ฮอนดา กับเครื่องยนต์ วีเทค เป็นของคู่กัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจ ทื่จะมี แจซซ์ รุ่น วีเทค ตามมาทั้งๆที่มีเครื่องยนต์ ไอ-ดีเอสไอ อยู่แล้ว แต่ที่หลายคนอยากรู้ และสนใจก็คือ เรื่องความแรงและความลงตัวกับเกียร์อัตโนมัติ ซีวีที 7 จังหวะ  

ฮอนดา กับเครื่องยนต์ วีเทค เป็นของคู่กัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจ ทื่จะมี แจซซ์ รุ่น วีเทค ตามมาทั้งๆ ที่มีเครื่องยนต์ ไอ-ดีเอสไอ อยู่แล้ว แต่ที่หลายคนอยากรู้ และสนใจก็คือ เรื่องความแรง และความลงตัวกับเกียร์อัตโนมัติ ซีวีที 7 จังหวะ ภายนอก เดิมๆ เสริมชุดแต่ง ฮอนดา แจซซ์ รุ่น วีเทค ยังคงรูปลักษณ์ภายนอกของรุ่น ไอ-ดีเอสไอ เอาไว้ทั้งหมด แต่เสริมแต่งสไตล์สปอร์ทด้วยชุดสปอยเลอร์หลัง และสเกิร์ทรอบคัน ชุดสเกิร์ทแบบเสริมปลายของรุ่น วีเทค นั้น ไม่ใหญ่โตและดูอลังการ ไม่ได้ติดตั้งสปอทไลท์มาให้เหมือนกับรุ่น สปอร์ท ที่ออกมาก่อนหน้านี้ แต่ก็พอจะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับรถ 5 ประตูคันเดิมได้บ้าง ส่วนเสาอากาศใหม่ที่สั้นกว่าเดิม และย้ายมาไว้ด้านหลังนั้น ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บอกให้รู้เป็นรุ่น วีเทค ภายใน สีดำ เน้นมาดสปอร์ท ดีไซจ์นหลักๆ ยังคงจุดเด่นเรื่องความสะดวกสบายแบบรถคนเมือง ห้องโดยสารกว้างขวาง และเบาะนั่งแบบอุลทราซีท ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลายรูปแบบ เบาะนั่งหลังสามารถพับแยก 60/40 ขึ้น/ลง หรือพับเก็บได้ตามความต้องการ ผ้าหุ้มเบาะนั่งลายใหม่โทนสีดำสไตล์สปอร์ทที่ใช้อยู่ แจซซ์ วีเทค เป็นวัสดุตัวเดียวกับที่ใช้ใน ฟิท (FIT) รุ่น ทอพ ไม่เพียงช่วยสร้างความแตกต่างจากรุ่น ไอ-ดีเอสไอ ยังทำให้ดูสปอร์ท และน่าใช้มากยิ่งขึ้น เครื่องยนต์ ไหลลื่น ต้นจัดปลายแรง แจซซ์ วีเทค ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ซิงเกิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 16 วาล์ว วีเทค 110 แรงม้า ตัวเดียวกับ ซิที วีเทค ซึ่งมีกำลังแรงดีขึ้นในช่วงปลาย รถที่ใช้ทดลองขับครั้งนี้ เป็น แจซซ์ วีเทค รุ่น 1.5 อี-วี เอเอส ซึ่งใช้ทั้งแบบเกียร์อัตโนมัติ ซีวีที 7 จังหวะ ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 10 วินาที ดีกว่ารุ่น ไอ-ดีเอสไอ อยู่ประมาณ 1-2 วินาที และปลายราวๆ 180 กม./ชม. ก็ถือว่าดีพอใช้ สำหรับเครื่องยนต์ วีเทค ตัวเล็กๆ ระบบรองรับ กระชับ ควบคุมง่าย ช่วงล่างเดิมๆ เติมจานเบรคหลังในรุ่น วีเทค ก็เพียงพอกับแรงม้าที่เพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 22 ตัว ได้อย่างสบาย สำหรับ แจซซ์ วีเทค รุ่น 1.5 อี-วี เอเอส ที่มีระบบเบรคเอบีเอส และอีบีดี มาช่วย การควบคุมรถเมื่อถึงคราวเบรคแบบกะทันหัน ก็กลายเป็นเรื่องง่าย แต่ใช่ว่าจะขับกันเกิน 120 กม./ชม. แล้วหยุดได้ดั่งตั้งใจ กับระบบที่ให้มานั้น เพียงแต่ช่วยลดความแรงในระดับหนึ่งเท่านั้น สรุป ดีกว่า รุ่น สปอร์ท เมื่อเปรียบเทียบกับราคาที่ใกล้เคียงกันของ แจซซ์ ตัวแต่งพิเศษ กับรุ่น สปอร์ท แล้ว รุ่น วีเทค น่าสนใจกว่ามาก ทั้งภายในห้องโดยสาร และความแรงของเครื่องยนต์ ส่วนสปอทไลท์ที่ขาดไป ก็หาซื้อเพิ่มได้ในราคาไม่กี่พันบาท หรือจะไม่ใส่ก็ไม่น่าเกลียดอะไร แถมยังมีรุ่นประหยัดให้เลือกอีกด้วย ข้อมูลจำเพาะ ฮอนดา แจซซ์ 1.5 อี-วี เอเอส ตัวแทนจำหน่าย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2744-7744, 0-2744-7755 มิติ และน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 3,830/1,675/1,525 ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,460/1,445 ฐานล้อ (มม.) 2,450 น้ำหนักรถ (กก.) 1,070 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 42 เครื่องยนต์ แบบ 4 สูบเรียง SOHC 16 วาล์ว วีเทค ความจุ (ซีซี) 1,496 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 73.0/89.4 อัตราส่วนกำลังอัด 10.4:1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 110/5,800 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 14.6/4,800 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์อัตโนมัติ (จังหวะ) 7 ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า ระบบรองรับ หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท ปีกนก คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง หลัง ทวิน เทรลิง อาร์ม คอยล์สปริง ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส และอีบีดี หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน หลัง จาน ราคา (บาท) 685,000

