เนื่องจากปก Car Stereo
SUB BOX ติดตั้งง่าย เบสส์เนียน กลมกลืน
หลังจากทีมงาน CAR STEREO ได้เปิดคอลัมน์ "เมนูพิเศษ" เช่น เครื่องเสียงป้ายแดง ฯลฯ ขึ้นเพื่อ
ปรับปรุงเนื้อหา/สาระที่เป็นประโยชน์ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2556 ที่ผ่านมานั้น ได้รับเสียงตอบรับจากผู้อ่าน และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์หลายราย
โดยเฉพาะการนำรถหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น อีโคคาร์, ซีดาน, ซิทีคาร์, เอสยูวี, เอมพีวี และรถประเภทอื่นๆ มาทดสอบ พร้อมกับตั้งทีมงาน CAR STEREO TEST LAB เพื่อตรวจวัด และวิเคราะห์เครื่องเสียงเดิมจากโรงงาน (OEM) ว่าสามารถให้คุณภาพเสียงได้ดีมาก/น้อยแค่ไหน เพื่อผู้ใช้รถหลายท่านที่ต้องการปรับปรุง หรือเพิ่มเติมชุดเครื่องเสียงได้ในภายหลัง และด้วยประสบการณ์ของทีมงานทำให้รู้ว่า รถหลายยี่ห้อที่ติดตั้งชุดเครื่องเสียงเดิมจากโรงงานหลายคัน สามารถให้รายละเอียดเสียงที่ดี เช่น ในหัวข้อ SOUND LINEARITY จากคะแนนเต็ม 10 สามารถทำได้ถึง 7 คะแนน เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่จะขาดในเรื่องของเสียงเบสส์ต่ำๆ สำหรับในหัวข้อ SOUND STAGE และ IMAGING จะไม่นำมากล่าวถึง
ในครั้งนี้ ทีมงานได้แนะนำลำโพงประเภท ACTIVE SUBWOOFER SYSTEM หรือที่พูดกันติดปากว่า SUB BOX หรือ BASS BOX เป็นตู้ลำโพงวูเฟอร์ พร้อมภาคขยายเสียงในตัว ที่สามารถช่วยเพิ่มเติมเสียงทุ้มต่ำ
ที่ขาดหายไป โดยเฉพาะท่านที่ต้องการปรับปรุงระบบเสียงในระดับเบื้องต้น มาฝากกัน นอกจากนี้การติดตั้งลำโพง SUB BOX ยังทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นที่ตำแหน่งใต้เบาะนั่ง, บริเวณที่วางเท้าผู้โดยสารด้านหน้า หรือใต้แผงหน้าปัด ฯลฯ ซึ่ง SUB BOX ที่กล่าวถึงนี้ มีหลายยี่ห้อที่น่าสนใจ โดยทีมงานได้คัดเลือกมาเป็นบางส่วน อาทิเช่น
JVC CS-BB2
สำหรับท่านที่ต้องการอัพเกรดระบบเสียงติดรถจากโรงงานให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น ทางค่าย JVC ได้
แนะนำรุ่น CS-BB2 ที่เรียกว่า ACTIVE SUBWOOFER SYSTEM โดยบอกความสูงของตู้ที่ 2 1/2" ซึ่งช่วยให้สะดวกในการติดตั้ง เช่น ใต้เบาะนั่งคนขับ หรือผู้โดยสาร
ตัวกรวยวูเฟอร์มีขนาด 5 9/16" (14 ซม.) ซึ่งมีความแข็งแกร่งสูงด้วยวัสดุอลูมิเนียม กำลังขับสูงสุด 120 วัตต์ MAX พร้อมแม่เหล็กกำลังสูง และวงจรโลว์พาสส์ ฟิลเตอร์ สำหรับ DVD 5.1 แชนแนล ค่าความถี่ตอบสนองตั้งแต่ 20-200 HZ ค่าความไว 88 ดีบี ขั้วต่ออินพุทแบบ 2 ทาง (SPEAKER/RCA INPUT)
KENWOOD KSC-SW01
ระบบลำโพงที่เรียกว่า ACTIVE SUBWOOFER SYSTEM ของค่ายนี้ ใช้กรวยวูเฟอร์ทำด้วยวัสดุชนิด
กระดาษขนาด 16 ซม. ขอบเซอร์ราวน์ดยาง กำลังขับสูงสุด 150 วัตต์ PEAK แม่เหล็กชนิดเฟอร์ไรท์ วอยศ์คอยล์แบบคู่ มีค่าอิมพีแดนศ์ 2x2 โอห์ม ตู้ทำด้วยอลูมิเนียม DIE-CAST FRAME ค่าความไว 85 ดีบี/วัตต์/เมตร ค่าการตอบสนองความถี่ 50-4,000 HZ
