ทดลองขับ(formula)
LAND ROVER DEFENDER
ความท้าทายของการสืบทอดตำนานที่มีมาหลายปี ครั้งนี้ครบเครื่องกว่าเดิม ด้วยการผสมผสานความทันสมัยพร้อมประสิทธิภาพการลุยอันเหลือเชื่อ
เน้นสันเหลี่ยม แต่ดูทันสมัย
รุ่นที่เราได้ทดลองขับเป็นตัวถัง 5 ประตู รหัส 110 (รุ่น 3 ประตูจะมีรหัส 90) ขนาดตัวใหญ่โตเกินคาด (ความยาว 5,018 มม. และระยะฐานล้อ 3,022 มม.) ตัวถังเน้นความเรียบเนียน โดยเฉพาะด้านข้างตัวรถ ไฟส่องสว่างทรงกลม ถูกติดตั้งกรอบไฟทรงเหลี่ยม มีส่วนคล้าย DEFENDER (ดีเฟนเดอร์) รุ่นดั้งเดิม สิ่งหนึ่งที่ถูกรักษาเอาไว้ คือ การติดตั้งยางอะไหล่ที่ด้านนอกท้ายรถ ตามแบบฉบับตัวลุยแบบดั้งเดิม เป็น สิ่งที่หาได้ยากใน เอสยูวี ยุคปัจจุบัน
กว้างขวาง แฝงความเป็นตัวลุย
ห้องโดยสารของ LAND ROVER DEFENDER (แลนด์ โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์) เป็นจุดที่น่าสนใจไม่น้อย การออกแบบโดยรวมเน้นความเรียบง่าย มีความดิบในตัว การเลือกใช้วัสดุตกแต่งจึงไม่เน้นความหรูหราเหมือนบรรดา RANGE ROVER (เรนจ์ โรเวอร์) แต่มีความลงตัว มีความดิบห้าวคล้ายกับรูปทรงภายนอก สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ บรรดาอุปกรณ์ใช้งาน รวมถึงจอแสดงผลแบบดิจิทอล บนคอนโซลกลางเป็นหน้าจอระบบสัมผัส ความละเอียดคมชัด ปุ่มใช้งานมากมายบนคอนโซลกลาง รวมถึงคันเกียร์ที่ติดตั้งในระดับค่อนข้างสูง คอนโซลเกียร์มีความหนาสำหรับ ติดตั้งปุ่มปรับโหมดการขับเคลื่อนมากมาย
ดีเซล 240 แรงม้า ลุยได้สบาย
การทดลองขับเริ่มต้นขึ้น ณ สนามฝึกขับและทดสอบกรมการขนส่งทางบก จ. กาญจนบุรี การขับขี่ผ่านเส้นทางสมบุกสมบันพอสมควร (แม้จะเป็นระยะทางสั้นๆ) เพื่อพิสูจน์สมรรถนะการลุยผ่านอุปสรรคของ DEFENDER ที่ไม่เป็นรองใคร รุ่นที่เราทดลองขับ คือ รุ่นย่อย D240 (ดี 240) ใช้เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 240 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 43.9 กก.-ม. เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา
การลุยทางสมบุกสมบันอย่างจริงจัง เริ่มต้นขึ้นในช่วงถัดไป การลุยแอ่งน้ำที่เป็นพื้นโคลนเลน ผู้ฝึกสอนแนะนำให้เราเปลี่ยนมาใช้โหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบเน้นแรงบิด เพื่อรองรับการลื่นไถลได้ดีขึ้น การแล่นผ่านเป็นไปอย่างง่ายดาย แทบไม่ต้องกดคันเร่งแม้แต่น้อย การส่งกำลังไปยังล้อแต่ละข้างเป็นไปอย่างลงตัว นับเป็นอีกหนึ่งการรังสรรค์ที่น่าสนใจของ LAND ROVER DEFENDER ที่ปรับแต่งการส่งกำลังสำหรับการลุยทำได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องใช้ทักษะมากเกินควร ถัดมาเป็นการลุยน้ำลึก ประสิทธิภาพการลุยน้ำลึกของรถรุ่นนี้อยู่ที่ 900 มม. เราเปลี่ยนมาใช้โหมดสำหรับลุยน้ำลึกโดยเฉพาะ การแสดงผลบนหน้าจอจะสามารถแสดงระดับน้ำให้เห็นด้วย ทำให้เราทราบว่าน้ำในสถานีทดลองขับมีความลึกทั้งหมด 600 มม. ตัวรถแล่นผ่านได้อย่างเรียบเนียนที่ความเร็วต่ำ มีความมั่นคงดีมาก ไม่มีอาการโคลงให้สัมผัส แล่นผ่านพื้นน้ำได้สบาย รวมถึงการแล่นออกจากพื้นน้ำที่เป็นทางลาดชัน ทำได้ไม่ยากเย็น จากมุมปะทะ 38.0 องศา และมุมจาก 28.0 องศา (ในโหมด OFF-ROAD ที่จะยกความสูงของตัวรถขึ้นมา)
ปรับแต่งมาเพื่อการลุย
หนึ่งในสถานที่ที่ LAND ROVER DEFENDER ถูกใช้งานเป็นประจำ เหมือนกับรุ่นคลาสสิคในอดีต คือ การขึ้นเนินเขาสูงชัน ทางผู้จัดงานให้เราทดลองขับแล่นขึ้นเนินเขาที่มีความสูงถึง 45 % แรงบิดของเครื่องยนต์ดีเซล และการส่งกำลังทำให้การขึ้นเนินทำได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องกดคันเร่งมากเกินไป ผนวกกับระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน นอกจากนี้ยังมีระบบรักษาความเร็วขณะลงเนิน สามารถปรับความเร็วได้ตามต้องการ เราพบว่าระบบสามารถทำงานได้อย่างนุ่มนวล ไม่มีอาการสะดุดแม้แต่น้อย
ตำนานที่ยังคงความยอดเยี่ยม
แม้เป็นระยะเวลาสั้นๆ กับ LAND ROVER DEFENDER เรารู้สึกทึ่งกับคุณสมบัติการลุยเส้นทางสมบุกสมบันที่ล้ำสมัย สามารถขับผ่านอุปสรรคได้ไม่ยากเย็น ไม่แพ้ตัวลุยแบบดั้งเดิม ภายใต้ระบบขับเคลื่อนในโหมดต่างๆ ที่หลากหลาย เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับตัวลุยระดับตำนานรุ่นนี้ ภายใต้ตัวถังทรงเหลี่ยมมีกลิ่นอายของรุ่นดั้งเดิม แต่มีเส้นสายที่ร่วมสมัยมากขึ้น ห้องโดยสารกว้างขวาง เน้นความอเนกประสงค์ และการใช้งานที่หลากหลาย เพียงเท่านี้ก็ถือว่ามีความครบเครื่องตัวลุยระดับหัวแถว พร้อมประกาศการกลับมาของตัวลุยระดับตำนานที่ไม่เป็นสองรองใคร !