วิถีตลาดรถยนต์
ผ่าน 6 เดือนปรับลดเหลือ 8 แสน
[table]
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมิถุนายน 2015/2014
ตลาดโดยรวม,- 18.3 % รถยนต์นั่ง,- 35.9 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),- 2.0 % รถอเนกประสงค์ (MPV),- 29.0 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,- 8.8 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,+ 34.9 % อื่นๆ,+ 3.7 % [/table] [table]เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-มิถุนายน 2015/2014
ตลาดโดยรวม,- 16.3 % รถยนต์นั่ง,- 20.8 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),- 11.0 % รถอเนกประสงค์ (MPV),- 9.5 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,- 15.9 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,- 15.7 % อื่นๆ,+ 5.0 % [/table] ที่ปรับลดลงนี่ไม่ได้เป็นการปรับลดยอดหนี้สินให้กับพ่อแม่พี่น้องที่มีภาระต้องเจียดเงินรายได้แต่ละเดือนไปส่งต้นและดอกให้กับผู้เป็นเจ้าหนี้แต่อย่างใด เป็นการปรับลดประมาณการยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในประเทศประจำปี 2558 ที่ก่อนระฆังยกแรกของฤดูกาลซื้อขายรถใหม่ปี 2558 จะเริ่มต้นขึ้น บรรดาผู้เกี่ยวข้องในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ฟันธงว่าอย่างไรเสีย 900,000 คันในปีนี้ไม่น่าจะพลาด แต่เมื่อถึงช่วงเวลาค้าขายกันอย่างจริงจัง ตัวเลขยอดจำหน่ายรวมกันของรถใหม่ในประเทศผ่านไป 6 เดือนเรียบร้อยแล้ว กูรูทั้งหมดทั้งปวงพยักหน้าเห็นพ้องว่าต้องปรับทัศนคติใหม่เสียแล้ว 800,000 คันก็เอาให้ได้เสียก่อนเถอะ เป็นอันว่าต้องมาดูกันต่อไปว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในประเทศประจำปี 2558 ในครึ่งปีหลังบวกกับที่มีตุนอยู่แล้วจากครึ่งปีแรก จะสอดคล้องกับเป้าหมายที่เปลี่ยนแปลงใหม่หรือไม่ กับช่วงเวลาที่เหลืออยู่อีก 6 เดือน ยังมีงานโชว์รถยนต์ที่บวกพโรโมชันสุดพิเศษเอาไว้ให้ผู้ที่อยากได้รถใหม่ได้เลือกชอพ เลือกจับจองเป็นเจ้าของอีกถึง 2 งานใหญ่ ส่วนรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ยังมีเข้าคิวรอเปิดตัวเป็นหัวหอกหน้าใหม่ แย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดกันอีกมากหน้าหลายตา ทั้งในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล, รถพิคอัพ 1 ตัน, รถพิคอัพดัดแปลง และตลาดรถยนต์ประเภทอื่นๆ คงไม่ถึงกับต้องปรับเป้าหมายกันใหม่กันอีก ในช่วงเดือนมิถุนายน เป็นเดือนสุดท้ายของการค้าขายครึ่งปีแรก ตลาดรถพิคอัพกลับมาคึกคักแข่งขันกันเรียกลูกค้าเข้าโชว์รูมกันอย่างสนุกสนานอีกครั้งหนึ่ง ต่างจากตลาดรถยนต์นั่ง ที่เดือนนี้ไม่มีการเปิดตัวรถใหม่ใดๆ เข้าสู่ตลาด จะเรียกว่าเป็นเดือนเปิดหัวการตลาดอย่างจริงจังเข้มข้นของ โตโยตา ไฮลักซ์ รีโว ใหม่ ก็ว่าได้ เพราะหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีเวลาต้อนรับลูกค้าที่ขึ้นโชว์รูมมาดูพิคอัพเจเนอเรชันใหม่ แค่ไม่กี่วันก็หมดเดือนพฤษภาคม ปิดยอดจำหน่ายประจำเดือนเสียแล้ว