X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
เทคนิค(car)
1 Jun 2013
พื้นฐานเครื่องเสียง
สำหรับบทความ และเนื้อหาเรื่องพื้นฐานเครื่องเสียง และการเลือกเพาเวอร์แอมพ์ เป็นตอนจบต่อจากฉบับที่แล้ว มาเริ่มกันได้เลย
แหล่งจ่ายไฟ:
ภาคจ่ายไฟในเพาเวอร์แอมพ์รถยนต์จะแปลงไฟ DC ขนาด 12 โวลท์ ที่อยู่ในระบบไฟฟ้าในรถยนต์ของคุณ เพื่อให้เพาเวอร์แอมพ์ สามารถผลิตพลังงานให้มากขึ้น มี 2 ประเภท คือ แหล่งจ่ายไฟแบบ REGULATED และ UNREGULATED (แหล่งจ่ายไฟตรงคงที่ และแหล่งจ่ายไฟตรงไม่คงที่) แหล่งจ่ายไฟแบบ REGULATED จะผลิตพลังงานไฟฟ้า โดยไม่ขึ้นกับแรงดันไฟรถยนต์ (ซึ่งคาพาซิเตอร์จะช่วยป้องกัน และกรองกระแสไฟให้ราบเรียบ) ซึ่งเพาเวอร์แอมพ์จ่ายพลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มที่ ถึงแม้ว่าแรงดันอินพุทจะต่ำกว่า 12 โวลท์ อย่างไรก็ตาม มันจะไม่ขยายพลังงานใดๆ ถ้าแรงดันอินพุทสูงกว่า 12 โวลท์ ส่วนเอาท์พุทของภาคจ่ายไฟ UNREGULATED ขึ้นโดยตรงกับแรงดันอินพุท สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงนี้สอดคล้องกับพลังงานเอาท์พุทสูงสุด พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงภายในระบบไฟรถยนต์ แอมพ์ภาคจ่ายไฟแบบ REGULATED ให้พลังงานขาออกคงที่ แม้ว่าแรงดันอินพุทจะเปลี่ยนแปลงก็ตาม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ถ้ามีคาพาซิเตอร์ขนาดใหญ่ หรืออุปกรณ์ควบคุมระบบไฟอื่นๆ ต่อเพื่อให้ระบบไฟฟ้ารถยนต์นั้นราบเรียบ และทำให้แอมพ์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้แอมพ์แบบ UNREGULATED จึงไม่ได้รับความนิยมเท่ากับแอมพ์ REGULATED POWER SUPPLY
TRI-MODE:
เพาเวอร์แอมพ์บางตัว สามารถต่อแบบที่เรียกว่า TRI-MODE ได้ ในโหมดนี้จะใช้ 2 แชนแนล ต่อขับลำโพงความถี่สูง และซับวูเฟอร์ 1 ตัว ซึ่งซับวูเฟอร์จะรับพลังงานจากแชนแนลทั้งสอง เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมาก แต่ครอสส์โอเวอร์จะต้องพิเศษเพื่อแยกย่านความถี่ทั้ง 2 ช่วง และสามารถปรับสัญญาณเอาท์พุท ระหว่างลำโพงความถี่สูง และซับวูเฟอร์ได้ เพราะจะเป็นการประหยัดเงินค่าใช้จ่าย
รายละเอียดอื่นๆ:
THD (TOTAL HARMONIC DISTORTION) เป็นสเปคที่แสดงถึงพลังงานขาออก ตัวอย่างเช่น 45 วัตต์x2 ที่ 0.01 % THD และมาตรฐานนี้กล่าวถึงระดับเอาท์พุท 45 วัตต์ ในแต่ละแชนแนล THD จะไม่มากกว่า 0.01 % บางครั้งผู้ผลิตจะอ้างข้อมูลจำเพาะของสเปคพลังงานที่ THD 1 % และต้องระวังสิ่งนี้ ค่า THD 1 % เป็นเพาเวอร์แอมพ์ที่มีคุณภาพไม่สูงมาก หรือผู้ผลิตบอกถึงสเปคพลังงานขาออกที่เพาเวอร์แอมพ์เกิดความเพี้ยนสูง