รู้ทันเทคนิค
VOLVO I-ART
เครื่องยนต์ดีเซลในยุคปัจจุบันนี้ เป็นที่ยอมรับกันว่ามีสมรรถนะสูง ประหยัด และมลพิษต่ำ อันที่จริงทั่วโลกให้การยอมรับมานานแล้ว นับตั้งแต่ยุคปลายปี 1990 เป็นต้นมา ในยุโรป รถยนต์นั่ง และรถอเนกประสงค์ มีส่วนแบ่งการตลาดของเครื่องยนต์ดีเซลมากขึ้นในหลายๆ โมเดล และความนิยมในเครื่องยนต์ดีเซลเกิดขึ้นแบบก้าวกระโดด แต่ในบ้านเรา กว่าที่เครื่องยนต์ดีเซลจะได้รับการยอมรับนั้น คงต้องใช้ระยะเวลานาน เพราะความอคติเกี่ยวกับเครื่องยนต์ดีเซลแบบเดิมๆ ว่าเสียงดัง ควันดำ และสมรรถนะต่ำ รถยนต์หลายรุ่นจึงไม่มีโอกาสได้เกิดในเวลาอันสมควร และรถหลายๆ รุ่นกว่าจะติดตลาดได้ ต้องใช้เวลานานทีเดียว สิ่งที่ทำให้เครื่องยนต์ดีเซลได้การยอมรับ คือ การบอกต่อจากปากต่อปากระหว่างผู้ใช้ด้วยกันเอง ถึงเรื่องสมรรถนะ และความประหยัดที่มีให้ ส่วนอัตราเร่งดีกว่าเครื่องยนต์เบนซินความจุเท่าๆ กันชัดเจน ค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรก็ถูกกว่า รถยนต์นั่งเครื่องยนต์ดีเซลในบ้านเรา กลับกลายเป็นว่า ได้รับความนิยมแบบป่าล้อมเมือง เนื่องจากลูกค้าที่ซื้อมากขึ้น ซึ่งเป็นลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัด ต้องใช้รถวันหนึ่งนับร้อยกิโลเมตร
เครื่องยนต์ดีเซลบลอคใหม่ VEA
โวลโว เป็นอีกค่ายหนึ่ง ที่ได้พัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลควบคู่ไปกับเครื่องยนต์เบนซิน ในบ้านเรานั้นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลได้รับการตอบรับเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มของรถเอสยูวี และรถยนต์นั่ง วันนี้ โวลโว เปิดตัวพแลทฟอร์มเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ให้ทั่วโลกได้รู้จัก ในชื่อ VEA หรือ VOLVO ENGINE ARCHITECTURE รวมถึงเทคโนโลยีการจัดการอันทันสมัย ที่พัฒนาเพื่อมารองรับการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซลตัวนี้ ทีมวิศวกรของ โวลโว ให้ข้อมูลว่าขุมพลังดีเซลบลอคใหม่นี้ยังคงเป็นเทคโนโลยีคอมมอนเรล เหมือนเดิม แต่ได้มีการพัฒนาโดยเฉพาะในส่วนของหัวฉีดน้ำมันใหม่ ให้มีแรงดันน้ำมันสูงมากขึ้นเป็น 2,500 บาร์ น้ำมันดีเซลนั้นยิ่งถูกฉีดด้วยแรงดันมากเท่าไร ด้วยหัวฉีดประสิทธิภาพสูงยิ่งจะทำให้น้ำมันแตกตัวเป็นฝอยละอองมากขึ้นเท่านั้น การที่น้ำมันแตกตัวเป็นฝอยละอองละเอียดมากเท่าไร จะทำให้การคลุกเคล้ากับอากาศทำได้ดียิ่งขึ้น
เมื่อมีการจุดระเบิดจะทำให้ได้พลังงานที่สูง และมีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ เป็นที่มาของสมรรถนะความประหยัด และมลพิษที่ต่ำนั่นเอง อีกจุดหนึ่งที่แตกต่างจากเครื่องยนต์ดีเซลยุคก่อน คือ ความรวดเร็วในการเร่งเครื่อง พูดง่ายๆ คือ การตอบสนองของเครื่องยนต์ น้ำมันดีเซลนั้นลุกไหม้ได้ช้า และใช้เวลานานในการเผาไหม้ ดังนั้นเครื่องยนต์ดีเซลยุคเก่าจึงเร่งได้ไม่ทันใจ เพราะกว่าน้ำมันจะลุกไหม้ ต้องใช้เวลานาน นั่นเป็นเพราะน้ำมันที่ถูกฉีดเข้าไปมีขนาดฝอยละอองที่ใหญ่ กว่าจะลุกไหม้ได้หมด ก็ใช้เวลานานกว่า และผลกระทบที่ตามมา คือ การเผาไหม้ไม่หมด ทำให้เกิดควันดำ แต่วันนี้ปัญหาดังกล่าวหมดไปด้วยเทคโนโลยีการฉีดน้ำมันแรงดันสูงนั่นเอง
