ทดลองขับ(formula)
เมร์เซเดส-เบนซ์ ซี 300 บลูเทค ไฮบริด
เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ฯ เชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมกิจกรรม \"MERCEDES-BENZ DRIVING EVENTS 2015\" ที่สนามแข่งรถ ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท จังหวัดบุรีรัมย์ กับรถยนต์มากมายหลากหลาย ถึง 19 รุ่นด้วยกัน โดยเราเน้นรุ่น ซี 300 บลูเทค ไฮบริด เอสเตท เนื่องจากเพิ่งเปิดตัวมาหมาดๆ ในงาน MOTOR EXPO 2014 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป
ภายนอก สปอร์ทแวกอน คมเข้ม
แม้ เมร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาสส์ จะเปิดตัวมาได้ระยะหนึ่งแล้วในบ้านเรา แต่นี่เป็นครั้งแรกกับการนำเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ขับเคลื่อนร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ระบบไฮบริด และยังเพิ่มทางเลือกด้วยรุ่นแวกอน จากเดิมที่ก่อนหน้านี้มีแค่ตัวถังซีดาน ถึงอย่างนั้น ซี 300 บลูเทค ไฮบริด เอสเตท ยังมีความปราดเปรียวไม่แพ้กัน เสริมมาดเข้มด้วยชุดแต่ง เอเอมจี สปอร์ท รวมถึงล้อแมกลาย 5 ก้าน ขนาด 18 นิ้ว โดยรวมแล้วรถรุ่นนี้แสดงความเป็นรถแวกอนสมัยใหม่ ที่มีความปราดเปรียวไม่แพ้รุ่นซีดานเลยทีเดียว
แม้พิจารณารูปทรงเทียบกับรุ่นพี่และรุ่นน้องร่วมค่ายที่ได้ทำการทดลองขับในกิจกรรมครั้งนี้แล้ว เราพบว่า ซี-คลาสส์ มีส่วนผสมของรุ่นใหญ่อย่าง เอส-คลาสส์ พอสมควร ขณะที่ความปราดเปรียวด้วยเส้นข้างตัวถังที่โค้งลงจรดด้านท้ายดูคล้ายกับสปอร์ทซีดาน ซีแอลเอส ขณะที่รูปแบบของไฟท้ายมีส่วนคล้ายกับ อี-คลาสส์ ดังนี้แล้ว ซี-คลาสส์ รุ่นล่าสุด เป็นเหมือนการรวมจุดเด่นทางด้านรูปทรงของรถในสายการผลิตของ เมร์เซเดส-เบนซ์ ก็ว่าได้
ภายใน เร้าใจ ใช้งานสะดวก
การตกแต่งภายในของ ซี 300 บลูเทค ไฮบริด อิงรูปแบบจากแนวทางยุคใหม่ของค่ายรถแห่งนี้ ดังที่เห็นได้จาก ช่องแอร์ทรงกลม คอนโซลกลางที่มีความหนา เพิ่มความรู้สึกโอ่อ่า พวงมาลัยแบบสปอร์ทหักมุมที่ด้านล่างเล็กน้อยราวกับรถสปอร์ทพันธุ์แท้ รวมไปถึงเบาะนั่งที่อยู่ในระดับต่ำ เห็นได้ชัดว่า ซี-คลาสส์ รุ่นล่าสุด ออกแบบได้อย่างเร้าใจ แต่ไม่ลืมที่จะติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย บางรายการมีติดตั้งในรถหรูอย่าง เอส-คลาสส์ ด้วยซ้ำ เช่น ระบบควบคุมการทำงานแบบระบบสัมผัส
เครื่องยนต์ แรงไม่น้อยหน้า ขับสนุก
ไฮไลท์สำคัญของกิจกรรมในครั้งนี้ คือ การขับรอบสนามแข่ง ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท โดยมีผู้ฝึกสอนขับนำหน้า พละกำลังของเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.1 ลิตร กำลัง 204 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ระบบไฮบริด กำลัง 27 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ พูดได้เลยว่าไม่มีปัญหาใดๆ ที่จะขับตามบรรดารถสปอร์ทที่อยู่ในขบวน ไม่ว่าจะเป็น เอ 45 เอเอมจี หรือ ซีแอลเอส 45 เอเอมจี ที่มีพละกำลังถึง 360 แรงม้า นั่นเชียว !! ดังนี้แล้วในแง่ของสมรรถนะ รถแวกอนขุมกำลังไฮบริดคันนี้ถือว่าทำได้อย่างน่าพอใจ ขับสนุก แม้ในสนามแข่ง การตอบสนองคันเร่งฉับไว จนเราแทบจะลืมไปเลยว่านี่คือเครื่องยนต์ดีเซล อัตราเร่งถูกปลดปล่อยออกมาทันใจราวกับเครื่องยนต์เบนซินแบบไร้ระบบอัดอากาศด้วยซ้ำ
ระบบรองรับ หนึบน่าพอใจ นุ่มกำลังดี
ซี 300 บลูเทค ไฮบริด เป็นรุ่นย่อย เอเอมจี ไดนามิค นอกจากชุดแต่งภายนอกแล้ว ยังติดตั้งช่วงล่างแบบสปอร์ท มีความหนึบแน่นมากกว่ารุ่นพื้นฐาน สามารถเข้าโค้งต่อเนื่องของสนามแข่งรถแห่งนี้ได้สบายแม้ในช่วงความเร็วสูง การบังคับควบคุมอยู่มือ ไม่มีอาการดื้อโค้ง หรือโคลงจนเสียการทรงตัว แต่เราสังเกตว่าความนุ่มนวลยังคงมีให้สัมผัสในระดับที่พอเหมาะ สมกับเป็นรถที่เผื่อเหลือให้การใช้งานในชีวิตประจำวัน ตัวถังแบบแวกอนที่มีส่วนท้ายขนาดใหญ่ ไม่มีปัญหาในการพุ่งทะยานในสนามแข่งรถแห่งนี้ ใครที่กังวลว่ารถยนต์ประเภทนี้จะมีความเทอะทะ ขอให้เปลี่ยนความคิดได้
ในส่วนของรถคันอื่นที่เราได้ทดลองขับ ซี 300 บลูเทค ไฮบริด จะเน้นความคล่องตัว ส่วนทางด้านรุ่นน้องอย่าง เอ 250 เอเอมจี สปอร์ท ค่อนข้างหนึบ กระด้าง ส่วนรุ่นใหญ่กว่าอย่าง อี-คลาสส์ และเอส-คลาสส์ แม้จะมีความมั่นคงเป็นอย่างดี แต่ช่วงล่างยังคงเน้นความนุ่มนวล
สรุป ดาว 3 แฉก ที่มีความสมดุลอย่างเหนือชั้น
จากการได้ทดลองขับผ่านสถานีการฝึกสอนทั้ง 3 แห่ง รวมไปถึงการขับรอบสนามแข่งรถ ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท เรามีความรู้สึกว่าในบรรดารถยนต์ทั้ง 19 รุ่น ซี 300 บลูเทค เอสเตท มีความสมดุลมากที่สุดรุ่นหนึ่ง ไม่ว่าจะในแง่ความหนึบของช่วงล่าง ความนุ่มนวลที่เหมาะสม สมรรถนะที่ดีเยี่ยม และการใช้สอยที่หลากหลายในสไตล์รถแวกอนสมัยใหม่ ด้วยขุมกำลังไฮบริดกับเครื่องยนต์ดีเซลที่มีความลงตัวอย่างที่หาไม่ได้ง่ายๆ ในรถยนต์ระดับเดียวกัน !!