ใส่สีใส่สัน
NIAGARA
ผมดูหนังเรื่อง NIAGARA ด้วยเหตุผลส่วนตัว 2 ประการ คือ นางเอกเซกซี-มาริลีน มอนโร และผู้กำกับการแสดง-เฮนรี แฮธอเวย์ เหตุผลก็ไม่มีอะไรลึกซึ้ง นอกจากเป็นแฟนหนังทั้งนางเอกยั่วสวาท และผู้กำกับหนังบู๊
NIAGARA เข้าฉายที่โรงหนังศรีราชวงศ์ ใกล้กับสี่แยกราชวงศ์ของถนนเยาวราช สถานบันเทิง 1 ใน 2 แห่งของเยาวราช-ราชวงศ์ เมื่อ 50-60 ปีที่แล้ว อีกแห่งหนึ่งติดๆ กัน คือ โรงหนังศรีเยาวราช
ผมเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ถึงเวลาจะดูหนังที่เยาวราช ก็อาศัยรถรางเป็นยานพาหนะ แทกซียังไม่มี มีแต่สามล้อถีบ ซึ่งคนที่นั่งสามล้อถีบได้รับการยกย่องว่าเป็นคนมีสตางค์ เพราะถือว่าสามล้อถีบเป็นยานพาหนะส่วนตัว
NIAGARA เป็นของ ทเวนทีธ์ เซนทูรี ฟอกซ์ สร้างในปี 1953 เมื่อ 59 ปีที่แล้ว ผมไม่แน่ใจว่าเข้าฉายที่ศรีราชวงศ์ในปีใด และมีชื่อภาคภาษาไทยว่าอะไร หนังจากฮอลลีวูดที่มาฉายในประเทศไทยสมัยนั้น ไม่ใช่สร้างเสร็จก็ฉายพร้อมกับสหรัฐ ฯ ต้องกินเวลาเดินทางจากฮอลลีวูดมาถึงบริษัทหนังต่างประเทศในกรุงเทพ ฯ ซึ่งมีสำนักงานส่วนใหญ่อยู่ที่วังบูรพา เนื่องจากวังบูรพามีโรงหนัง 3 โรง เป็นฮับของวัยรุ่นสมัยนั้น มีทั้งโรงหนังคิงส์, ควีนส์ และกแรนด์
มาริลีน มอนโร แสดงนำเรื่องนี้ เป็นผู้แสดงนำฝ่ายหญิงครั้งแรก ในไทเทิลจึงปรากฏข้อความเป็นการ "แนะนำ มาริลีน มอนโร" ขณะที่ผู้แสดงอื่นก็เป็น โจเซฟ คอทเทน และยีน พีเตอร์ส และเป็นหนังที่มีโพสเตอร์โฆษณาว่า "เร้าอารมณ์ที่แม้แต่ธรรมชาติก็เอาไม่อยู่" ปรากฏว่า มาริลีน มอนโร ถูกหวยอย่างจังในการเริ่มเล่นบทนำเรื่องนี้ เพราะต่อจากเรื่องนี้เธอก็ได้เล่นนำอีก 2 เรื่องในปีเดียวกัน คือ GENTLEMEN PREFER BLONDS คู่กับ เจน รัสเซลล์ และ HOW TO MARRY A MILLIONAIRE คู่กับ 2 นางเอกดังแห่งยุค คือ เบทที เกรเบิล และลอเรน เบคอลล์ ซึ่ง เบทที เกรเบิล สมัยนั้นแฟนหนังเรียกเธอว่า สาวน้อยน่องทอง ส่วนลอเรน เบคอลล์ เป็นสาวนุ่มลึก
