4 ประตู เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อนสองล้อ
มิตซูบิชิ สร้างกระแสพิคอัพสายพันธุ์ใหม่ ส่ง ทไรทัน ลุยตลาด ชูจุดเด่น ด้านการออกแบบและเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ทันสมัย จากประสบการณ์ระดับโลกในสนามแข่งขัน ดาการ์ แรลลี
หลังจากเปิดตัว 4 WHEELS ได้ทดลองขับรุ่นเครื่องยนต์ 3.2 เกียร์อัตโนมัติ และเครื่องยนต์ 2.5 เกียร์ธรรมดา GLS ดับเบิลแคบ ขับเคลื่อนสี่ล้อ มาแล้ว ครั้งนี้จึงนำรุ่น 4 ประตู GLX ดับเบิลแคบเครื่องยนต์ 2.5 ขับเคลื่อนสองล้อ เกียร์อัตโนมัติ มาทดสอบสมรรถนะด้วยเครื่องมือดาทรอนเอาใจสิงห์ทางเรียบบ้าง
มิตซูบิชิ ทไรทัน ออกแบบรูปทรงให้โค้งมน ดูล้ำสมัยและแปลกตา เน้นตัวรถลู่ลมได้ดี จากเสา A-PILLAR กระจกบังลมหน้าที่ลาดเอียง มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศต่ำเพียง 0.46 เป็นจุดเด่นด้านอากาศพลศาสตร์ ทำให้เกิดแรงกดบนตัวรถ ช่วยให้ยึดเกาะถนนได้ดีลดเสียงรบกวนจากแรงลมปะทะ และยังประหยัดเชื้อเพลิง
ไฟหน้ามีโคมฉายแบบมัลทิรีเฟลคเตอร์ พร้อมเลนส์กระจายแสงขนาดใหญ่ กระจังหน้าลายซี่ใหญ่ออกแบบโค้งมนรับกับตัวรถ ส่วนกันชนหน้า ตรงกลางทำมุมสูงจรดฝากระโปรงหน้ามีโลโก มิตซูบิชิ พร้อมช่องทรงกลมสำหรับติดตั้งไฟตัดหมอก ใต้กันชนออกแบบเป็นช่องตาข่ายสีดำช่วยให้อากาศผ่านได้ดี ไฟท้ายและฝาปิดท้ายออกแบบล้ำสมัย เหนือที่เปิดฝาท้ายยังติดตั้งไฟเบรคดวงที่ 3 กระจกมองข้างและฝาปิดถังน้ำมันออกแบบให้มี AERODYNAMIC LINE ช่วยรีดอากาศได้ดี พร้อมขีด 3 ขีด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกความเป็น ทไรทัน กระจกมองข้างและมือเปิดประตูแบบโครเมียม
ภายในดูโอ่อ่า คอนโซลหน้าขนาดใหญ่ ตัดด้วยสีทูโทน พวงมาลัย 3 ก้าน มาตรวัดใช้พื้นสีน้ำเงินตัดกับตัวเลขสีขาว พร้อมจอเรืองแสงแบบแอลซีดีขนาดใหญ่ บอกระยะทางและตำแหน่งเกียร์สำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ กลางคอนโซลด้านบน ครอบด้วยกรอบสีเงินเมทัลลิค รุ่นนี้ไม่มีระบบ RV METER (RECREATION METER) ที่ใช้แสดงข้อมูล ยังเป็นช่องสามารถเลื่อนเปิดและใช้เก็บของได้ ส่วนเครื่องเสียงรุ่นนี้เป็นแบบวิทยุ/เทป ลำโพง 4 ตัว ตรงประตูหน้า/หลังพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก อาทิ กระจกไฟฟ้า และกระจกมองข้างควบคุมด้วยไฟฟ้า
ด้านล่างเป็นชุดควบคุมระบบปรับอากาศที่ยังใช้มือหมุนปรับเองทรงกลม เบาะนั่งแบบผ้าทรงบัคเกทซีท สีทูโทน ให้ความสวยงาม นั่งแล้วค่อนข้างนุ่ม กระจกข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้ากระจกหลังมีไล่ฝ้า คอนโซลกลางพร้อมที่วางแก้วน้ำ มีช่องชาร์จไฟ 12 โวลท์ ด้านบนมีช่องสำหรับใส่แว่นตา ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 2 ขยายพื้นที่ให้ยาวขึ้นจากเดิม 810 มม. ทำให้ผู้โดยสารด้านหลังนั่งได้สบายขึ้น สะดวกในการก้าวขึ้น/ลงจากรถ
