ทดลองขับ(4wheels)
TOYOTA HILUX REVO ROCCO
รุ่นที่เราได้ทดลองขับ คือ TOYOTA HILUX REVO ROCCO (โตโยตา ไฮลักซ์ รีโว รอคโค) เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.8 ลิตร กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (รุ่นก่อนหน้านี้ 177 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุด 51.0 กก.-ม. (รุ่นก่อนหน้านี้ 45.9 กก.-ม.) จุดที่ถูกปรับปรุงหลักๆ คือ การเพิ่มขนาดของเทอร์โบ เพิ่มตลับลูกปืนในแกนเทอร์โบเพื่อลดแรงเสียดทาน ในส่วนของลูกสูบมีการเคลือบสารลดแรงเสียดทานที่แหวนรองลูกสูบ หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงควบคุมการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงในแต่ละหัวฉีดให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ภายนอก
แม้เส้นทางการทดลองขับในครั้งนี้จะค่อนข้างสั้น แต่ทางผู้จัดงานยังจัดสนามให้มีช่วงทางตรงยาว ได้ทดลองอัตราเร่งกันเล็กน้อย กับอัตราเร่งจากช่วงความเร็วต่ำถึงประมาณ 100 กม./ชม. เราพบว่าเมื่อกดคันเร่งลงไป ตัวรถมีการตอบสนองที่ดี แทบไม่มีช่วงหน่วงเวลา สามารถไต่ความเร็ว และรอบเครื่องยนต์ได้ต่อเนื่อง และตัวรถยังคงมีความมั่นคงที่น่าพอใจ ใช้เวลาไม่นานก็สามารถทำความเร็วแตะ 100 กม./ชม.
ภายใน
TOYOTA HILUX REVO ROCCO ถูกปรับปรุงการตอบสนองของการบังคับควบคุมพวงมาลัยให้เป็นไปอย่างเหมาะสม โดยในขณะจอดนิ่งจะยังคงมีน้ำหนักพวงมาลัยค่อนข้างมาก แต่เมื่อเริ่มขับเคลื่อนตัวรถออกไป ในช่วงความเร็วต่ำ พวงมาลัยจะมีน้ำหนักเบา สะดวกยิ่งขึ้นสำหรับการขับขี่ในที่แคบ หรือการจอดรถ เมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น น้ำหนักของพวงมาลัยจะเพิ่มขึ้นตาม เพื่อความมั่นคงขณะใช้ความเร็วสูง
เครื่องยนต์
การขับแบบสลาลอมที่ใช้ความเร็วสูงขึ้น กำหนดที่ 60 กม./ชม. พวงมาลัยมีน้ำหนักมากขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับช่วงความเร็วต่ำ แต่ยังอยู่ในระดับที่หักเลี้ยวได้ไม่ยากเย็น จุดที่น่าพอใจ คือ ระบบรองรับที่ถูกปรับแต่งมาให้มีความลงตัวมากขึ้นเช่นกัน อาการโคลงของตัวรถอยู่ในระดับที่เหมาะสมตามรูปแบบตัวถังรถกระบะ แต่ไม่เสียการทรงตัวแต่อย่างใด แม้จะหักเลี้ยวต่อเนื่อง
รถกระบะรุ่นนี้ถูกปรับแต่งชอคอับให้รับแรงสั่นสะเทือนได้ดีขึ้น รวมไปถึงบรรดาจุดยึดต่างๆ ที่ได้รับการปรับปรุงเช่นกัน จุดสำคัญ คือ การเปลี่ยนวัสดุของชุดแหนบของระบบรองรับด้านหลัง วัสดุที่ใช้กับแหนบชั้นกลางมีความแข็งแรง และยืดหยุ่นได้ดี ทำให้สามารถลดจำนวนแหนบลงมาได้ โดยไม่สูญเสียประสิทธิภาพด้านการรองรับน้ำหนักตัวรถแต่อย่างใด
ระบบรองรับ
การทดลองขับ HILUX REVO ROCCO เปลี่ยนมาเป็นรูปแบบทางสมบุกสมบันเต็มพิกัด ในส่วนแรก คือ การแล่นขึ้นเนินชันประมาณ 38-40 องศา ภายใต้ระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ เน้นแรงบิด เราเพียงเติมคันเร่งเล็กน้อย ตัวรถสามารถไต่ขึ้นเนินได้ง่ายดาย การปรับแต่งรอบเดินเบาให้ต่ำลงมา มีส่วนช่วยได้ดีมาก เมื่อจอดนิ่งชั่วขณะบนทางลาดชัน ระบบ HILL ASSIST จะเข้ามาทำงาน ระหว่างที่ผู้ขับถอนเท้าจากแป้นเบรคมากดคันเร่ง โดยมีระยะเวลา 3 วินาที ป้องกันไม่ให้ตัวรถไหลถอยหลังลงทางลาดชัน เมื่อลงเนินก็เป็นหน้าที่ของระบบ HILL DESCENT CONTROL ควบคุมความเร็วให้คงที่ขณะลงเนิน เราพบว่าระบบทำงานได้ดี ไม่มีอาการสะดุด ตัวรถสามารถลงสู่พื้นเบื้องล่างได้นุ่มนวล
สถานีสุดท้ายเป็นเนินสลับซ้าย/ขวา ที่มีความสูงค่อนข้างมาก ขณะแล่นผ่านด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมีล้อข้างใดข้างหนึ่งยกลอยจากพื้นถนนอย่างแน่นอน จุดนี้เป็นการพิสูจน์ประสิทธิภาพการแปรผันของการส่งกำลัง รวมถึงพละกำลังของเครื่องยนต์ที่รอบเครื่องยนต์ต่ำ เราใช้การบังคับทิศทางตามการแนะนำของครูฝึกเพียงเล็กน้อย และเดินคันเร่งเบาๆ หรือบางช่วงแทบไม่ได้กดคันเร่งเลย ตัวรถสามารถแล่นผ่านเนินสลับได้อย่างนุ่มนวล ระบบรองรับมีส่วนช่วยไม่น้อยเช่นกัน แม้มีล้อข้างใดข้างหนึ่งลอยจากพื้นถนน รวมถึงขณะรถมีการเคลื่อนไหวสลับซ้าย/ขวาตามเนิน ผ่านอุปสรรคในส่วนนี้ได้ไม่ยากเย็น
แม้จะเป็นการปรับโฉมอีกครั้งของหนึ่งในกระบะยอดนิยม TOYOTA HILUX REVO โดยชื่อ ROCCO ถูกยกระดับสู่การเป็นเสมือน “ตัวทอพ” ที่มีรุ่นย่อย และทางเลือกที่หลากหลาย รุ่นที่เราได้มาทดลองขับ คือ เครื่องยนต์ขนาด 2.8 ลิตร บลอคใหม่ (204 แรงม้า) พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ถูกปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้นในหลายส่วน ทั้งขุมพลัง และระบบรองรับ รวมถึงการบังคับควบคุม มั่นคงทั้งทางเรียบ และทางสมบุกสมบัน เหมาะกับการใช้งานรถกระบะที่มีหลากหลายรูปแบบในบ้านเรา แม้ราคาจะอยู่ในระดับ 1 ล้านบาทต้นๆ แต่มีความ “ครบเครื่อง” ไม่แพ้ใคร
ฟันธง
กระบะตัวทอพ รูปทรงสวย บึกบึน การบังคับควบคุม และระบบรองรับลงตัวกว่าเดิม แถมพละกำลังสูงขึ้นด้วย