เดือนมิถุนายนนี้จึงว่ากันเต็มเหนี่ยว แถมตัวรถก็ยังใหม่สด ไม่ต้องออกเรี่ยวออกแรงสักเท่าไร ลูกค้าก็เดินสายเข้ามาในโชว์รูมชนิดหัวบันไดไม่แห้ง ถ้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคนใดยังไม่มียอดรับจองพิคอัพใหม่นี้ ควรจะต้องพิจารณาตัวเองไปเดินขายเครื่องกรองน้ำ หรือแบกเสื่อไปขายแบบไดเรคท์เซลส์ตามหมู่บ้าน หรือชุมชมต่างๆ ได้แล้ว แต่ใช่ว่าทางของ โตโยตา ไฮลักซ์ รีโว จะราบรื่นปราศจากอุปสรรค หรือการสกัดกั้นแนวรุกของพิคอัพคู่แข่งขันอื่นเสียเลยทีเดียว เพราะอย่าง นิสสัน และมิตซูบิชิ ต่างก็งัดพโรโมชันพิเศษออกมาให้นักเลงรถกระบะต้องแวะดู โตโยตา แล้วย้อนมาพิจารณาเงื่อนไขที่หาไม่ได้ในสภาวะตลาดปกติของทั้ง 2 ค่ายอยู่เหมือนกัน ขณะที่พิคอัพค่ายอื่นๆ ก็เตรียมส่งรถใหม่ลงแข่งขันแบ่งปันส่วนแบ่งการตลาดในช่วงครึ่งปีหลังด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น เรนเจอร์ รุ่นปรับปรุงใหม่ของ ฟอร์ด, บีที-50 ใหม่ของ มาซดา ที่ว่ากันว่าจะทิ้งภาพลักษณ์เดิมไปอีกพอสมควร หรือ ดี-แมกซ์ ที่ถึงคิวต้องปรับครั้งย่อยรับสงครามการตลาดด้วยเหมือนกัน และเป็นอีกครั้งที่งานมหกรรมยานยนต์ปลายปีจะเป็นเวทีที่ค่ายรถพิคอัพต้องเปิดเกมแย่งส่วนแบ่งการตลาดส่งท้ายปีกันแบบร้อนฉ่า ไม่แพ้อุณหภูมิความงามยั่วตายวนใจของเหล่าสาวงามพริททีประจำรถของแต่ละค่ายอย่างแน่นอน และแน่นอนว่าหลังจากพิคอัพ 1 ตัน ก้าวเข้าสู่การเปิดศึกชิงส่วนแบ่งการตลาดหน้าใหม่ ด้วยการรุกเข้าสู่ตลาดของ โตโยตา ไฮลักซ์ รีโว ใหม่ ตลาดรถยนต์บ้านเราที่จะมีการเคลื่อนไหวอย่างคึกคักในลำดับต่อไป หนีไม่พ้นตลาดรถเอสยูวี ที่ก่อนหน้านี้ความนิยมของ โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ ร่วงโรยลงไป ตามอายุการทำหน้าที่เรียกลูกค้าเข้าโชว์รูมที่ยาวนาน ผ่านการปรับโน่นนิดนี่หน่อยมาหลายรอบ เมื่อพิคอัพเจเนอเรชันใหม่มาแล้ว เอสยูวีเจเนอเรชันใหม่ของ โตโยตา ที่อยู่บนฐานรากเดียวกันก็ตามมาด้วย แต่อีกเช่นกันที่คู่แข่งขันเตรียมของแข็งไว้รับมือด้วยเหมือนกัน เมื่อ โตโยตา มี ฟอร์ทูเนอร์ ตัวใหม่ มิตซูบิชิ ก็มี ปาเจโร สปอร์ท ใหม่ ไว้แก้เกม และสร้างความกระชุ่มกระชวยให้กับโชว์รูมรถยนต์ มิตซูบิชิ ทั่วประเทศด้วยเช่นกัน รวมถึงการเปิดพโรโมชันพิเศษจากค่ายรถยนต์อื่นๆ ที่มีรถเอสยูวีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดด้วย ใครจะยอมให้ได้ส่วนแบ่งการตลาดไปง่ายๆ จริงไหม ส่วนจะดุเดือดร้อนแรงแค่ไหน อีกไม่ช้าไม่นานได้รู้กัน แต่ที่จะได้รู้กันต่อไปนี้ คือ ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศ ประจำเดือนมิถุนายน ปี 2558 และยอดรวม 6 เดือนแรกที่ทำให้ต้องปรับยอดจำหน่ายทั้งปีกันใหม่ เดือนมิถุนายน รถยนต์ป้ายแดงทุกประเภท จำหน่ายไปได้รวมทั้งสิ้น 60,322 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมา 18.3 % ยอดจำหน่ายสูงสุดอันดับ 1 ถึง 5 ก็ยังเหมือนกับทุกๆ เดือนที่ผ่านมา จะมีผิดไปบ้างก็ตรงที่ในเดือนที่ผ่านมา ใน 5 อันดับแรกยังพอจะมียอดจำหน่ายของ ฮอนดา ที่เพิ่มสูงขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว แต่เดือนนี้หายไปแล้ว นั่นหมายถึง ทั้ง 5 อันดับแรกพร้อมใจกันทำยอดจำหน่ายได้ลดลง เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนปีที่แล้วทั้งสิ้น ส่วนจะลดลงมากหรือน้อยก็ดังนี้แล้วกัน ยอดจำหน่ายสูงสุดอันดับ 1 โตโยตา 21,739 คัน ลดลง 21.