มาซดา ซีเอกซ์-5

บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมทดลองขับรถเอสยูวีใหม่ มาซดา ซีเอกซ์-5 (MAZDA CX-5) เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ (SKYACTIV TECHNOLOGY) รอบ 2 แต่เน้นไปที่เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 และ 2.5 ลิตร ซึ่งใช้ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า ในเส้นทางกรุงเทพ ฯ-ป่าละอู-กุยบุรี  

ซีเอกซ์-5 เครื่องยนต์เบนซิน ทั้ง 2.0 และ 2.5 ลิตร

ซีเอกซ์-5 เครื่องยนต์เบนซิน ทั้ง 2.0 และ 2.5 ลิตร ที่ มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) ฯ จัดมาให้ทดลองขับ เป็นรุ่นเอส (S) จึงมีหน้าตาเหมือนกับรุ่น เอกซ์ดีแอล (XDL) เครื่องยนต์ดีเซล ตั้งแต่ไฟหน้าแบบพโรเจคเตอร์ ไบ-ซีนอน ที่มาพร้อมระบบปรับมุมลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติตามการเลี้ยวของรถ หรือ AFS (ADAPTIVE FRONT-LIGHTING SYSTEM) ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน และระบบฉีดน้ำทำความสะอาดไฟหน้า ไปจนถึงไฟท้าย ใต้กันชนหน้า/หลัง สเกิร์ทด้านข้างและคิ้วซุ้มล้อเป็นสีดำ ดูสปอร์ทดุดัน สมกับเป็นเอสยูวี

ห้องโดยสารตกแต่งสไตล์สปอร์ท

เรือนไมล์ทรงกลม เข็มมาตรวัดสีเงิน ติดตั้งจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (MULTI INFORMATION DISPLAY) พวงมาลัยแบบ 3 ก้านทรงสปอร์ท พร้อมระบบมัลทิฟังค์ชัน ควบคุมเครื่องเสียงและจอแสดงข้อมูลที่พวงมาลัย ผู้ขับใช้งานสะดวก ระบบปรับอากาศแบบแยกปรับอุณหภูมิอิสระซ้าย/ขวา เหมือนกันทั้ง 2 รุ่น

 

เบาะหนังทรงกึ่งบัคเกทซีท

สีดำเย็บด้วยด้ายสีแดง โอบกระชับผู้ขับและผู้โดยสาร เบาะนั่งฝั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง ช่วงขาและเข่ามีพื้นที่กว้างและนั่งได้สบาย เบาะนั่งพนักพิงแถวหลัง แยกปรับอิสระได้ 3 ส่วน แบบ 40:20:40 สามารถปรับพับเบาะนั่งแถวหลังให้เป็นพื้นราบเรียบ ขนสัมภาระขึ้น/ลงได้สะดวก

ซีเอกซ์-5 ยังโดดเด่นด้วยเครื่องเสียง BOSE บแรนด์ระดับไฮเอนด์ พร้อมลำโพง 9 ตำแหน่ง ในรุ่น 2.5 เอส และ 6 ลำโพงในรุ่น 2.0 เอส รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB และ BLUETOOTH ติดตั้งกล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะ

เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ

เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ เบนซิน 2.0 ลิตร 165 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. กับแรงบิด 21.4 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. ดูตัวเลขแล้วไม่น่าสนใจเท่ารุ่น 2.5 ลิตร 192 แรงม้า ที่ 5,700 รตน. แรงบิด 26.1 กก.-ม. ที่ 3,200 รตน. แต่น้ำหนักตัวรถที่เบากว่า 62 กก. และระบบขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ใหม่ ช่วยให้ขับง่าย เดินทางสบาย และพอมีกำลังเร่งแซง เมื่อต้องการใช้งาน ส่วนเรื่องความแรง เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร มีให้มากกว่าที่คิด ถึงแม้กำลังไม่ถึง 200 แรงม้า แต่ด้วยแรงบิดก็ทำเอาหลังติดเบาะ และแรงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นจนถึงปลาย ทำความเร็วได้ไหลลื่นต่อเนื่อง ไม่เป็นรองเครื่องยนต์ดีเซล

เรื่องความประหยัดตามมาตรฐานญี่ปุ่น ทั้ง 2 รุ่นทำได้ 16 และ 15 กม./ลิตร ซึ่งไม่ต่างกัน จากการทดลองขับที่รอบ 2,000 รตน. ที่เกียร์สุดท้าย 2.0 ลิตร อยู่ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ขณะที่ 2.5 ลิตร ไปที่ 110 กม./ชม. (ตัวเลขหน้าจอ) ผลคือ ประมาณ 13 กม./ลิตร (7.3-7.7 ลิตร/100 กม.)

ช่วงล่างหน้า/หลังอิสระ

และเหล็กกันโคลง รวมถึงระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัว ดีเอสซี ระบบควบคุมล้อหมุนฟรี ทีซีเอส ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน เอชแอลเอ เซนเซอร์กะระยะหน้า/หลัง 8 จุด โครงสร้างตัวรถ รวมถึงการเซทอัพช่วงล่าง และการพัฒนาระบบบังคับเลี้ยวแบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า ด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ทำให้สามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ ทั้งในทางตรงและทางโค้ง การทำงานของช่วงล่างทำได้อย่างลงตัว นั่งสบาย อาการโยนและโคลงของตัวรถมีน้อย ในรุ่น 2.0 เอส ล้อขนาด 17 นิ้ว และยางขนาด 225/65 R17 นุ่มแต่หนึบ ส่วนรุ่น 2.5 เอส ใช้ล้อขนาด 19 นิ้ว และยางขนาด 225/55 R19 ขับได้ค่อนข้างมั่นใจ และไม่ส่งผลให้ตัวรถสะเทือน หรือรู้สึกถึงอาการแข็งกระด้าง

เบรคหน้าแบบจาน พร้อมครีบระบายความร้อน เบรคหลังแบบจาน พร้อมระบบป้องกันล้อลอค เอบีเอส ระบบกระจายแรงเบรค อีบีดี และระบบช่วยเบรค บีเอ ที่ให้มาช่วยให้การควบคุมรถง่าย

มาซดา ซีเอกซ์-5 รุ่น 2.0 เอส ราคา 1.3 ล้านบาท เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่ถ้าจะเอาแบบแรงเหลือก็ต้องขยับไปจับรุ่น 2.5 เอส ที่ต้องจ่ายเพิ่มอีก 140,000 บาท

ฟันธง

มาซดา ซีเอกซ์-5 เบนซิน 2.5 เอส ขับสนุก เลือกได้ถ้าไม่เน้นขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือเน้นออพชันเต็ม 2.0 เอส ก็น่าใช้