NIAGARA เป็นเรื่องของชาย 2 หญิง 2 ซึ่งทั้ง 4 คนมาเจอกันโดยบังเอิญที่น้ำตกไนแอการา โดย 2 คนแรก คือ เรย์ กับพอลลี มาฮันนีมูน แต่มาช้ากว่ากำหนดที่จองห้องล่วงหน้าไว้ พบว่าห้องที่จองถูกยึดครองไปเรียบร้อยโดย 2 คนผัวเมีย คือ จอร์จ และโรส (รับบทโดย โจเซฟ คอทเทน และมาริลีน มอนโร) เรย์ กับพอลลี จึงได้ห้องใหม่ที่ไม่ค่อยถูกใจ แต่ก็ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของตนด้วยดี ซึ่งไม่นานนัก 2 คู่นี้ก็สนิทสนมไปด้วยกันได้
เรย์ กับพอลลี พบปัญหาระหว่าง จอร์จ กับโรส เนื่องจาก โรส เป็นสาวสวย อายุน้อย แตกต่างกว่า จอร์จ ผู้เป็นสามี ปัญหาการหึงหวงของสามีจึงเกิดขึ้นเป็นธรรมดา แต่ค่อนข้างรุนแรงด้วยน้ำมือ จอร์จ ในการท่องน้ำตกไนแอการา พอลลี แอบเห็น โรส จูบกับผู้ชายคนหนึ่งชื่อ แพทริค คืนนั้น โรส ไปงานพาร์ที แต่ จอร์จ ก็ทำวงแตกไม่เกรงใจ เรย์ กับพอลลี ทุบเครื่องเล่นแผ่นเสียงพัง สิ่งสำคัญที่ จอร์จ ไม่เคยรู้ก็คือ โรส มีแผนฆ่าสามี วันต่อมา โรส ก็ลวงให้ จอร์จ เข้าไปในถ้ำมืด ซึ่งมี แพทริค เตรียมลงมือฆ่า สิ่งที่เกิดขึ้นกลายเป็น จอร์จ คือ ผู้ฆ่า แพทริค โยนศพลงไปในน้ำตกไนแอการา และฉวยโอกาสใส่รองเท้าของ แพทริค แทนรองเท้าของตนที่ถอดทิ้งไว้ ดังนั้น ตำรวจเลยเชื่อว่าคนที่ตายในน้ำเป็น จอร์จ
โรส ถูกตำรวจเชิญมาชี้ศพคนตาย เมื่อ โรส เห็นหน้าศพว่าเป็น แพทริค ก็ถึงกับเป็นลม ต้องเข้าโรงพยาบาล โรงแรมจัดการย้ายห้องพักให้ เรย์ กับพอลลี เมื่อห้องของ โรส กับจอร์จ ว่างลง คืนนั้น จอร์จแอบเข้ามาเพื่อจะฆ่า โรส แต่เมื่อเห็นเป็น พอลลี ก็หนีออกไปจากห้อง ระหว่างท่องน้ำตกไนแอการา เป็นเที่ยวที่ 2 จอร์จ พบกับ พอลลี ตามลำพัง เธอพยายามหนี ทำให้เกือบร่วงลงไปในน้ำตก แต่ จอร์จ ช่วยไว้ทัน จอร์จ สารภาพว่าเป็นคนฆ่า แพทริค และขอร้องว่าอย่าบอกใครว่าเขายังไม่ตาย ขอให้เขาเป็นคนที่ตายไปแล้วด้วยเถอะ
เมื่อ โรส ออกจากโรงพยาบาล ก็ไม่รอดพ้นมือ จอร์จ คำสุดท้ายที่ จอร์จ บอก โรส ก็คือ "ผมรักคุณนะ โรส, คุณก็รู้" ฉากสุดท้าย เป็นเรือบนน่านน้ำไหลไปสู่น้ำตกไนแอการา บนเรือมีคน 2 คน คือ จอร์จ และพอลลี ก่อนเรือจะไหลตกไปในน้ำตก จอร์จ ช่วยให้ พอลลี รอดตายอีกครั้ง ด้วยการจับเอา พอลลี อยู่บนแท่นหินได้สำเร็จ ส่วนตัว จอร์จ ตาย และตำรวจก็พบศพ โรส ในชุดสีแดงอยู่ที่บริเวณก้นน้ำตกไนแอการา