นอกจากนี้ยังมีครอสส์โอเวอร์ชนิดโลว์พาสส์ปรับได้ตั้งแต่ 15-120 HZ ปรับเฟสได้ 0 องศา/180 องศา มีไฟแสดงสถานะการทำงาน ขั้วต่ออินพุทแบบ RCA และ SPEAKER LEVEL INPUT สำหรับต่อกับวิทยุเดิมติด
รถจากโรงงาน มิติ (ก/ส/ล) 270x70x180 ม.ม. น้ำหนักรวม 2,400 กรัม
PIONEER TS-WX11A
สำหรับค่ายนี้ได้ออกตู้ลำโพง COMPACT POWERED SUBWOOFER พร้อมเพาเวอร์แอมพ์ในตัว ที่ดีไซจ์นอย่างสวยงาม ด้วยรูปทรงขนาดเล็ก และกะทัดรัด สามารถติดตั้งบริเวณใต้เบาะนั่งรถได้ ให้กำลังขับสูงสุดถึง 150 วัตต์ MAX ด้วยภาคขยายชนิด MOSFET ตัวตู้ทำด้วยอลูมิเนียม DIE-CAST และกรวยวูเฟอร์ทำด้วยอลูมิเนียมเป็นรูปไข่ขนาด 12.8x20.8 ซม. ให้การตอบสนองความถี่ต่ำได้ตั้งแต่ 54-200 HZ ส่วนวอยศ์คอยล์เป็นชนิดทนอุณหภูมิสูงแบบ DUAL VOICE COIL ขนาด 4 LAYER พร้อมค่าความไวสูงถึง 101 ดีบี (1 วัตต์/1 เมตร)
นอกจากนี้ยังปรับควบคุมช่วงความถี่ต่ำ (LPF) ได้ตั้งแต่ 50-125 HZ ค่าความลาดชัน 12 ดีบี/ออคเทฟ มีปุ่มปรับควบคุม GAIN INPUT สวิทช์ปรับเลือก PHASE ขั้วต่อสัญญาณทั้งแบบ RCA และ SPEAKER LEVEL INPUT สำหรับต่อวิทยุเดิมจากโรงงาน (OEM) มิติ (ก/ส/ล) 280x80x200 มม.
BLAUPUNKT XLF 200 A
ส่วนค่ายนี้ใช้ชื่อเรียกว่า COMPACT POWERED SUBWOOFER เป็นตู้ลำโพงวูเฟอร์ขนาด 8" กรวยทำด้วยวัสดุ ALUMINUM COMPOUND/BLUE METALLIC กำลังขับ 150 วัตต์ RMS และสูงสุด 300 วัตต์ MAX ด้วยภาคขยาย INTEGRATED CLASS D ตัวตู้ระบบปิดทำด้วยวัสดุ ALUMINUM DIE-CAST/FIBERGLASS เสริม ABS
ด้านความสะดวกในการต่อไฟ สามารถต่อกับไฟ 12 โวลท์ หรือต่อสัญญาณจากลำโพง หรือพรีแอมพ์
ด้วย AUTOMATIC POWER ON ทั้งจากสัญญาณไฮเลเวล หรือขั้วต่อชนิด RCA โดยมีค่าความถี่ตอบสนองตั้งแต่ 20-150 HZ ค่าอิมพีแดนศ์ 0.6 โอห์ม ค่า SPL 2.0 V/M กว่า 92 ดีบี มิติ (ก/ส/ล) 340x79x225 ม.ม.
ส่งท้าย
สำหรับการติดตั้ง SUB BOX หรือ BASS BOX นั้นควรให้เป็นหน้าที่ของร้านติดตั้งที่มีประสบการณ์ เนื่องจากรถแต่ละคันมีโครงสร้างภายในที่แตกต่างกัน ซึ่งรวมไปถึงชุดเครื่องเสียงเดิมจากโรงงานที่แตกต่างกันด้วย การที่จะอัพเกรดชุดเครื่องเสียงเดิม ด้วยการเพิ่ม SUB BOX เข้าไป นอกจากจะต้องใช้เครื่องมือวัด OEM SOUND ANALYSIS แล้วยังเกี่ยวข้องกับการใช้ประสบการณ์ในการฟัง เพื่อประกอบการพิจารณา และวิเคราะห์ตามหลักของแผ่นที่อ้างอิงในการแข่งขัน IASCA เพื่อที่จะได้ปรับแต่งเสียงเบสส์ให้เนียน
และกลมกลืนเข้ากับลำโพงชุดเดิมของรถยี่ห้อนั้นๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการ
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2556
คอลัมน์ Online : เนื่องจากปก Car Stereo
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/91339