เทคโนโลยีการจัดการล่าสุด I-ART
ด้านเทคโนโลยีการบริหารจัดการระบบควบคุม หรือ I-ART เป็นเทคโนโลยีที่จะใช้เซนเซอร์วัดแรงดันน้ำมันบนหัวฉีดน้ำมันแต่ละตัว แตกต่างจากเครื่องยนต์ดีเซลทั่วไปในปัจจุบันนี้ที่จะใช้เซนเซอร์เพียงตัวเดียวบนรางน้ำมันแรงดันสูง เปรียบเสมือนเป็นการเพิ่มระบบตรวจสอบเข้าไปอีกชั้น เพื่อให้สัญญาณที่วัดได้ในแต่ละหัวฉีด สามารถส่งข้อมูลไปยังหน่วยประมวลผล หรือ อีซียู (ECU) มันจะเข้าไปมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของหัวฉีดอีกชั้นหนึ่ง ทำให้อีซียูทราบถึงการทำงานของหัวฉีดแต่ละหัวได้อย่างถูกต้องแม่นยำ และมีความละเอียดมากขึ้น ผลก็คือ อีซียูจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องว่าเมื่อสั่งจ่ายน้ำมันไปแล้ว หัวฉีดสามารถจ่ายน้ำมันได้ตรงกับที่คำนวณไว้หรือไม่ สามารถปรับปริมาณการจ่ายน้ำมันของหัวฉีดในแต่ละหัวได้โดยตรง ทำให้มีการฉีดน้ำมันเข้าสู่การเผาไหม้ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น เพราะมีการประมวลผลและปรับการจ่ายน้ำมันให้เหมาะสมแต่ละช่วงรอบและความต้องการของเครื่องยนต์ได้ตลอดเวลา นอกเหนือจากความประหยัดน้ำมันที่สูงยิ่งขึ้น คือ การลดการปล่อยแกสไอเสีย ความสามารถในการปรับหัวฉีดได้อย่างละเอียด ก็สามารถช่วยลดเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ได้อีกทางหนึ่ง
เครื่องยนต์ดีเซลเมื่อจุดระเบิดจะมีความรุนแรงสูง ทำให้ได้พลังงานความร้อนที่สูง แต่ผลที่ตามมา คือ เสียงดังจากการจุดระเบิด หรือเผาไหม้ ถ้าฉีดน้ำมันออกไปในคราวเดียว ระบบควบคุมใหม่นี้สามารถแบ่งการฉีดน้ำมันได้หลายครั้งใน 1 วัฏจักรการจุดระเบิด โดยการฉีดน้ำมันส่วนหนึ่งออกไปก่อน เมื่อเริ่มจุดระเบิดก็จะฉีดน้ำมันซ้ำเข้าไปอีก 1 หรือ 2 ครั้ง แล้วแต่ช่วงรอบเครื่องยนต์ อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าน้ำมันดีเซลมีการจุดระเบิดช้าและใช้เวลานาน การฉีดน้ำมันไปเพียงส่วนหนึ่งก่อน เมื่อเริ่มลุกไหม้แล้วฉีดตามเข้าไปอีกครั้งหรือ 2 ครั้ง สามารถให้พลังงงานความร้อนสูงกว่า และทำให้การลุกไหม้ตามกระบวนการเร็วขึ้น เผาไหม้หมดจดขึ้น และที่สำคัญ คือ ทำให้เสียงดังจากการจุดระเบิดลดลงอย่างมาก
โวลโว จะเตรียมเปิดตัวขุมพลังดีเซลใหม่ พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติรุ่นใหม่แบบ 8 จังหวะ เกียร์อัตโนมัติลูกใหม่นี้ ถูกพัฒนาทำงานให้มีการส่งกำลังได้แม่นยำมากขึ้น จะส่งผลให้สมรรถนะโดยรวม และความประหยัดมากขึ้นอีกทางหนึ่ง
เรื่องโดย : พหลฯ 30
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2556
คอลัมน์ Online : รู้ทันเทคนิค
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/90730