จากการวัดเสียงภายในห้องโดยสาร ขณะรถจอดอยู่กับที่ สตาร์ทเครื่องยนต์ปิดแอร์วัดได้ 43.2 เดซิเบล ขณะรถจอดอยู่กับที่ สตาร์ทเครื่องยนต์เปิดแอร์วัดได้ 44.2 เดซิเบล ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. วัดได้ 57.2 เดซิเบล ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. วัดได้ 65.5 เดซิเบล ที่ความเร็ว 140 กม./ชม. วัดได้ 71.7 เดซิเบล
เครื่องยนต์รุ่นนี้เป็นเครื่องยนต์เดิมที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ สำหรับรุ่น 2.5 GLS ใช้เครื่องยนต์ความจุ 2,477 ซีซี รหัส 4D56 ดีไอ-ดี ไฮเพอร์ คอมมอนเรล DOHC 16 วาล์ว พร้อมเทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ วาล์วไอดีแบบระบบหมุนเวียนอากาศ 2 ทิศทาง เพิ่มมวลอากาศให้หนาแน่น ช่วยเพิ่มกำลังอัด ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 4,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 32.7 กก.-ม. ที่ 2,000 รตน. ควบคุมการทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ 32 บิท พลังแรงจัดจ้านเร่งแซงฉับไวทุกรอบความเร็ว สามารถจ่ายน้ำมันที่ให้แรงดันสูงถึง 180 MPA (เมกะปาสคาล) พร้อมเทอร์โบชาร์จแบบใบพัดคู่
ระบบขับเคลื่อนเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อมโอเวอร์ดไรฟ ทำงานผ่านคำสั่งจากกล่องคอมพิวเตอร์ทำให้เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างนุ่มนวล ทุกรอบความเร็ว
หลังจากได้ลองขับรุ่น 2.5 GLS เครื่องยนต์ รหัส 4D56 ในรุ่นอัตโนมัติ 4 จังหวะ พบว่าเครื่องยนต์ให้อัตราเร่งที่ดี สำหรับการใช้งานทั่วไปที่รอบเดินเบา เสียงเครื่องยนต์ดังกว่าการเร่งรอบ ซึ่งน่าจะมาจากการเซทให้ประหยัดน้ำมัน การเร่งออกตัวทันใจ การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล การเร่งต่อเนื่องทำได้ดี โดยเฉพาะการเร่งแซง เร้าใจดีแตกต่างจากเครื่องยนต์รุ่นเดิมที่ยังไม่ได้ติดตั้งระบบคอมมอนเรล การเลี้ยวกลับรถในที่แคบทำได้ง่ายเพราะมีรัศมีวงเลี้ยวเพียง 5.9 เมตร
ผลจากเครื่องมือวัดสมรรถนะด้วยดาทรอน ในตำแหน่งเกียร์ “D” อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ใช้เวลา 16.0 วินาที ได้ระยะทาง 283.8 ม. อัตราเร่งจาก 0-400 ม. ใช้เวลา 19.9 วินาที และ 0-1000 ม. ใช้เวลา 37.2 วินาที
