ทดลองขับ(4wheels)
นิสสัน เอนพี 300 นาวารา ใหม่
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดทริพทดลองขับรถกระบะแกร่งสายพันธุ์ใหม่ นิสสัน เอนพี 300 นาวารา ใหม่ บนเส้นทางแม่ริม-แม่แตง จ. เชียงใหม่ โดยกิจกรรมครั้งนี้ เป็นการพิสูจน์สมรรถนะของ นิสสัน เอนพี 300 นาวารา ใหม่ ทั้งบนทางเรียบ และทางทุรกันดาร โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง ภาคเช้า ระยะทาง 108.9 กม. เป็นการทดลองสมรรถนะการขับขี่ การทรงตัวต่างๆ บนเส้นทางทุรกันดาร ผ่านบ้านสบเปิง บ้านสบก๋าย ลัดเลาะชมความงามของแม่น้ำแม่แตง แม่ตะมาน ซึ่งเส้นทางช่วงนี้เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักขับรถ 4x4 ที่ชอบท้าทายความยากลำบากของเส้นทางแคบและคดเคี้ยวลัดเลาะไปตามสันเขา ก่อนที่จะวนกลับมาลองของในสนาม 4x4 ที่จัดสร้างขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อให้เราได้ลองสมรรถนะ และระบบช่วยเหลือในการขับขี่ ซึ่งครั้งนี้ วิศวกรของ นิสสัน "จัดเต็ม" โดยเฉพาะในรุ่นดับเบิลแคบ 4WD VL 7AT ซึ่งเป็นรุ่นทอพที่เราได้ทดลองขับ ส่วนภาคบ่าย เป็นการทดลองขับบนเส้นทางไฮเวย์ ระยะทาง 97 กม. ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 107 จากแม่ริม มุ่งหน้าขึ้นเหนือไปแม่แตง แวะพักที่น้ำตกเจ็ดสี ก่อนที่จะใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1001 กลับเข้าแม่ริม
ภายนอก
รูปลักษณ์ภายนอกของ เอนพี 300 นาวารา ใหม่ ดูคมเข้ม โดยเฉพาะด้านหน้าที่บึกบึนขึ้น มีครีบทั้งซ้าย/ขวา ทำให้ตัวรถดูสูงและมีมุมมองที่แปลกตา จุดเด่นอยู่ที่ไฟหน้าแบบแอลอีดี พโรเจคเตอร์ พร้อมเดย์ไทม์ รันนิง ไลท์ กระจังหน้าขนาดใหญ่ ถัดลงมาเป็นไฟตัดหมอก ช่วยเสริมให้ด้านหน้ารถดูคมเข้ม และลงตัวกับกันชนหน้า และโป่งล้อด้านข้าง ส่วนด้านท้ายกระบะ มีสปอยเลอร์บนฝาท้ายกระบะ ช่วยกดอากาศท้ายรถ ทำให้ตัวรถนิ่ง และยังใช้ประโยชน์ในการขนย้ายสัมภาระต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภายใน
ภายในห้องโดยสาร โดดเด่นและหน้าตาดี มีทั้งดีไซจ์นและความทันสมัยที่ล้ำหน้าคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่แผงหน้าปัดขนาดใหญ่ หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี 3 มิติ ขนาด 5 นิ้ว ช่วยบอกข้อมูลการขับขี่ เช่น ระยะทาง ความเร็วเฉลี่ย และอัตราการใช้น้ำมัน เป็นต้น ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และระบบแอร์อัตโนมัติ แยกอิสระปรับซ้าย/ขวา ช่วยกระจายความเย็นอย่างทั่วถึงทุกตำแหน่งเบาะนั่งในห้องโดยสาร เบาะนั่งแบบ SPINAL SUPPORT พร้อมระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ให้ความสบายกับผู้ขับขี่ นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่จัดเต็มทุกฟังค์ชันการใช้งาน อาทิ ปุ่ม PUSH START พร้อมกุญแจรีโมท พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ควบคุมระบบครูสคอนทโรล ช่องเสียบ USB ระบบ GPS กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ พร้อมเข็มทิศดิจิทอล ที่วางแก้วน้ำ ที่เก็บแว่นตา ไฟอ่านแผนที่ และที่เก็บของหลายจุด
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์รุ่นใหม่ รหัส YD25DDTI ความจุ 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รตน. แรงบิดสูงสุด 45.9 กก.-ม. ที่ 2,000 รตน. มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ที่สามารถปรับแมนวลโหมดได้ด้วย เครื่องยนต์ให้แรงบิดสูงที่รอบต่ำ ทำให้มีพละกำลังในการขับเคลื่อนที่เหลือเฟือ โดยเฉพาะในเส้นทางทุรกันดารที่ได้ทดลองแล้วจะติดใจ หลุม บ่อ หรือทางโคลน ไม่ใช่อุปสรรคในการขับขี่
ระบบรองรับ
ระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบแหนบแผ่นซ้อน พร้อมชอคอับ ส่วนระบบความปลอดภัยมีมาให้ครบครัน อาทิ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VDC) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) ระบบเบรคเอบีเอส (ABS) ระบบกระจายแรงเบรค (EBD)
ส่วนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมโหมด 4H/4LO และระบบการปรับเปลี่ยนโหมดขับเคลื่อน SHIFT-ON-THE-FLY ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนโหมดได้ทันทีที่ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. นอกจากนี้ เรายังได้ลองระบบ HSA (HILL START ASSIST) ที่ช่วยให้การขับขึ้นทางชัน ทำได้ง่ายขึ้นไปอีก และระบบ HDC (HILL DESCENT CONTROL) เพื่อช่วยควบคุมการขับขี่ให้ไร้อุปสรรค เพิ่มอรรถรสการขับขี่ในสนาม 4x4 เป็นไปอย่างสนุกสนาน ส่วนบนถนนเรียบ ให้สามคำ "นายแน่มาก" ความเร็วที่ระดับ 90 กม./ชม. ใช้รอบเครื่องยนต์แค่ 1,600 รตน. พอกดคันเร่งเติมความเร็วไปที่ 100 กม./ชม. รอบเครื่องยนต์ขยับขึ้นไปอีก 200 รตน. ทำได้เนียนๆ ไม่มีกระตุก เกียร์ชุดใหม่ 7 จังหวะ ที่วิศวกร นิสสัน นำมาใช้
สรุป
ต้องบอกว่าให้อัตราทดเกียร์ที่ไหลลื่น ต่อเนื่อง ไม่มีสะดุดหรือรอรอบ กดคันเร่งเมื่อไหร่ แรงม้าวิ่งมาทันที สำหรับช่วงล่าง แน่นอนครับว่า เซทนี้ทำงานได้ดีกว่าเดิม อาการหลังเด้งน้อยลง เพราะแหนบที่ยาวขึ้น โดยรวมแล้วขับสนุก ทัศนวิสัยดี และเครื่องแรงเร้าใจ