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 36.0 % อันดับ 2 อีซูซุ 10,833 คัน ลดลง 19.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 18.0 % อันดับ 3 ฮอนดา 7,918 คัน ลดลง 12.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 13.1 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ 3,888 คัน ลดลง 22.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.4 % อันดับที่ 5 นิสสัน 3,108 คัน ลดลง 26.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 5.2 % สำหรับยี่ห้อที่มียอดจำหน่ายเพิ่มสูงขึ้นในเดือนนี้ ถ้าไม่นับรวมรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่อย่าง ฮีโน แล้วก็ยังคงเป็น 2 ค่ายใหญ่จากโลกตะวันตก เมร์เซเดส-เบนซ์ เพิ่มขึ้น 42.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 2.1 % เป็นที่สำราญบานใจของผู้มีฐานะเป็นอย่างยิ่ง ตามด้วย บีเอมดับเบิลยู/มีนี เพิ่มขึ้น 1.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 1.2 % นอกนั้นเป็นรถยนต์ที่มียอดจำหน่ายยังไม่ผ่านหลักร้อยคัน แต่ก็มียอดจำหน่ายที่ปรับตัวสูงขึ้น เช่น ซูบารุ เพิ่มขึ้น 33.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 0.3 % โวลโว เพิ่มขึ้น 96.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 0.2 % และเลกซัส เพิ่มขึ้น 178.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 0.2 % เป็นต้น ยอดจำหน่ายรถยนต์ทุกประเภท 6 เดือนแรกของปี 2558 มีทั้งสิ้น 369,108 คัน ลดลงจาก 6 เดือนแรกของปีที่แล้ว 16.3 % รถยนต์ที่มียอดจำหน่ายรวมผ่าน 1 แสนคันขึ้นไป มีแค่ โตโยตา เจ้าเดียว จำหน่ายไปแล้วรวม 122,804 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 33.3 % แต่ตัวเลขนี้ก็เป็นตัวเลขที่ลดน้อยลงกว่า 6 เดือนแรกปีที่แล้วถึง 25.0 % ตามมาห่างๆ เป็นอันดับที่ 2 ได้แก่ อีซูซุ 69,281 คัน ลดลง 16.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 18.8 % อันดับ 3 ฮอนดา เป็นยี่ห้อเดียวใน 5 อันดับแรกที่มียอดจำหน่ายเป็นบวก เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว จำหน่ายได้ 54,793 คัน เพิ่มขึ้น 15.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 14.8 % อันดับที่ 4 และ 5 เป็น นิสสัน และมิตซูบิชิ จำหน่ายแล้ว 25,834 คัน กับ 24,335 คัน ลดลง 15.8 % และ 24.