แนะนำเพลง
แนะนำหนัง+เพลง
LOST IN THAILAND
"ตลกจีน ตะลึงไทย"
ใครจะไปรู้มาก่อนว่า หนังจีนฮาๆ ที่มีฉากหลังเป็นเมืองเชียงใหม่ จะทำรายได้ถล่มทลายเป็นประวัติการณ์ของประเทศจีน ด้วยตัวเลขที่สร้างความตื่นตะลึงทั้งสิ้นประมาณ 6,000 ล้านบาท แน่นอนว่าแตกต่างกันอย่างลิบลับกับทุนสร้างที่น้อยนิด เพราะนี่เป็นหนังตลกโนเนมที่ไม่มีดาราใหญ่ หรือใช้เอฟเฟคท์มหาศาลอันใด
ที่พวกเขามีก็เพียงแค่บทที่พอจะใช้ได้ การให้จังหวะหนังที่ลื่นไหลไม่ติดขัด โดยไม่ยัดเยียดให้เราเชื่อตามที่ว่า แต่เชื้อเชิญให้เราตามติดชะตากรรมของตัวละคร 2-3 ตัว
คนแรกเป็นนักวิจัยที่หวังมาจบการขายกับเพื่อนในประเทศไทย ซึ่งบังเอิญว่าเพื่อนอีกคนหนึ่งของเขากลับไม่เห็นด้วย และติดตามข้ามประเทศมาถึงเมืองไทย ส่วนอีกคนเป็นนักท่องเที่ยวที่บังเอิญซวย ต้องมาตกร่องปล่องชิ้นกับการไล่ล่าของ 2 คนแรก แต่จะว่าไปก็เหมือน 2 คนแรกที่ซวยกว่า เมื่อต้องมาเจอคนหลังสุดนี้
นี่คือหนังที่มีพลอทเรื่องง่ายๆ แต่เป็นการเปิดมุมมองใหม่ในสายตาชาวโลกที่มีต่อประเทศไทย โอเค หนังยังคงมีวัด ช้าง บรรยากาศรถติด ตุ๊กตุ๊ก การไหว้ และมีกระเทยไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก หนังมีทุกสิ่งที่ทุกคนเคยกล่าว แต่มุมมองนั้นใหม่กว่า บริสุทธิ์กว่า จนบางครั้งถึงขั้นนึกว่า นี่คือการย้อนเวลากลับไปมองเมืองไทยในมุมที่นานมาแล้วเราเคยมอง...ใช่หรือไม่ ?
เพราะหนังไม่ได้พยายามสร้างเมืองไทย (หรือเมืองเชียงใหม่) ให้สวยงามกระจ่างตา โดยมีแต่ภาพวัดอลังการขรึมขลัง หรือเต็มไปด้วยประเพณีที่ดูอ่อนโยนและเป็นมิตร พร้อมเสิร์ฟความเป็นไทยแบบที่องค์การส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยชอบทำ
ในทางกลับกัน หนังก็ไม่ได้พยายามทำเมืองไทยให้ดำมืด เต็มไปด้วยโสเภณี (ทั้งแท้และเทียม) ยาเสพติด และอาชญากรรมนานัปการ ซึ่งเป็นการมองเมืองไทยในหนังช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา คือ พยายามจะบอกโลกว่า เมืองไทยก็มีอีกด้านหนึ่งนะ ลองมาดูสิ !
สิ่งที่หนังเรื่องนี้มีต่อเมืองไทย ก็คือ การเลือกใช้โลเคชันตามจริงแบบให้ตัวละครวิ่งไปตามแผนที่ ไม่ตีความสิ่งใดไปในทางหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นเพราะฉากหลัง คือ เชียงใหม่ เมืองที่เพียบพร้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม และวัฒนธรรมที่ยังคงสืบต่อมายาวนาน อย่างการปล่อยโคมลอย หรือการเล่นสงกรานต์แบบปัจจุบัน ดูแล้วทำให้คนไทยอย่างเรารู้สึกดี
และก็ดีที่เราไม่ได้หลอกชาวโลก ว่าบ้านเมืองเราสวยงามน่าอยู่ ไม่มีปัญหา และอาชญากรรม ดีที่ชาวโลกจะได้รู้ว่า แม้บางสิ่งจะเปลี่ยนไป แต่บางอย่างก็ยังคงอยู่ และถึงแม้มันจะปรับเปลี่ยนไปบ้าง แต่มันก็ยังคงมีเสน่ห์ของมัน ถือเป็นหนังตลกไร้สาระอีกเรื่องหนึ่งที่ดูแล้วเราคนไทยกลับได้สาระมากมาย เพราะแม้ว่าหนังจะพูดถึงบางสิ่งที่ตัวละครอาจลืมไป แต่คนดูชาวไทยอย่างเราก็กลับได้คิดเหมือนกันว่า นั่นสิ เราก็ลืมอะไรไปบ้างแล้วในแผ่นดินที่เราหายใจอยู่ทุกวัน
ศิลปิน : TAHITI 80
อัลบัม : WALLPAPER FOR THE SOUL
