X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
DIY...คุณทำเองได้
1 Jul 2013
กรองเชื้อเพลิง
รถยนต์ทุกคันต้องมีกรองน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่มาพร้อมน้ำมัน แต่น่าเสียดายที่ผู้ใช้รถทั่วไปมักไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร DIY...คุณทำเองได้ ฉบับนี้ ขอเสนอวิธีเปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยตัวเอง ที่ใครๆ ก็ทำได้
ทำไมต้องมีกรองเชื้อเพลิง ?
หลายคนคิดว่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีขายตามท้องตลาดนั้นมีความสะอาดเพียงพอ แต่แท้จริงแล้วอาจไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป ก่อนที่น้ำมันเชื้อเพลิงจะมาถึงถังน้ำมันในรถเรา ต้องผ่านกระบวนการที่หลากหลาย และเมื่อขนส่งมาถึงปั๊มน้ำมัน ก็ต้องถูกกักเก็บไว้ในถังขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณใต้ดินภายในปั๊ม ถังเก็บนี้มักถูกปนเปื้อนจากน้ำ ที่เกิดจากรอยรั่วของถังใต้ดิน เมื่อใช้งานไปนานๆ แรมปี ความชื้นจะทำให้เกิดเป็นคราบต่างๆ สะสมอยู่บริเวณก้นถัง ถ้าไม่ทำความสะอาดตามกำหนดเวลา คราบเหล่านี้จะยิ่งสะสมไปเรื่อยๆ เมื่อถูกดูดเพื่อเติมเข้าไปในรถ สิ่งสกปรกเหล่านี้ก็สามารถเข้าไปทำอันตรายต่อเครื่องยนต์ได้ จึงต้องมีกรองเชื้อเพลิงเพื่อป้องกันและกักเก็บสิ่งสกปรกเหล่านี้ไว้
สิ่งสกปรกถึงถัง ?
สมมติในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ว่า ถ้าน้ำมันตามปั๊มสะอาดหมดจด แต่ระบบในเครื่องยนต์ ก็ยังมีโอกาสเกิดสิ่งสกปรกได้เช่นกัน รถยนต์เมื่อใช้ไปประมาณ 6-7 ปี มักจะเกิดสนิมและคราบตะกอนในถังน้ำมันเชื้อเพลิง สนิมพวกนี้เกิดจากไอน้ำและความชื้นที่สะสมอยู่ในถัง เมื่อถูกดูดเข้าไปในปั๊มเชื้อเพลิงและหัวฉีด จะทำให้เกิดปัญหาการอุดตันของสิ่งสกปรกบริเวณปั๊มหัวฉีด และเครื่องยนต์ได้ รถยนต์สันดาปภายในจำเป็นมากที่ต้องใช้เชื้อเพลิงสะอาด ปราศจากเศษฝุ่น และสิ่งแปลกปลอม ก่อนเข้าห้องเผาไหม้ ดังนั้นตัวกรองน้ำมันเชื้อเพลิงจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เราจึงควรเปลื่ยนตามระยะเวลาที่กำหนดอยู่เสมอ
ต้องเปลี่ยนตอนไหน ?
วิธีเชคที่ง่ายที่สุด คือ ดูจากคู่มือของรถคันนั้นๆ ที่มักกำหนดระยะเวลาคร่าวๆ จากผู้ผลิต โดยทั่วไปแล้วระยะเวลาเปลี่ยนกรองเชื้อเพลิงจะอยู่ที่ 40,000 กม. ขึ้นอยู่กับรถแต่ละคัน โดยอาจสังเกตจากพฤติกรรมการใช้รถของแต่ละคน เช่น ดูจากการเติมน้ำมัน ถ้าเติมกับปั๊มน้ำมันใหญ่ๆ ที่ได้มาตรฐานเป็นประจำ ก็อาจเปลี่ยนตามระยะเวลาเดิมที่กำหนดได้ แต่ถ้าไม่ค่อยใส่ใจกับปั๊มน้ำมันนัก เติมปั๊มไหนก็ได้ที่อยากเติม แบบนี้น่ากลัวหน่อย อาจต้องเปลี่ยนเร็วขึ้น เพราะมีโอกาสเจอสิ่งปลอมปนในน้ำมันได้ง่าย หรืออาจสังเกตจากอาการต่างๆ ของรถก็ได้ เช่น เริ่มรู้สึกว่ารถกินน้ำมันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เวลาเร่งมักเร่งไม่ค่อยออกทั้งที่ถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนดแล้ว เหตุการณ์เหล่านี้อาจเป็นเพราะกรองเชื้อเพลิงเริ่มตัน ดังนั้น ควรตรวจเชคและเปลี่ยนกรองเชื้อเพลิง ตามที่คู่มือกำหนดจะดีที่สุด
ผลเสียจากกรองเชื้อเพลิงตัน
น้ำมันเชื้อเพลิงไหลไม่สะดวก แรงดันไม่พอเพียงกับความต้องการของเครื่องยนต์
เครื่องยนต์จะมีอาการสะดุด เนื่องจากเชื้อเพลิงมาไม่ทันความต้องการของเครื่องยนต์
ปั๊มเชื้อเพลิงทำงานหนักขึ้น อายุการใช้งานสั้นลง
หัวฉีดสกปรกเร็ว หรืออุดตัน เนื่องจากสิ่งสกปรกผ่านไปจนถึงหัวฉีด
สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น เนื่องจากเครื่องยนต์เร่งไม่ออก เลยต้องเหยียบคันเร่งมากขึ้น
เมื่อเร่งมากขึ้น เลยต้องจ่ายเชื้อเพลิงมากขึ้น
เกิดสิ่งสกปรกในระบบมากขึ้น จนสิ่งสกปรกตกค้างอยู่นอกกรองเชื้อเพลิง
ตัวกรองไอเสียทำงานหนักขึ้น
อุปกรณ์
1. กรองน้ำมันเชื้อเพลิง 2. ประแจถอดกรอง 3. ไขควงแฉก และประแจเบอร์ 12 4. ภาชนะแก้วใส 5. ผ้าขี้ริ้ว
ขั้นตอนการเปลี่ยนกรองเชื้อเพลิง
1. ถอดปลั๊กไฟที่อยู่ด้านใต้ของกรองออกก่อน 2. นำไขควงขันคลายนอททั้งฝั่งท่อทางเข้า และท่อทางออกของหม้อกรอง แล้วดึงออกจากตัวกรอง (โปรดจำตำแหน่งท่อด้วย) 3. นำประแจเบอร์ 12 ไขนอทที่เหลือออกให้หมด แล้วยกตัวกรองขึ้นมาเปลี่ยนข้างนอก 4. ขันนอทหางปลาออก โดยขณะขันจะมีน้ำมันไหลออกมา ให้นำภาชนะที่เตรียมไว้มารองน้ำมัน 5. นำประแจมาขันในส่วนปลายของกรองออกก่อน ขันช้าๆ ระวังน้ำมันจะหกใส่ 6. นำประแจถอดกรองมาถอดหมุนเพื่อถอดกรองที่เหลืออยู่ออก 7. เมื่อถอดเสร็จแล้วควรทำความสะอาดส่วนบนก่อน แล้วนำกรองชุดใหม่มาใส่ โดยหมุนเข้าพอตึงมือ 8. เมื่อใส่กรองใหม่แล้ว ให้นำส่วนปลายที่ถอดออกใส่กลับไปด้วย โดยหมุนให้พอตึงมืออีกเช่นกัน 9. นำกรองที่เปลี่ยนแล้วใส่กลับที่เดิม และขันนอทยึดกรองให้เรียบร้อย 10. ขันตัวลอคท่อกลับเข้าที่เดิม ต้องใส่ทางเข้า ทางออกให้ถูกต้อง โดยดูจากลูกศรที่ตัวกรอง 11. ต่อจากนั้นใช้มือกดปั๊มด้านบนของกรองเรื่อยๆ เพื่อสูบน้ำมันเข้ากรอง จนรู้สึกว่าหนืด 12. ลองสตาร์ทเครื่องยนต์ดู ถ้าเครื่องติดให้กดเร่งรอบสักครู่หนึ่ง ถ้าเครื่องไม่ดับเป็นอันเสร็จ แต่ถ้าดับให้กดปั๊มใหม่อีกครั้ง
อ่านต่อ
เรื่องโดย : วิธวินท์ ไตรพิศ
ภาพโดย : จินดา ลัยนันท์
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2556
คอลัมน์ Online : DIY...คุณทำเองได้
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/91136
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
DIY...คุณทำเองได้
DIY...คุณทำเองได้
21 Jun 2023
ทำความสะอาดเบาะผ้า ด้วยเครื่องมือยุคใหม่
DIY...คุณทำเองได้
22 Mar 2023
ชาร์จรถไฟฟ้าแบบฉุกเฉิน ด้วยปลั๊กไฟบ้าน
DIY...คุณทำเองได้
17 Nov 2022
อบโอโซน ห้องโดยสารด้วยงบ 400 บาท
DIY...คุณทำเองได้
21 Oct 2022
ขัดคราบโคมเหลือง ให้ขาวสดใส
DIY...คุณทำเองได้
21 May 2022
ล้างเคลือบรถ ทำเองได้ ประหยัดด้วย
ดูต่อในคอลัมน์ DIY...คุณทำเองได้