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 7.0 % และ 6.6 % ตามลำดับ อย่างที่บอกว่าเดือนนี้และอีกหลายเดือน การแข่งขันแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดที่เข้มข้นต้องโฟคัสไปที่ตลาดรถพิคอัพ โดยเฉพาะพิคอัพโมเดลพื้นฐานขับเคลื่อน 2 ล้อ และแค่เวลาทำตลาดเดือนแรกของ ไฮลักซ์ รีโว บวกกับของค้างสตอคไปแล้วอย่าง ไฮลักซ์ วีโก ที่หากใครยังสนใจอยู่ ว่ากันว่าลดราคาสะบั้นหั่นแหลก ยังพอมีให้หาซื้อได้อยู่ ก็ทำให้ โตโยตา กลับมายึดตำแหน่งหัวแถวของพิคอัพจำหน่ายขายดีได้อีกครั้งหนึ่ง ถึงยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีมายังเป็นรอง อีซูซุ แต่ก็คาดได้ว่า 1 เดือนข้างหน้า หรืออย่างช้า 2 เดือนข้างหน้า ก็น่าจะแซงผ่านไปได้ ยอดรวมพิคอัพขับเคลื่อน 2 ล้อ เดือนมิถุนายน 2558 ทั้งหมดอยู่ที่ 25,557 คัน โตโยตา กลับมายึดเบอร์ 1 แชมพ์ขายดีด้วยยอดจำหน่าย 10,788 คัน กวาดส่วนแบ่งการตลาดไป 42.3 % อีซูซุ กลับมาอยู่ที่เดิมอันดับ 2 จำหน่ายไปได้ 8,478 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 33.2 % เช่นเดียวกับ มิตซูบิชิ กับ ฟอร์ด ที่แลกตำแหน่งกันอีกครั้ง โดย มิตซูบิชิ ชิงอันดับที่ 3 คืนมาด้วยยอดจำหน่าย 1,771 คัน มีส่วนแบ่งการตลาด 6.9 % ส่งผลให้ ฟอร์ด ที่จำหน่ายได้ 1,439 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาด 5.6 % กลับไปอยู่ในอันดับที่ 4 เหมือนเดิม ขณะที่อันดับที่ 5 พิคอัพจำหน่ายขายดียังถูกผูกขาดโดย นิสสัน เดือนมิถุนายนจำหน่ายได้ 1,059 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 4.1 % ครึ่งปีแรกผ่านไป พิคอัพขับเคลื่อน 2 ล้อ จำหน่ายไปแล้วรวม 146,728 คัน ลดลงจาก 6 เดือน ปีที่แล้ว 15.9 % อีซูซุ ยังมีโอกาสอยู่ในอันดับที่ 1 อีก 1 เดือน ด้วยยอดจำหน่ายรวม 6 เดือน 54,378 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 37.1 % ตามด้วย โตโยตา อันดับ 2 จำหน่ายได้ 53,335 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 36.4 % อันดับ 3 มิตซูบิชิ 10,824 คัน มีส่วนแบ่งการตลาด 7.4 % อันดับที่ 4 ฟอร์ด 8,897 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 6.1 % อันดับที่ 5 นิสสัน 8,030 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 5.5 % พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ โตโยตา พุ่งพรวดขยับมาอยู่อันดับ 1 ทั้งรายเดือนและยอดสะสม โดยเดือนมิถุนายนจำหน่ายได้ 2,036 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 65.3 % ยอดรวม 6 เดือน 6,041 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 49.0 % อีซูซุ อยู่อันดับ 2 จำหน่ายได้ 354 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 11.4 % รวม 6 เดือน 2,588 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 21.0 % อันดับ 3 มิตซูบิชิ 347 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 11.1 % ยอด 6 เดือน 1,629 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 13.2 % (เพิ่มขึ้น 41.8 %) อันดับ 4 ฟอร์ด 281 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 9.0 % รวม 6 เดือน 1,305 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 10.6 % และอันดับ 5 นิสสัน 73 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 2.3 % ครึ่งปีแรก 589 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 