ทดลองขับ(formula)
โตโยตา แคมรี
โตโยตา แคมรี รุ่นล่าสุด พัฒนาขึ้นใหม่หมดทั้งคัน ทำให้มีจุดเด่นในแง่ของรูปทรง ความกว้างขวาง และการขับขี่ที่ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด ทริพทดลองขับแบบครบเครื่อง กับซีดานหรูรุ่นล่าสุด โตโยตา แคมรี ทั้งการขับบนท้องถนน และการขับขี่ในสนามแข่งช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท รถรุ่นนี้จะรับมือการขับขี่ในสนามแข่งได้ดีแค่ไหน มาติดตามกัน
ภายนอก ความภูมิฐานผสมมาดสปอร์ท
โตโยตา แคมรี รุ่นล่าสุด ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด TNGA หรือ TOYOTA NEW GLOBAL ARCHITECTURE กับการปรับปรุงให้ตัวรถมีประสิทธิภาพรอบด้านที่ดีขึ้น โดยโครงสร้างตัวถังถูกออกแบบให้มีความแข็งแรงกว่าเดิม ลดจุดศูนย์ถ่วงลงมาเล็กน้อย เพื่อความสมดุลของตัวรถขณะขับขี่ที่ลงตัว ผสานการขับเคลื่อนร่วมกับเครื่องยนต์บลอคใหม่ และระบบส่งกำลัง แน่นอนว่า สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ รูปทรงที่ปราดเปรียว ผสมความหรู มีมาดสปอร์ทมากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ แต่ยังดูภูมิฐานในเวลาเดียวกัน
ภายใน กว้างขวาง นั่งสบาย
ตัวรถมีความกว้างขวางอย่างเหลือเฟือ นับเป็นหนึ่งในจุดเด่นของ โตโยตา แคมรี เสมอมา ทัศนวิสัยด้านหน้าดี จากการออกแบบให้กระจกหน้ามีพื้นที่มากขึ้น เบาะผู้ขับอยู่ในตำแหน่งต่ำลงมาเล็กน้อย ตามรูปทรงของตัวรถที่ลดความสูงลง พวงมาลัยมีแพดเดิล ชิฟท์ (ติดตั้งทุกรุ่นย่อย) คอนโซลหน้าทรงหนา ดูภูมิฐาน แต่ปุ่มใช้งานสีเงินทรงเรียวในแนวนอนอาจมีขนาดเล็กไปหน่อย ตำแหน่งของที่ชาร์จมือถือแบบไร้สายมีความเหมาะสมกว่าเดิม นั่นคือ ขยับเข้าไปด้านในเล็กน้อย รองรับมือถือขนาดใหญ่ได้ดี
เครื่องยนต์ พละกำลังดี ประหยัดกว่าเดิมทั้ง 2 บลอค
การทดลองขับเริ่มต้นบนทางหลวง ระยะทางร่วม 50 กม. เราเริ่มจากรุ่น 2.5 จี ได้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ประมาณ 17-18 กม./ลิตร ถือว่าน่าพอใจมาก สำหรับเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร บลอคใหม่หมด ตัวเลขเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร เลยทีเดียว ภายใต้พละกำลังที่สูงถึง 209 แรงม้า มากกว่าคู่แข่งรายอื่นในพิกัดเครื่องยนต์ขนาด 2.4-2.5 ลิตร ถัดมา เราได้เปลี่ยนรถยนต์ที่ขับเป็น โตโยตา แคมรี รุ่น เอชวี พรีเมียม เครื่องยนต์ไฮบริด บลอคใหม่เช่นกัน ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.5 ลิตร กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ส่งกำลังร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 120 แรงม้า คิดเป็นกำลังสูงสุดทั้งระบบ คือ 211 แรงม้า แบทเตอรีแบบนิคเคิล-เมทัล ไฮดไรด์ (รับประกันนาน 10 ปี ส่วนระบบไฮบริดรับประกันนาน 5 ปี) การขับขี่โดยรวมมีความนุ่มนวล แต่มั่นคง เสียงรบกวนต่ำตามสไตล์รถยนต์ไฮบริด จุดเด่นที่ขาดไม่ได้ คือ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง แม้ใช้ความเร็วเฉลี่ยเท่ากับรอบก่อนหน้า แต่ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 23-24 กม./ลิตร เลยทีเดียว นับเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการความหรูหรา และการประหยัดเชื้อเพลิงในคันเดียว
ระบบรองรับ ช่วงล่างลงตัว เข้าโค้งดีเกินคาด
การขับในสนามแข่ง หลายช่วงของการเข้าโค้ง ใช้ความเร็วสูง ตัวรถมีความมั่นคงที่ยอดเยี่ยมเกินคาด อาการโคลงน้อยกว่ารุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด พวงมาลัยแม่นยำ โดยเฉพาะรุ่น 2.5 จี ที่แฝงอารมณ์สปอร์ทของระบบรองรับ และระบบบังคับเลี้ยวเอาไว้ด้วย ทำให้ขับสนุก ควบคุมอยู่มือ การพัฒนาตัวรถให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลงมา ตามแนวคิด TNGA เสริมจุดเด่นด้านการขับขี่อย่างได้ผล ที่โค้ง 4 ของสนามแห่งนี้ แคมรี สามารถใช้ความเร็วถึง 120-130 กม./ชม. โดยไม่ต้องแตะเบรคเลย ควบคุมรถได้ดี ไม่มีความหวาดเสียวแต่อย่างใด ขณะที่ช่วงโค้งต่อเนื่องสลับซ้าย/ขวาสามารถใช้ความเร็วในระดับ 80 กม./ชม. รวมถึงการขับแบบสลาลอมในระยะค่อนข้างชิด ใช้ความเร็วในระดับ 70 กม./ชม. ตัวรถมีความมั่นคงเป็นอย่างดี ควบคุมได้ดังใจ นั่นคือ อารณ์การขับขี่ที่เราได้สัมผัสในรุ่น 2.5 จี
สรุป หรูหรา มาดสปอร์ท ขับขี่มั่นใจ
ซีดานหรูรุ่นนี้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การขับขี่มีความมั่นคง ควบคุมได้ดังใจ ระบบรองรับหนึบกำลังดี มั่นคงในโค้ง มีมาดสปอร์ทที่ผสมผสานอย่างพอเหมาะ ทั้งรูปทรง และการขับขี่ ใครที่ชอบใช้ความเร็วสูง เรียกอัตราเร่งได้ดังใจ ขับขี่บนทางไกลเป็นประจำ รุ่น 2.5 จี มีความเหมาะสมมาก ภายใต้การประหยัดเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น ในขณะที่รุ่น เอชวี พรีเมียม เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงในตัวเมือง เน้นความนุ่มนวล ภูมิฐาน ภายใต้สมรรถนะที่ดีไม่แพ้กัน แถมยังมีจุดเด่นในแง่ของการประหยัดเชื้อเพลิงด้วย