ภายนอก เดิมๆ เสริมชุดแต่ง

ฮอนดา แจซซ์ รุ่น วีเทค ยังคงรูปลักษณ์ภายนอกของรุ่น ไอ-ดีเอสไอ เอาไว้ทั้งหมดแต่เสริมแต่งสไตล์สปอร์ทด้วยชุดสปอยเลอร์หลัง และสเกิร์ทรอบคัน

ชุดสเกิร์ทแบบเสริมปลายของรุ่น วีเทค นั้น ไม่ใหญ่โตและดูอลังการ ไม่ได้ติดตั้งสปอทไลท์มาให้เหมือนกับรุ่น สปอร์ท ที่ออกมาก่อนหน้านี้ แต่ก็พอจะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับรถ 5 ประตูคันเดิมได้บ้าง ส่วนเสาอากาศใหม่ที่สั้นกว่าเดิม และย้ายมาไว้ด้านหลังนั้น ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บอกให้รู้เป็นรุ่น วีเทค

ภายใน สีดำ เน้นมาดสปอร์ท

ดีไซจ์นหลักๆ ยังคงจุดเด่นเรื่องความสะดวกสบายแบบรถคนเมือง ห้องโดยสารกว้างขวางและเบาะนั่งแบบอุลทราซีท ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลายรูปแบบ เบาะนั่งหลังสามารถพับแยก 60/40 ขึ้น/ลง หรือพับเก็บได้ตามความต้องการ

ผ้าหุ้มเบาะนั่งลายใหม่โทนสีดำสไตล์สปอร์ทที่ใช้อยู่ แจซซ์ วีเทค เป็นวัสดุตัวเดียวกับที่ใช้ใน ฟิท (FIT) รุ่น ทอพ ไม่เพียงช่วยสร้างความแตกต่างจากรุ่น ไอ-ดีเอสไอ ยังทำให้ดูสปอร์ท และน่าใช้มากยิ่งขึ้น

เครื่องยนต์ ไหลลื่น ต้นจัดปลายแรง

แจซซ์ วีเทค ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ซิงเกิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 16 วาล์ว วีเทค 110 แรงม้าตัวเดียวกับ ซิที วีเทค ซึ่งมีกำลังแรงดีขึ้นในช่วงปลาย

รถที่ใช้ทดลองขับครั้งนี้ เป็น แจซซ์ วีเทค รุ่น 1.5 อี-วี เอเอส ซึ่งใช้ทั้งแบบเกียร์อัตโนมัติ ซีวีที 7 จังหวะ ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 10 วินาที ดีกว่ารุ่น ไอ-ดีเอสไอ อยู่ประมาณ 1-2 วินาที และปลายราวๆ 180 กม./ชม. ก็ถือว่าดีพอใช้ สำหรับเครื่องยนต์ วีเทค ตัวเล็กๆ

ระบบรองรับ กระชับ ควบคุมง่าย

ช่วงล่างเดิมๆ เติมจานเบรคหลังในรุ่น วีเทค ก็เพียงพอกับแรงม้าที่เพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 22 ตัวได้อย่างสบาย

สำหรับ แจซซ์ วีเทค รุ่น 1.5 อี-วี เอเอส ที่มีระบบเบรคเอบีเอส และอีบีดี มาช่วย การควบคุมรถเมื่อถึงคราวเบรคแบบกะทันหัน ก็กลายเป็นเรื่องง่าย แต่ใช่ว่าจะขับกันเกิน 120 กม./ชม. แล้วหยุดได้ดั่งตั้งใจ กับระบบที่ให้มานั้น เพียงแต่ช่วยลดความแรงในระดับหนึ่งเท่านั้น

สรุป ดีกว่า รุ่น สปอร์ท

เมื่อเปรียบเทียบกับราคาที่ใกล้เคียงกันของ แจซซ์ ตัวแต่งพิเศษ กับรุ่น สปอร์ท แล้ว รุ่น วีเทค น่าสนใจกว่ามาก ทั้งภายในห้องโดยสาร และความแรงของเครื่องยนต์ ส่วนสปอทไลท์ที่ขาดไป ก็หาซื้อเพิ่มได้ในราคาไม่กี่พันบาท หรือจะไม่ใส่ก็ไม่น่าเกลียดอะไร แถมยังมีรุ่นประหยัดให้เลือกอีกด้วย