ทดลองขับ(formula)
โตโยตา โคโรลลา อัลทิส ไฮบริด
รุ่นที่ 12 กับทางเลือกใหม่ “ไฮบริด” เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ทำงานร่วมกับ มอเตอร์ไฟฟ้าในราคาเริ่มต้น 939,000 โตโยตา โคโรลลา อัลทิส ใหม่ รุ่นที่ 12 เป็นผลงานล่าสุดจากสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA เปลี่ยนโฉม และภายในห้องโดยสารใหม่ทั้งหมด พร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐานใหม่ เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้ง 1.6, 1.8 ลิตร และเป็นครั้งแรกที่ใช้ขุมพลังระบบไฮบริด ทดลองขับครั้งนี้ ทาง โตโยตา เลือก โตโยตา โคโรลลา อัลทิส ใหม่ รุ่น ไฮบริด ไฮ ซึ่งถือว่าเป็นจุดขายของรถรุ่นนี้ มาให้ได้ทดลองขับ
ภายนอก โฉบเฉี่ยว ทันสมัย สไตล์ โตโยตา
ไฟหน้าโฉบเฉี่ยว ในรุ่น ไฮบริด มาพร้อมไฟแอลอีดีพโรเจคเตอร์ เปิด/ปิดอัตโนมัติ รวมถึงการส่องสว่างในช่วงกลางวันแบบแอลอีดี และเสริมโครเมียมทั้งบริเวณกระจังหน้า และกันชนคล้ายกับแคมรี โฉมปัจจุบัน
สัดส่วนใกล้เคียงรุ่นเดิม (ยาวขึ้น 10 มม. กว้างขึ้น 5 มม.) แต่มีความสูงที่ต่ำลงมา 25 มม. ช่วงล้อหน้า 1,531 มม. หลัง 1,535 มม. และฐานล้อ 2,700 มม. เน้นเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร ฝากระโปรงท้ายสั้นลง
ไฟท้ายแบบแอลอีดี ในรุ่น ไฮบริด ไฮ มาพร้อมด้วยล้ออัลลอย 17 นิ้ว และยางขนาด 225/45 R17 เท่ากับรุ่น จีอาร์ สปอร์ท
ภายใน กว้าง เรียบง่าย ฟังค์ชันครบ
ห้องโดยสารกว้างขวาง คำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานจริงหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสี บนกระจกหน้ารถ ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ แบบสีขนาด 7 นิ้ว หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ APPLE CAR PLAY พร้อมระบบนำทาง รองรับ T-CONNECT TELEMATICS
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ระบบกรองอากาศ สร้างโมเลกุลน้ำล้อมรอบประจุลบเพื่อขจัดกลิ่น และยับยั้งเชื้อโรค (NANOE)
มีสิ่งที่ผู้ใช้รถยุคนี้ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแท่นชาร์จไฟแบบไร้สาย ช่องปรับอากาศสำหรับที่นั่งด้านหลัง ม่านบังแดดที่กระจกหลัง กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติ กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ ระบบหน่วงแรงเบรคอัตโนมัติ และระบบเบรคมือไฟฟ้า
เครื่องยนต์ ไฮบริด เติมแรง เพิ่มความประหยัด
โคโรลลา อัลทิส ใหม่ เป็นรถยนต์รุ่นเดียวในตลาด C-SEGMENT ที่ใส่ระบบไฮบริด
โคโรลลา อัลทิส ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดเจเนอเรชันที่ 4 ผสมผสานเครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2ZR-FXE ขนาด 1.8 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุดรวม 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 16.6 กก.-ม ส่งกำลังผ่านเกียร์ E-CVT ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.3 กม./ลิตร
มอเตอร์ไฟฟ้าชุดขับเคลื่อนสามารถทำหน้าที่ขับเคลื่อนไปจนถึงความเร็ว 60 กม./ชม. เครื่องยนต์จะทำงานไปพร้อมๆ กับมอเตอร์ช่วยเสริมแรงในขณะเร่งแซง แม้ว่าแรงม้าจะน้อยกว่าเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรทั่วไป แต่ด้วยแรงบิดของมอเตอร์ไฟฟ้าที่มาเต็มโดยไม่ต้องรอรอบทำให้อัตราเร่งไหลลื่นต่อเนื่อง
ระบบรองรับ นุ่มนวล นั่งสบาย มั่นใจ ปลอดภัย
หลังจากขับในสนาม TOYOTA DRIVING EXPERIENCE PARK บางนา ทดสอบระบบต่างๆ ทั้งสลาลอม เปลี่ยนเลนกะทันหัน อัตราเร่ง พร้อมทดสอบระบบเบรค ระบบควบคุมการทรงตัวบนสภาพพื้นผิวธรรมดา และพื้นผิวลื่น เบรคดีขึ้นควบคุมรถได้ง่าย
ส่วน TOYOTA SAFETY SENSE ใหม่ล่าสุด มีระบบการทำงานเพิ่มเติม คือ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ด้วยเรดาร์ (DYNAMIC RADAR CRUISE CONTROL) แบบ FULL-SPEED RANGE ซึ่งสามารถปรับลดความเร็วจนถึงจุดหยุดนิ่งตามรถยนต์คันหน้า (ตำแหน่งเกียร์ D) และระบบรักษาช่องทาง (LANE TRACING ASSIST) ที่ช่วยประคองรถยนต์ให้วิ่งอยู่ในเลนได้เอง แม้ขณะเข้าโค้ง เพื่อช่วยลดความเมื่อยล้าของผู้ขับ
สรุป ขับสบาย ประหยัด ปลอดภัย
เครื่องยนต์ ไฮบริด เหมือนแรงม้าจะน้อยแต่เมื่อขับจริง ก็ทำอัตราเร่งได้ดีอย่างต่อเนื่อง ถึงจะไม่ได้แรงขนาดเครื่องยนต์เทอร์โบ แต่ก็ให้การตอบสนองที่ดีในการใช้งาน ประหยัดน้ำมันจริง ช่วงล่างทำได้ดีขึ้น ระบบความปลอดภัยมากขึ้น ราคา 1,099,000 บาท ก็ไม่ได้แพงกว่าคู่แข่ง หรือจะเน้นประหยัดเลือกรุ่นเริ่มต้นของไฮบริด ราคา 939,000 บาท ก็ยังได้