสัยเช่นนี้
เครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้าอัตราเร่งดี ประหยัดเชื้อเพลิง
ขุมพลังของ HR-V ถูกพัฒนาให้ทันสมัยกว่าเดิมอย่างชัดเจน จากเดิมที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร มาถึงรุ่นล่าสุดก็หันมาใช้ระบบไฮบริดตามสมัยนิยม การขับเคลื่อนหลักเป็นหน้าที่ของมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 131 แรงม้า แต่เน้นแรงบิดที่สูงถึง 25.8 กก.-ม. ที่ 0-3,500 รตน. ส่วนเครื่องยนต์สันดาปแบบเบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้าป้อนเข้าสู่แบทเตอรี และทำหน้าที่ขับเคลื่อนเฉพาะช่วงความเร็วสูงคงที่เท่านั้น
จากการทดลองขับ เราพบว่ามอเตอร์ไฟฟ้าสามารถขับเคลื่อนได้อย่างเรียบเนียน ในช่วงความเร็วต่ำท่ามกลางการจราจรที่หนาแน่น การตอบสนองของคันเร่งมีความแม่นยำ หากต้องการอัตราเร่งก็มีการตอบสนองที่เที่ยงตรง ส่งกำลังออกมาอย่างต่อเนื่อง เสียงเครื่องยนต์สันดาปจะไม่ดังมากนัก ยกเว้นการกดคันเร่งกะทันหัน เนื่องจากเครื่องยนต์ต้องเร่งรอบเพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าได้มากพอ การขับที่ความเร็วคงที่ให้อารมณ์ใกล้เคียงกับรถยนต์ไฟฟ้าเลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่งความเหนือชั้นของระบบไฮบริดแบบ E:HEV นอกจากนี้ ยังประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างยอดเยี่ยม แม้การขับเป็นระยะทางไกล ผ่านการจราจรที่หลากหลาย มีการทำความเร็วในบางช่วง แต่ตัวเลขบนมาตรวัดเฉลี่ยออกมาที่ประมาณ 20 กม./ลิตรขึ้นไป ถือว่าน่าพอใจมาก
ระบบรองรับ ขับขี่มั่นคง ระบบความปลอดภัยครบครัน
จุดที่พัฒนาได้อย่างน่าพอใจมากๆ ของ HONDA HR-V รุ่นนี้ คือ ระบบรองรับที่ถูกพัฒนาขึ้นในหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างตัวถังที่ถูกเสริมความแข็งแรงมากขึ้น องค์ประกอบของช่วงล่างที่ปรับแต่งมาอย่างลงตัว มีความหนึบแน่นมากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ บรรดาจุดยึดต่างๆ ถูกเสริมความแข็งแรงเช่นกัน แต่ยังผสมความนุ่มนวลได้อย่างพอเหมาะ อาการโคลงมีเพียงเล็กน้อยขณะเข้าโค้ง หลังจากนั้นจะมีแต่ความมั่นคง ควบคุมได้เที่ยงตรง ขณะใช้ความเร็วสูง ตัวรถมีความนิ่งกว่าเดิม ให้ความรู้สึกที่ลงตัวทั้งการตอบสนองของระบบรองรับ และการบังคับควบคุม นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบความปลอดภัย HONDA SENSING (ฮอนดา เซนซิง) ทุกรุ่นย่อยเป็นครั้งแรกของ HR-V และมีการติดตั้งระบบชะลอความเร็วอัตโนมัติขณะแล่นลงทางลาดชัน เป็นครั้งแรกสำหรับ HONDA ที่จำหน่ายในบ้านเราอีกด้วย
สรุป ครอสส์โอเวอร์สมรรถนะดี ขับขี่โดนใจ
HONDA HR-V รุ่นล่าสุด เครื่องไฮบริดแบบ E:HEV กับรุ่นทอพ RS ทำให้ครอสส์โอเวอร์รุ่นนี้มีความครบครันในตัว ทั้งในแง่ของการขับขี่ที่ดีกว่ารุ่นก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด รูปทรงทันสมัย ภายในกว้างขวาง และอเนกประสงค์ มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริดที่โดดเด่นทั้งสมรรถนะ และการประหยัดเชื้อเพลิง ให้การขับขี่ที่ไหลลื่นยิ่งกว่าเครื่องยนต์สันดาปด้วยซ้ำไป ผนวกกับระบบความปลอดภัยที่ให้มาครบครันเช่นนี้ การมาถึงของอดีต “แชมพ์เก่า” ของเซกเมนท์ จะทำให้ครอสส์โอเวอร์กลุ่มนี้มีความร้อนแรงมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน !