ทดลองขับ(formula)
HAVAL H6 HYBRID SUV
GWM ประเทศไทย ได้จัดกิจกรรมการทดลองขับ ภายใต้แนวคิด “DRIVE TO A NEW XEV WORLD” บนเส้นทางกรุงเทพฯ-ชลบุรี เพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสสมรรถนะจากการใช้งานจริงบนท้องถนน HAVAL H6 ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี กลุ่มซี-เซกเมนท์ ขุมพลังไฮบริด GWM LEMON ซึ่งเป็นพแลทฟอร์มที่ผ่านการทดสอบบนถนนมากกว่า 6 ล้านกม. ในสภาวะแวดล้อมสุดขั้ว 76 รูปแบบ โดยแบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย ได้แก่ PRO กับ ULTRA ต่างกันที่อุปกรณ์มาตรฐาน (รถที่ใช้เป็นรุ่น ULTRA ทั้งหมด)
ภายนอกโฉบเฉี่ยวทันสมัย
กระจังหน้าแนวดุดันแบบตะแกรงสีดำ (รุ่น PRO) และโครเมียม (รุ่น ULTRA) เส้นสายของตัวรถคมชัดลงตัว ไฟส่องสว่างหน้า ไฟ DRL ไฟท้าย และแถบไฟด้านหลังพาดยาวจากซ้ายจรดขวา (TAIL LIGHT STRIP) เป็นแบบแอลอีดีทั้งหมด เพิ่มความโดดเด่นสะดุดตาโดยเฉพาะในยามค่ำคืน
ภายในเน้นความสุนทรีย์
ห้องโดยสารคัดสรรวัสดุเพื่อสร้างสุนทรีย์กับทุกสัมผัส เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า หุ้มหนังสังเคราะห์คุณภาพดี ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา หน้าจอแสดงผล 3 ตำแหน่ง ทำงานเชื่อมต่อกัน ได้แก่ HEAD UP DISPLAY (HUD), MULTI INFORMATION DISPLAY ขนาด 10 นิ้ว, INTELLIGENT MULTIMEDIA TOUCHSCREEN (จอกลาง) ขนาด 12 นิ้ว รองรับ APPLE CAR PLAY และ ANDROID AUTO แต่การควบคุมระบบต่างๆ ของตัวรถ ส่วนใหญ่ต้องสั่งงานผ่านจอกลางแบบทัชสกรีน ทำให้ขณะขับขี่ใช้งานได้ไม่สะดวก สำหรับพื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง และสามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บได้ด้วยการพับเบาะแบนราบ เพื่อขนย้ายสัมภาระขนาดใหญ่ และรุ่น ULTRA (อุลทรา) จะมีหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ ขนาด 1.2 ตารางเมตร เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
เครื่องยนต์ไฮบริดมอเตอร์ไฟฟ้าพลังสูง
ขุมพลังของ HAVAL H6 (ฮาวัล เอช 6) เป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบแถวเรียง ความจุ 1.5 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศ ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,500-6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 23.5 กก.-ม. ตั้งแต่ 1,500-4,000 รตน. ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 30.6 กก.-ม. ให้กำลังสุทธิ 243 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 54.0 กก.-ม. โดยใช้แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาด 1.6 KWH ติดตั้งอยู่ใต้ห้องเก็บสัมภาระด้านหลัง สำหรับระบบส่งกำลังเป็นแบบเพลาขับเคลื่อนอีเลคทรอนิคส์ MULTI-MODE DHT โดยเป็นแบบ 2 ระบบเกียร์ (1 ระบบเกียร์ที่ด้านเครื่องยนต์ และอีก 1 ระบบเกียร์ที่ด้านมอเตอร์ขับเคลื่อน)
ระบบรองรับเน้นความนุ่มนวล
ระบบรองรับด้านหน้าเป็นแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบอิสระมัลทิลิงค์ ได้รับการปรับตั้งให้เหมาะสมกับสภาพการขับขี่บนท้องถนนเมืองไทย มีความนุ่มนวลสูง สามารถตอบโจทย์การใช้งานของคนเมืองได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องการดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนน และในรุ่น ULTRA มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว กับยางขนาด 225/55R19 เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงตัวรถมีอาการเอียงค่อนข้างมาก จึงจำเป็นต้องยกคันเร่งเพื่อชะลอความเร็ว
สรุป ขับสนุก ระบบช่วยเหลือเพียบ
การทดลองขับเส้นทางกรุงเทพฯ-ชลบุรี ต้องผ่านสภาพการจราจรที่หลากหลาย ทั้งรถติดย่านกลางเมือง วิ่งยาวๆ บนทางด่วน และเดินทางไกลบนถนนสายหลัก ในสภาพการจราจรเคลื่อนตัวช้าสลับหยุดนิ่ง มีความกระฉับกระเฉง คล่องตัว การทำงานของระบบขับเคลื่อน “สั่งได้” ตามความต้องการของผู้ขับขี่ ช่วงเดินทางด้วยความเร็วใช้งานปกติ การตอบสนองของเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานผสมผสานกันได้ดีมาก คันเร่งตอบสนองฉับไว ช่วงเร่งแซงทันอกทันใจ ไม่จำเป็นต้องเหยียบคันเร่งบ่อยเกินไป เพราะแรงบิดสูงสุดมีให้ใช้ต่อเนื่อง ทั้งจากเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้านั่นเอง
สำหรับช่วงความเร็วเดินทาง ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW, ระบบเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง RCW, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC, ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW, ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพตลอดการเดินทาง แต่ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน LCK ยังไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไรนัก เพราะมีอาการเหมือนมีการโยกพวงมาลัยช้าๆ ซ้ายทีขวาทีตลอดเวลา จนทำให้ผู้ขับตัดสินใจปิดการทำงาน คาดว่าอาการนี้ถ้าได้รับการอัพเดทซอฟท์แวร์ การทำงานก็น่าจะดีขึ้น