อวดโฉมอย่างเป็นทางการช่วงปลายไตรมาสที่ 3 ของปี ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี คันนี้ ได้รับการกล่าวขวัญถึงอยู่ตลอด จากรูปลักษณ์ภายนอก และห้องโดยสารที่โดนใจ รวมถึงขุมพลังบลอคเล็กพ่วงระบบอัดอากาศตามทเรนด์ พร้อมระบบความปลอดภัยกับระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบ “จัดเต็ม” และที่สำคัญคือ ราคา “น่าคบ”
เอมจี เอชเอส ออกแบบผสมผสานความหรูหรากับความสปอร์ทไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เส้นสายตัวถังเน้นความโค้งมน กระจังหน้าดีไซจ์นมีเอกลักษณ์ ไฟหน้าแอลอีดี พโรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน และไฟท้ายแบบแอลอีดี โดยใช้ไฟเลี้ยวทั้งด้านหน้า/หลัง ที่แสดงผลเรียงลำดับ (SEQUENTIAL)
ภายในห้องโดยสารเน้นความโค้งมน ใช้วัสดุที่ให้สัมผัสนุ่มนวล (SOFT TOUCH) เบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ทปรับไฟฟ้าสีดำสลับแดง ส่วนเบาะหลังนั่งสบาย พนักพิงปรับองศาได้ หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ ขนาดใหญ่ยักษ์ (มีพื้นที่ถึง 1.1 ตรม.) เสริมความปลอดภัยด้วยถุงลมนิรภัย 6 จุด และสิ่งอำนวยความสะดวกติดตั้งมาครบครัน อาทิ จอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว พร้อมหน้าจอหลักแบบทัชสกรีนขนาด 10 นิ้ว ระบบปฏิบัติการ I-SMART และกล้องมองภาพรอบทิศทาง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกโซน พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ฝาท้ายเปิด/ปิดด้วยไฟฟ้า ช่วยเพิ่มความสะดวก
ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบแถวเรียง ความจุ 1.5 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศ ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้า ที่ 5,600 รตน. แรงบิดสูงสุด 25.5 กก.-ม. แบบฟแลททอร์ค ตั้งแต่ 1,700-4,400 รตน. รองรับแกสโซฮอล อี 85 ส่งกำลังด้วยเกียร์ TST (TWIN CLUTCH SPORTRONIC TRANSMISSION) แบบ 7 จังหวะ มีโหมดการขับขี่ให้เลือก ได้แก่ NORMAL, ECO, SPORT, CUSTOM และยังมีปุ่ม SUPER SPORT บนพวงมาลัย
ระบบรองรับด้านหน้าเป็นแบบอิสระ แมค-เฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบอิสระ มัลทิลิงค์ พัฒนาตามแบบ EURO TUNING SUSPENSION การยึดเกาะมีประสิทธิภาพแม้เข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ซึมซาบแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนได้ดี พวงมาลัยไฟฟ้ามีน้ำหนักเหมาะสม โหมดการขับขี่แต่ละประเภทให้การตอบสนองแตกต่างกันชัดเจน ระบบเบรคเป็นแบบจานหน้า/หลัง ด้านหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน ต้องสร้างความคุ้นเคยกับจังหวะการทำงาน แต่ถือว่าไว้ใจได้เต็มที่
ทดลองขับต้องผ่านสภาพการจราจรหลากหลาย ในสภาพการจราจรเคลื่อนตัวช้ามีความกระฉับกระเฉง การทำงานของระบบส่งกำลัง เป็นไปตามความต้องการของผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นผลจากการปรับเปลี่ยนซอฟท์แวร์ใหม่ ทำให้อาการไม่สมูธที่เคยเจอเมื่อครั้งที่นำเกียร์ลูกนี้มาใช้กับรถรุ่นก่อนหน้านี้หายไปเกือบหมด แต่เนื่องจากเกียร์คลัทช์คู่นั้นไม่มี “ทอร์คคอนเวอร์เตอร์” ผู้ขับขี่ที่ยังไม่เคยใช้เกียร์แบบนี้อาจต้องเรียนรู้จังหวะการทำงานสักพัก เพราะมีลักษณะแตกต่างจากเกียร์อัตโนมัติปกติ หรือเกียร์อัตโนมัติแปรผันที่คุ้นเคย การขับขี่เดินทางด้วยความเร็วใช้งานปกติ การตอบสนองของเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังทำงานผสานกันได้ดีมาก คันเร่งไฟฟ้าตอบสนองฉับไว แม้จะมีความจุแค่ 1.5 ลิตร แต่ช่วงเร่งแซงตอบสนองทันอกทันใจ จึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้รอบสูงเกิน เพราะแรงบิดสูงสุดมีให้ใช้ตั้งแต่รอบต่ำ สำหรับช่วงความเร็วเดินทางที่เกียร์สุดท้าย เน้นลดรอบเครื่องยนต์ให้ต่ำ เพื่อลดอัตราสิ้นเปลือง ในขณะที่ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC, ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW, ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพตลอดการเดินทาง ซึ่งเป็นผลจากความฉลาดของซอฟท์แวร์เวอร์ชันล่าสุดนั่นเอง
บทความแนะนำ คอลัมน์ ทดลองขับ(formula)