ทดลองขับ(formula)
ลัมโบร์กินี อูรากัน แอลพี 580-2
ลัมโบร์กินี อูรากัน สำแดงความเป็นรถสมรรถนะสูง ระดับ 580-610 แรงม้า ปลดปล่อยอัตราเร่งได้ในพริบตา ซุ่มเสียงเร้าใจ ผสมผสานความสะดวกสบายขณะขับขี่เกินคาด กิจกรรม LAMBORGHINI ESPERIENZA เปิดประสบการณ์สมรรถนะระดับ “ซูเพอร์คาร์” กับ ลัมโบร์กินี อูรากัน บนสนามแข่งรถระดับโลก ณ สนามช้างอินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท จ. บุรีรัมย์
ภายนอก สปอร์ทที่เปี่ยมด้วยเหลี่ยมสัน
คันแรก คือ อูรากัน แอลพี 610-4 ที่เราเคยได้ทดลองขับมาแล้วก่อนหน้านี้เมื่อต้นปี 2015 ตัวถังสไตล์สปอร์ท หลังคาแข็ง เครื่องยนต์วางกลางลำ มีเอกลักษณ์ คือ เส้นสายทำมุมแบบ 6 เหลี่ยม ทั่วทั้งคัน และบรรดามุมแหลมของ อูรากัน นี่เอง ทำให้รถคันนี้ดูราวกับลูกศรอันเฉียบคม พร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้า ขณะที่อีกหนึ่งรุ่น คือ อูรากัน แอลพี 580-2 มีรูปทรงที่ใกล้เคียงกัน บริเวณช่องรับอากาศด้านหน้า และท่อไอเสียจะดุดันกว่าเล็กน้อย สุดท้าย คือ ตัวถังที่เน้น "สไตล์" มากที่สุด กับสปอร์ทเปิดประทุน อูรากัน แอลพี 610-4 สไปเดอร์ แฝงการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์อย่างพิถีพิถัน ผู้โดยสารจะไม่พบกับลมหวนปะทะขณะที่รถแล่น
ภายใน ปุ่มมากมายราวกับเครื่องบินรบ สบายเกินคาด
ภายในห้องโดยสาร เบาะนั่งโอบสรีระ แต่ไม่อึดอัด ตัวรถที่มีระดับต่ำอาจทำให้การเข้า/ออกทำได้ไม่สะดวกนัก ปุ่มใช้งานต่างๆ มีมากมาย แผงหน้าปัดแบบดิจิทอล เน้นการแสดงผลของรอบเครื่องยนต์ ส่วนตัวเลขความเร็วเป็นแบบดิจิทอล การแสดงผลสามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย แป้นแพดเดิล ชิฟท์ขนาดใหญ่ ติดตั้งกับคอพวงมาลัย นั่งได้สบายเกินคาด ไม่อึดอัดอย่างที่คิด ความประณีตของการตกแต่งนั้นหายห่วง สมราคารถสปอร์ทราคาร่วม 20 ล้านบาท และยังสามารถเลือกการตกแต่งได้ตามใจผู้เป็นเจ้าของ
เครื่องยนต์ พละกำลังที่จัดจ้านอย่างแท้จริง
การทดลองขับเปิดโอกาสให้เหล่าสื่อมวลชนได้สัมผัสทั้งรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ แอลพี 610-4 และขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง แอลพี 580-2 แม้ตัวเลขแรงม้าจะแตกต่างกันบ้าง ตามความเหมาะสมของระบบขับเคลื่อน แต่ในแง่ความดุดันนั้นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