การตอบสนองสม่ำเสมอของอัตราเร่งช่วงต้นและกลาง 60-100 กม./ชม. ใช้เวลา 9.3 วินาที 80-120 กม./ชม. ใช้เวลา 13.8 วินาที ในขณะที่ความเร็ว 40-120 กม./ชม. ใช้เวลา 19.6 วินาที ระยะทาง 476.9 เมตร
ระบบรองรับใหม่ ด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ให้การยึดเกาะถนนดี นุ่มนวลนั่งสบายดุจรถเก๋ง ด้านหลังเป็นแหนบแผ่นซ้อน ติดตั้งใต้แกนเพลาช่วยให้ยึดเกาะถนนได้ดี แข็งแกร่งต่อการบรรทุก ติดตั้งชอคอับแบบไขว้ แข็งแรงทนทานรองรับได้ทุกสภาพถนน
ระบบเบรคหน้าแบบจาน พร้อมครีบระบายความร้อน และด้านหลังเป็นดุมเบรคขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน ทำงานร่วมกับหม้อลมเบรคขนาด 10 นิ้ว พร้อมวาล์วปรับแรงดันน้ำมันเบรค (LSPV) ตามน้ำหนักบรรทุก
การเซทระบบรองรับของรถพิคอัพ มิตซูบิชิ ทำได้ดีเหนือคู่แข่งค่ายอื่น ข้อเด่นของรุ่นนี้หลังจากได้ลองขับในแบบสลาลอมแล้ว เห็นได้ว่าระบบรองรับของรถยึดเกาะถนนได้ดีมากเข้าโค้งที่ความเร็วสูงยังควบคุมรถได้ดี ลองเข้าโค้งที่ความเร็วสูงให้รถเสียอาการแล้วแก้พวงมาลัยคืน ก็สามารถแก้ไขรถได้ง่าย การเลี้ยวกลับรถในที่แคบทำได้ง่ายเพราะมีรัศมีวงเลี้ยวเพียง 5.7 เมตร
สมรรถนะการยึดเกาะถนนที่ความเร็วปกติให้ความนุ่มนวลนั่งสบาย ในโค้งเกาะถนนดี ควบคุมพวงมาลัยได้แม่นยำ ส่วนเมื่อทำความเร็วสูงขึ้น รถค่อนข้างโยนตัวเล็กน้อย ในโค้งที่ความเร็วสูงต้องลดความเร็วช่วย หากนำมาเปลี่ยนยางให้มีขนาดกว้างขึ้นเล็กน้อย ดอกยางละเอียดกว่านี้น่าจะควบคุมรถได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม เพียงเท่าที่ให้มาก็จัดว่าให้ความปลอดภัยดีแล้วในพื้นที่ทุรกันดาร ระบบรองรับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การให้ตัวของระบบรองรับทำได้อย่างนุ่มนวล นั่งสบาย
ผลจากเครื่องวัดสมรรถนะดาทรอน ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. หยุดนิ่งได้ในระยะ 19.8 เมตรในเวลา 2.3 วินาที คิดเป็นแรงจี 0.78 และความเร็ว 80-0 กม./ชม. ในระยะ 33.4 เมตร เวลา 2.9 วินาที แรงจี 0.82 ตัวเลขดังกล่าวจะช่วยบอกถึงประสิทธิภาพในการเบรคของรถรุ่นนี้ได้
ทไรทัน เป็นรถพิคอัพสายพันธุ์ใหม่จาก มิตซูบิชิ ที่ออกแบบล้ำสมัย ภายในกว้างขวางนั่งสบาย เครื่องยนต์แบบคอมมอนเรลเน้นความประหยัด พร้อมระบบรองรับที่เซทมาได้ดีขึ้นน่าจะสร้างความคึกคักให้ตลาดรถพิคอัพในกลุ่มรถขับเคลื่อนสองล้อ 4 ประตู แบบครอบครัวได้ดีอีกรุ่น
Model | Price (THB) |
ยาว | 4,995 |
กว้าง | 1,750 |
สูง | 1,660 |
ชนิดลูกสูบ | L4 |
ความจุ/ซีซี | 2,477 |
แรงม้า/รตน. | 116/4,200 |
แรงบิด/รตน. | 25.2/2000 |
เกียร์/จังหวะ | A4 |
ขับเคลื่อน | R |
แอร์ | Yes |
พาวเวอร์ | Yes |
แมก | Yes |
เอบีเอส | No |
ถุงลม | No |