แก่นแท้ของหนังเรื่องนี้ อยู่ที่ความตั้งใจจะเสนอเรื่องราวของเซกซ์ ความเป็นผู้หญิงที่เหนือกว่าผู้หญิงทั่วไปของ โรส ซึ่งแม่นยำกับบทบาทของ มาริลีน มอนโร เป็นอย่างมาก ผู้ชายอย่าง เรย์ สามีของ พอลลี ก็เป็นผู้ชายอีกคนที่มองความเป็นผู้หญิงของ โรส แต่ พอลลี เป็นผู้หญิงที่เอาสามีอยู่ ขณะที่ จอร์จ ซึ่งสวมบทโดย โจเซฟ คอทเทน เป็นผู้ชายสูงวัยที่มีธรรมะ แต่ด้วยความหึงหวง ทำให้ชะตากรรมชีวิตของเขาเปลี่ยนไป และแม้จะเปลี่ยนไป แต่เขาก็ยังมีจิตใจความเป็นมนุษย์ ยังให้การนับถือครอบครัวของ เรย์ กับพอลลี
วงวิพากษ์ของสื่ออเมริกันเห็นว่า มาริลีน มอนโร แจ้งเกิดได้เพราะความช่วยเหลือจากคน 2 คน คือ เฮนรี แฮธอเวย์ ผู้กำกับการแสดง และผู้กำกับกล้องถ่ายภาพ 2 คนนี้พยายามผลักดันส่วนโค้งเว้าของนักแสดงอย่าง มาริลีน มอนโร เน้นทุกชอทจนได้รับความสำเร็จ น้ำตกไนแอการา เป็นส่วนหนึ่งที่เสริมสร้างความสำเร็จของหนังเร้าอารมณ์เรื่องนี้ ผมเคยไปเที่ยวมาแล้วสมัยไปช่วยหนังรักของ คุณฉลอง ภักดีวิจิตรในปี 2520 ปีเดียวกับที่ เอลวิส พเรสลีย์ เสียชีวิต
การมองน้ำตกไนแอการา ภูมิทัศน์จากทางฝั่งแคนาดา สวยงามกว่าทางฝั่งสหรัฐ ฯ พรมแดนของ 2 ประเทศนี้ คือ สะพานเชื่อมโยงกันและกัน ผู้คนที่ไปเที่ยวน้ำตกไนแอการา ก็ต้องไปอยู่ฝั่งแคนาดามากกว่าฝั่งสหรัฐ ฯ ยิ่งใหญ่และสวยงามถึงทุกวันนี้ ขับรถเข้าไปจะเห็นควันลอยขึ้นฟ้าแต่ไกล ซึ่งเกิดจากแรงน้ำตกที่กระแสน้ำจากทะเลสาบเอรี ตกอย่างแรงลงไปที่พื้นน้ำข้างล่าง หรืออีกนัยหนึ่ง เรียกได้ว่า เป็นกระแสน้ำทะเลจากทะเลสาบเอรี ไปสู่ทะเลสาบออนตาริโอ (ออนตาริโอ เป็นชื่อตำบลหนึ่งของแคนาดา)
NIAGARA จากการแสดงของ มาริลีน มอนโร เซกซ์ซิมโบลคนสำคัญของวงการหนังฮอลลีวูด ซึ่งเสียชีวิตมาครบรอบ 50 ปี ไปเมื่อเดือนสิงหาคม สมควรได้ขึ้นหิ้งหนังคลาสสิคของผมครับ
เรื่องโดย : จอสยาม
ภาพโดย : -
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2555
คอลัมน์ Online : ใส่สีใส่สัน
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/87649