ซึ่งกำลังขับที่สูงขึ้น ทำให้ความเพี้ยนมากขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ความเพี้ยนควรต่ำกว่า 0.1 % เป็นอย่างน้อย ครอสส์โอเวอร์ในตัว: เพาเวอร์แอมพ์ในปัจจุบันถูกออกแบบให้มีวงจรครอสส์โอเวอร์อยู่ในตัว โดยที่สามารถตัดแบ่งความถี่ในแต่ละย่านให้กับลำโพงแต่ละชุด เช่น ซับวูเฟอร์ และลำโพงกลาง/แหลม นอกจากนี้ยังประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มาก เมื่อเทียบกับการซื้ออุปกรณ์ครอสส์โอเวอร์เพิ่มเติมภายนอก แต่ถ้าเป็นเพาเวอร์แอมพ์แบบมัลทิแชนแนล และมีครอสส์โอเวอร์ในตัว ที่สามารถใช้งานแยกส่วนให้กับลำโพงในระบบ ก็จะมีราคาที่แพง
พรีแอมพ์ เอาท์พุท:
เพาเวอร์แอมพ์ส่วนใหญ่จะมีพรีแอมพ์ เอาท์พุท ซึ่งช่วยให้สามารถต่อเพาเวอร์แอมพ์เข้าด้วยกันโดยไม่ต้องต่อพรีแอมพ์จากเฮดยูนิท นอกจากนี้ ถ้าเพาเวอร์แอมพ์มีครอสส์โอเวอร์ในตัว ก็จะสามารถใช้ขับเพาเวอร์แอมพ์ตัวอื่นได้ ตัวอย่างเช่น เพาเวอร์แอมพ์ขับลำโพงซับวูเฟอร์ด้วยครอสส์โอเวอร์ในตัวที่ความถี่ 90 HZ และสามารถใช้ครอสส์โอเวอร์ในตัวตั้งสัญญาณที่เพาเวอร์แอมพ์ต่ำกว่า 90 HZ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับแอมพ์ที่ไม่มีครอสส์โอเวอร์ได้ และแอมพ์ตัวนั้นทำหน้าที่ขับลำโพงความถี่สูง
ความไวอินพุท:
มีคำถามจำนวนมากเกี่ยวกับความไวอินพุท และความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาที่ว่า ทำไมเฮดยูนิทจะต้องมีเอาท์พุท 4 โวลท์ ส่วนแอมพ์ทำให้สัญญาณมีขนาดใหญ่สามารถขับลำโพงได้ โดยการตั้งสัญญาณอินพุทที่เรียกว่า INPUT SENSITIVITY ด้วยการปรับความไวสัญญาณอินพุทให้เหมาะสมหรือเทคนิคการปรับเลเวล แมทชิง ให้ได้ค่า S/N RATIO ในระบบเสียงสูงขึ้น เพื่อให้ได้ความชัดเจนของเสียงดนตรีสูงสุด โดยที่มีเสียงรบกวนต่ำที่สุด
อ่านต่อ
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการ
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2556
คอลัมน์ Online : เทคนิค(car)
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/90980
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
เทคนิค(car)
เทคนิค(car)
3 Dec 2015
หาค่าความถี่ CABIN GAIN เพื่อความดังเสียงอัตโนมัติ
เทคนิค(car)
2 Nov 2015
ตู้ลำโพงแบบปิด และเปิด เลือกให้โดนหูตัวเอง
เทคนิค(car)
1 Oct 2015
อัพเกรดระบบไฟ ให้รถพลังเสียงประเภท SPL (จบ)
เทคนิค(car)
31 Aug 2015
อัพเกรดระบบไฟ ให้รถพลังเสียงประเภท SPL (ตอน 1)
เทคนิค(car)
3 Aug 2015
เพิ่มเสียงด้านหลังให้ระบบเสียงรถยนต์
ดูต่อในคอลัมน์ เทคนิค(car)