แนวดนตรี : DOWNTEMPO
โปรย : "ชิลล์ๆ ละมุนละไม"
DOWNTEMPO คือ ชื่อจังหวะเพลงรูปแบบหนึ่ง ซึ่งแตกหน่อออกมาจากดนตรีประเภทอีเลคทรอนิคส์ หลายคนบอกว่ามันคล้ายกับดนตรีชิลล์เอาท์ หรือดาวน์บีท ทำนองกลองดูเหมือนจะเป็นสิ่งชี้นำเพลงประเภทนี้ บางครั้งมันยอกย้อนจนน่าเวียนหัว แต่บางครั้งมันก็ง่ายแสนง่าย สุดท้ายเขาให้นิยามกันไว้สั้นๆ ว่ามันเป็นแนวเพลงอีเลคทรอนิคส์ที่ไม่อึกทึกครึกโครมนั่นเอง
และ DOWNTEMPO ก็คือ แนวเพลงที่ก้าวเข้ามารับตำแหน่งต่อท้ายคำว่า "แนวดนตรี" ของวงนี้
TAHITI 80 คือ วงดนตรีสัญชาติฝรั่งเศส พวกเขามีชื่อเสียงในเมืองไทยบ้างพอหอมปากหอมคอ เพราะเคยมาขึ้นเวทีคอนเสิร์ทแบบนานาชาติที่กรุงเทพ ฯ (และแลกเพลงกันเล่นกับ SQWEEZ ANIMAL อยู่บ้าง) แต่เมื่อค้นหาชื่อพวกเขาในกูเกิล ด้วยโหมด "ค้นหาหน้าภาษาไทย" กลับไม่พบสิ่งใดน่าสนใจ นอกจากมีผู้เจือจานเขียนเรื่องราวของพวกเขาไว้สั้นๆ ในวิกิพีเดีย ภาคภาษาไทย ด้วยความยาวไม่มากไปกว่า 10 บรรทัด โดยบรรยายไว้ว่า
"TAHITI 80 เป็นกลุ่มนักดนตรีพอพฝรั่งเศส ก่อตั้งเมื่อปี 1993 ที่เมือง ROUEN ประเทศฝรั่งเศส ชื่อของกลุ่มมีที่มาจากคำขวัญบนเสื้อยืด ดนตรีของพวกเขาผสมผสานดนตรีพอพที่โน้มเอียงไปทางโซล เนื้อร้องของเพลงเป็นภาษาอังกฤษ พวกเขาประสบความสำเร็จพอสมควรในประเทศญี่ปุ่น มีสมาชิก 4 คน (ในจำนวนนี้เป็นนักร้อง 3 คน) ใช้กีตาร์ เครื่องเคาะ/กลอง กีตาร์เบสส์ พโรแกรมเสียง และคีย์บอร์ด"
เมื่อค้นต่อในภาคภาษาอังกฤษ เรื่องของพวกเขาก็มีไม่มากนัก ทำเพลงมา 4-5 อัลบัม ที่โดดเด่นสุดก็คือ อัลบัมที่เรากำลังจะกล่าวถึง คือ WALLPAPER FOR THE SOUL ผลงานชุดที่ 2 ซึ่งคลอดออกมาเมื่อปี 2002 หลังจากผลงานเพลงชุดแรกสามารถดึงความสนใจของคนฟังได้พอสมควร
12 เพลงในอัลบัมนี้ ให้แนะนำง่ายๆ แบบคนไม่สนใจดนตรีแนะนำให้คนไม่สนใจดนตรีฟัง ก็คงต้องบอกว่า มันคืออัลบัมเพลงพอพใสๆ ถ้าจะถามต่อว่าแล้วอย่างไร? ก็คงต้องบอกว่า มันก็ไม่มีอะไรโดดเด่น กีตาร์มีเส้นเสียงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับจับใจอะไร ให้พูดในแง่ดี ก็คงบอกได้แค่ว่า คนเล่นเขาก็พอจะมีสไตล์เป็นของตัวเองอยู่ และเป็นสไตล์ที่ดี ค่อนไปทางมีรสนิยมด้วยซ้ำ
แต่เสียงร้องของผู้ชายก็งั้นๆ ฟังแล้วก็ดื่นดาษ ละม้ายใกล้เคียงกับนักร้องแนวอินดีทั่วไป ให้ยกมา 1 ชื่อที่พอจะคุ้นหู ก็คงต้องบอกว่าเสียงร้องคล้าย THOM YORKE แห่งวง RADIOHEAD
แต่ที่หยิบมากล่าวถึง ก็เพราะอัลบัมนี้เขามีดีที่ท่วงทำนองอันละมุนละไม เป็นดาวน์บีทและเป็นพอพที่ลงตัว ลื่นไหล ไม่ใช่แค่กลอง เบสส์ และกีตาร์ แต่พวกเขายังผสานเสียงอื่นๆ อีกมากมายเข้าไป ให้เราได้อิ่มเอมกับสรรพสำเนียง (ที่แทรกตัวมาแผ่วเบา) ทั้งเครื่องเคาะ เครื่องเป่าประเภทเลา เสียงสังเคราะห์ และเครื่องสาย เป็นอีกหนึ่งวงบอยแบนด์ที่มากฝีมือ และน่าจะมีอนาคตอันยาวไกลในเส้นทางดนตรีที่พวกเขารังสรรค์ขึ้น
เรื่องโดย : ปัญญ์
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2556
คอลัมน์ Online : แนะนำเพลง
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/90543