4.8 % สำหรับยอดรวมพิคอัพขับ 4 เดือนมิถุนายน 3,118 คัน เพิ่มขึ้น 34.9 % รวม 6 เดือน 12,333 คัน ลดลง 15.7 % รถเอสยูวี ถึง โตโยตา จะมี ฟอร์ทูเนอร์ เจเนอเรชันใหม่ออกมา แต่คงยากที่จะไล่อันดับความนิยมให้ขึ้นถึงตำแหน่งหัวแถวได้ เพราะยอดจำหน่ายรวม 6 เดือนยังตามหลัง ฮอนดา ผู้นำอยู่ห่างไกล 6 เดือนแรกผ่านไป ฮอนดา จำหน่ายไปแล้ว 15,995 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 38.0 % อันดับ 2 อีซูซุ 6,215 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 14.8 % อันดับ 3 นิสสัน 5,087 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 12.1 % โตโยตา อยู่อันดับ 4 จำหน่ายแล้วรวม 5,059 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 12.0 % ตามหลังผู้นำอยู่ร่วม 1 หมื่นคัน อันดับที่ 5 มิตซูบิชิ 3,366 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 8.0 % ยอดรวม 6 เดือนจำหน่ายแล้ว 42,122 คัน ลดลง 11.0 % เฉพาะเดือนมิถุนายน มียอดรวมทั้งสิ้น 6,791 คัน ลดลง 2.0 % อันดับ 1 ฮอนดา 2,902 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 42.7 % อันดับ 2 อีซูซุ 926 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 13.6 % อันดับ 3 นิสสัน 722 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 10.6 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ 676 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 10.0 % และอันดับ 5 โตโยตา 632 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 9.3 % รถเอมพีวี เดือนมิถุนายนมียอด 915 คัน ลดลง 29.0 % ฮอนดา ยังคงได้รับความนิยมสูงสุดในตลาดนี้ จำหน่ายได้ 388 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 42.4 % ตามด้วย โตโยตา 285 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 31.1 % เชฟโรเลต์ 140 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 15.3 % อันดับ 4 ซูซูกิ 54 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 5.9 % และอันดับ 5 เกีย 18 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 2.0 % ครึ่งปีแรกผ่านไปตลาดนี้มียอดจำหน่ายรวมแล้ว 7,310 คัน ลดลง 9.5 % แชมพ์ยอดจำหน่ายสูงสุดครึ่งปีแรกเป็น ฮอนดา 4,250 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 58.1 % ตามมาด้วย โตโยตา 1,687 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 23.1 % เชฟโรเลต์ 607 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 8.3 % ซูซูกิ 453 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 6.2 % เกีย 85 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 1.2 % สรุปว่า 6 เดือนแรก รถใหม่ป้ายแดงจำหน่ายไปแล้ว 369,108 คัน ยังเหลืออีก 430,892 คันที่ต้องขวนขวายหามา เพื่อให้แจคพอทแตก...จะทำได้ไหม ทำได้หรือเปล่า ?เรื่องโดย : ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2558
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/95783