ทดลองขับ(formula)
HAVAL JOLION HYBRID SUV
GREAT WALL MOTOR (กเรท วอลล์ มอเตอร์) ประเทศไทย ได้จัดกิจกรรมทดลองขับ HAVAL JOLION (ฮาวัล โจไลออน) HYBRID SUV รุ่นที่ 2 จากบแรนด์ HAVAL บนเส้นทางกรุงเทพฯ-สระบุรี เพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสสมรรถนะจากการใช้งานจริงบนท้องถนน HAVAL JOLION ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี กลุ่ม ซี-เซกเมนท์ ขุมพลังไฮบริด พแลทฟอร์ม GWM LEMON แบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย คือ TECH (เทค) PRO (พโร) และ ULTRA (อุลทรา) ที่ใช้ในกิจกรรมครั้งนี้
ภายนอก LED เติมเต็ม ความต่าง
ไฟหน้า LED เต็มรูปแบบ ไฟเลี้ยวแนวตั้ง พร้อมกระจังหน้า STAR MATRIX สีดำ/เทา หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค สปอยเลอร์ท้าย เสาอากาศแบบ SHARK FIN เข้าทรงกับดิฟฟิวเซอร์ดีไซจ์นสปอร์ท และไฟท้าย LED พร้อมไฟเบรคดวงที่ 3 และไฟตัดหมอกหลังแบบ LED ล้ออัลลอยทูโทน ขนาด 18 นิ้ว พร้อมมิติตัวรถ ขนาดยาว/กว้าง/สูง 4,472/1,841/1,619 มม. และระยะฐานล้อ 2,700 มม. เมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มนี้ HAVAL JOLION มีขนาดใหญ่กว่า HONDA HR-V (ฮอนดา เอชอาร์-วี) 4,385/1,790/1,590 มม. และ MG ZS (เอมจี เซดเอส) 4,323/1,809/1,653 มม. ขนาดใกล้เคียง TOYOTA COROLLA CROSS (โตโยตา โคโรลลา ครอสส์) 4,460/1,825/1,620 มม.
ภายใน หรูหรา ตามสไตล์ HAVAL
ห้องโดยสารที่กว้างสบาย แบบ TWO TONE ตัดด้วยลายเส้นสี ROSE GOLD คล้ายกับ HAVAL H6 (ฮาวัล เอช 6) และหน้าจอกลางอัจฉริยะแบบสัมผัส 12.3 นิ้ว รองรับ APPLE CAR PLAY การเล่น MP3 รวมไปถึง JOOX และระบบนำทาง
นอกจากนี้ ยังมีหน้าจอ MULTI INFORMATION DISPLAY ความละเอียดสูง ขนาด 7 นิ้ว พร้อม HEAD-UP DISPLAY แสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย/ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5 และยังมี WIRELESS CHARGER
รุ่น ULTRA มีหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ พื้นที่ถึง 1.2 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง และสามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บได้ด้วยการพับเบาะแบนราบ เพื่อขนย้ายสัมภาระขนาดใหญ่
เครื่องยนต์ เบนซินไม่...โบ มอเตอร์แรง
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร 95 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 12.7 กก.-ม. ตั้งแต่ 4,400-5,200 รตน. ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 25.5 กก.-ม. ให้กำลังสุทธิ 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 38.2 กก.-ม. โดยใช้แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ใต้ห้องเก็บสัมภาระด้านหลัง สำหรับระบบส่งกำลังเป็นแบบเพลาขับเคลื่อนอีเลคทรอนิคส์ MULTI-MODE DHT โดยเป็นแบบ 2 ระบบเกียร์ (1 ระบบเกียร์ที่ด้านเครื่องยนต์ และอีก 1 ระบบเกียร์ที่ด้านมอเตอร์ขับเคลื่อน)
ระบบรองรับ ขับสบาย ความปลอดภัยเต็ม
ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบทอร์ชันบีม พร้อมเหล็กกันโคลง เหมาะสมกับสภาพการขับขี่บนท้องถนนเมืองไทย มีความนุ่มนวลสูง สามารถตอบโจทย์การใช้งานของคนเมืองได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องการรองรับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนน การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ตัวรถมีอาการโคลงตัวน้อยกว่า HAVAL H6 และยึดเกาะถนนดี
ระบบความปลอดภัยใกล้เคียง HAVAL H6 มาแบบจัดเต็ม อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (IIP) ทั้งแนวตรง แนวเฉียง และจอดเทียบข้าง กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรง และทางแยก (AEBI) ระบบช่วยเตือน และเบรคเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC) และระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) และระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ทำงานที่ความเร็วตั้งแต่ 60-150 กม./ชม. ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD) ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW) ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS) ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM) เมื่อความเร็วเฉลี่ยเกิน 65 กม./ชม. ต่อเนื่องมากกว่า 4 ชม.
สรุป แรงดี ครบเครื่อง ราคาไม่สูง
การทดลองขับเส้นทางกรุงเทพฯ-สระบุรี วิ่งยาวๆ บนทางด่วน และเดินทางไกลบนถนนสายหลัก มีความกระฉับกระเฉง คล่องตัว ตอบสนอง ตามความต้องการของผู้ขับขี่ ช่วงเดินทางด้วยความเร็วใช้งานปกติ การตอบสนองของเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานผสมผสานกันได้ดีมาก คันเร่งตอบสนองฉับไว ช่วงเร่งแซงตอบสนองทันใจ แรงบิดสูงใช้ต่อเนื่อง ทั้งจากเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้านั่นเอง
HAVAL JOLION HYBRID SUV ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ขุมพลังไฮบริด ที่น่ามอง ครบเครื่อง และคุ้มค่าด้วยราคาเริ่มต้น 879,000 บาท ในรุ่น TECH เติมเต็มอีกขั้นกับราคา 939,000 บาท ในรุ่น PRO และหรูหรา ไฮเทค ด้วยราคา 999,000 บาท สำหรับรุ่น ULTRA