การขับขี่เริ่มด้วยการปรับโหมดของระบบ ANIMA (มีความหมายว่า "จิตวิญญาณ") ไปที่ STRADA นั่นคือ การขับขี่ทั่วไปบนท้องถนน เพื่อทำความคุ้นเคยเป็นอันดับแรกหลังจากเข้าสู่พื้นที่ของสนามแข่ง แม้จะเป็นโหมดของระบบขับเคลื่อนที่เน้นความนุ่มนวลมากที่สุด แต่เมื่อใดที่กดคันเร่งลึกในช่วงทางตรง อูรากัน ก็พร้อมสำแดงเดชออกมาทุกเมื่อ เสียงคำรามที่เร้าใจ แสดงให้เห็นว่าสมรรถนะที่อัดแน่นใน อูรากัน สามารถปลดปล่อยออกมาได้ในพริบตา
ในรอบถัดมา ผู้ขับเปลี่ยนเป็นโหมด SPORT เสียงการทำงานของเครื่องยนต์เปลี่ยนไปเล็กน้อย แว่วเสียงคำรามที่ทุ้มต่ำ การคิคดาวน์ในช่วงทางตรงให้ซุ่มเสียงที่สมกับความเป็นซูเพอร์คาร์ขนานแท้ ดุดัน แต่ไพเราะ อย่างที่ไม่อาจพบเจอในรถยนต์ทั่วไป
ยังมีอีกหนึ่งโหมดให้เลือกใช้ นั่นคือ CORSA เป็นโหมดที่มีการตอบสนองอย่างดุดันเหมือนโหมด SPORT แต่จะลดการทำงานของระบบช่วยเหลือต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ขับแสดงฝีมือขณะควบคุมกระทิงพยศตัวนี้ แน่นอนว่าระบบเกียร์จะถูกปรับให้เป็นแบบ MANUAL โดยสมบูรณ์ เราแนะนำว่าโหมด CORSA เหมาะสำหรับการลุยสนามแข่งมากกว่า ไม่ควรใช้บนท้องถนน และผู้ขับควรมีทักษะการขับขี่พอสมควร
ระบบรองรับ ควบคุมง่าย หนึบแน่นทุกรุ่น
ในแง่ของความแตกต่างระหว่าง แอลพี 610-4 และ แอลพี 580-2 รุ่นแรกจะเน้นความหนึบแน่น และมั่นคง ส่วนรุ่นถัดมาจะเน้นอารมณ์สปอร์ทแบบดั้งเดิม การเข้าโค้งที่ใช้องศามากกว่าเล็กน้อย แต่ชดเชยด้วยความเร้าใจขณะเข้าโค้ง หากจะว่ากันตามทฤษฎีแล้ว ส่วนในการทดลองขับจริง การขับขี่แบบท้ายกวาด (หรือเรียกกันว่า "ดริฟท์") เป็นสิ่งที่ไม่สมควรกระทำ เพราะนอกจากจะอันตรายแล้ว ยังอาจทำความเสียหายให้กับตัวรถ โดยเฉพาะยางที่ใช้ แต่ขณะทำการขับขี่บนสนามแข่ง เรามีความรู้สึกว่า การบังคับควบคุมของ อูรากัน แอลพี 580-2 เชื่องมือกว่าเล็กน้อย ส่วนหนึ่งอาจเพราะรูปแบบของระบบขับเคลื่อนที่คุ้นชินมากกว่าก็เป็นได้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจของรถสปอร์ทจาก ลัมโบร์กินี
กระทิงดุที่พร้อมจู่โจมทุกเมื่อ
ลัมโบร์กินี อูรากัน แสดงถึงความเป็นรถสปอร์ทสมัยใหม่ นั่นคือ ความหลากหลายของการใช้งาน ภายใต้โหมด STRADA รองรับการขับขี่ได้ดีในช่วงความเร็วต่ำ เสมือนการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน (แต่ก็พร้อมเล่นงานคู่ต่อกรทุกเมื่อ หากเอาจริง) ขณะที่โหมด SPORT คือ ตัวตนที่แท้จริงของ ลัมโบร์กินี กับความดุดัน และเร้าใจอย่างสุดยอด ผู้ขับต้องมีสมาธิกับการขับขี่ให้ดี แม้ระบบช่วยเหลือต่างๆ ยังคงทำงานอยู่ แต่พละกำลังร่วม 610 และ 580 แรงม้า ของแต่ละรุ่น คือ สิ่งที่มีอิทธิพลต่อการขับขี่เหนือสิ่งอื่นใด