ชีวิตคือความรื่นรมย์
ในโลกสื่อข่าวสาร
ข้าพเจ้าถูกอ้อนวอนแกมบังคับให้ไปเรียนการใช้คอมพิวเตอร์ โดยผบ. ทบ. ที่บ้าน (โดยเธอยอมจ่ายค่าเรียนให้เอง) ถึง 2 ครั้ง ครั้งที่ 3 ข้าพเจ้าเกรงว่าครูที่สอนจะส่งสายตามองอย่างน่าสมเพชว่าแค่นี้ก็จำไม่ได้(เหมือนที่ลูกทุกคนและแม่ของเขา เห็นว่าข้าพเจ้าเป็นคนเดียวในบ้านที่เล่นเกมไม่เป็น ไม่ว่าเกมกด หรือเกมออนไลน์ใดๆ แถมตอนนี้ยังมีหลานชายคนโตอายุ 6 ขวบสมองไวมาบอกว่า ทำไมปู่จำแค่นี้ไม่ได้...อีกคน) และสัญญากับใครๆ ไว้ว่า ชาตินี้ยอมเขียนปากกาและดินสอให้หักคามือดีกว่าแต่แล้วเจ้านายโดยสายงานมาบอกว่า "อาจารย์ครับ ผมให้น้องเอาคอมพิวเตอร์ไปตั้งที่โต๊ะอาจารย์เรียบร้อยแล้วนะ แล้วสาวๆ ที่นั่งรอบข้าง เขาจะสอนอาจารย์เอง" กว่าข้าพเจ้าจะจิ้มสองนิ้วได้เป็น และรู้แน่แก่ใจว่า มันดีกว่าที่ข้าพเจ้าพยายามเก็บเงินเดือนครูไปเรียนชวเลข และกัดฟันซื้อพิมพ์ดีดราคาถูกที่สุด แถมผ่อนส่งได้ด้วย (เพราะอยากเป็นนักหนังสือพิมพ์ และนักเขียน) เพราะคอมพิวเตอร์ทำอะไรได้ดีกว่าพิมพ์ดีด อายุก็ปาเข้าทศวรรษที่ 6 บนโลกไร้พรมแดนนี้แล้ว ก็รู้สึกว่าดีใจกว่าเพื่อนอีกหลายคนที่ทนสายตาเหยียดหยามของลูกไม่ได้ เลยไม่เรียนมันเสียเลย บางคนก็อ้างว่า ก็เลขา ฯ ทำให้ทุกอย่างแล้ว จะเอาอะไรมากกว่านั้น ข้าพเจ้ารู้สึกว่า ตอนที่ข้าพเจ้าต้องปั่นต้นฉบับส่งข่าวส่งสื่อมวลชนสมัยโน้น แล้วยังต้องหอบต้นฉบับไปถ่ายเอกสารหลายๆ สำเนา แถมเวลาเขียนผิด จะแก้ทีก็แสนจะลำบาก บางทีต้องยอมปล่อยเลยตามเลยเพราะไม่มีเวลาแก้ไข เสร็จใส่ซอง และจ่าหน้าซอง ไม่ให้เอาที่จะส่งบางกอกโพสต์ ส่งไปที่เดอะเนชัน ไม่เอาที่จะส่งไทยรัฐ ไปใส่ซองเดลินิวส์ ฯลฯ มันแสนสับสน และเพื่อให้ทันเวลาแต่ละฉบับเกือบ 20 ฉบับปิดต้นฉบับ ต้องตีรถฝ่าการจราจรอันแสนจะน่าอึดอัดไปส่งตามสำนักงานแต่ละแห่ง หิวข้าวแทบตายก็ต้องตะกายไปให้ได้ ไม่เหมือนตอนนี้ที่ปั่นต้นฉบับเสร็จ จะแก้ไขอย่างไรก็ได้ แล้วส่งทางแฟกซ์หรืออีเมล์ก็แสนสบาย แต่นี่เมื่อผ่านยุควิกฤตในชีวิตพนักงานผู้น้อยมาจนเกษียณแล้วเกษียณอีกครั้งที่ 2 และดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา แม้จะไร้เงินประจำตำแหน่งและประจำเดือน โลกก็ยังปรานีให้มีการส่งข่าวสารถึงเพื่อนๆ (โดยส่วนมากเป็นรุ่นน้อง-ลูกและหลาน) ได้ไม่ถึงกับเหงาเพราะคอยหลานมาให้ชื่นใจอย่างเดียว โลกไซเบอร์ไร้พรมแดน ที่แม้ข้าพเจ้ายังทำอะไรๆ ไม่เป็นอีกหลายอย่าง แต่ก็ส่งอะไรไปและมาให้รู้-ให้เห็น-ให้หัวเราะ ให้ชื่นชม และขมขื่น หรือซาบซึ้งเสมอๆ เช่น เมื่อข้าพเจ้าเขียนบทอาศิรวาทเสร็จ ก็ส่งไปให้หนังสือที่จะพิมพ์ ดังนี้ พระสยามมาตากตัญชลี (สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ 19) กรองกลกานท์มธุรสวลีดุริยศัพท์/สังคีตประโคมขับ/พจี//พร้อมกรรพุมทศนัขประชุมศิรชุลี/แทบบาทละอองศรี/ยุคล//น้อมปูชิตวรนาถนรีสิริพระชนม์/มาตาสุธาดล/บดี//ราชสมภพอภิลักขิตวรดิถี/น้อมเกล้ากตัญชลี/พระบาท/รำลึกในพระมหากรุณยประสาท/เมตตาประชาราษฎร์/พิศาล/ทรงส่งเสริมรชกิจพิสิฐพิพิธภาร/ปัญญาประชาชาญ/ประมวญ//หลากโครงการนฤมิตประสิทธิ์บุรกระสวน/บรรยุกต์กระบวนควร/พิทักษ์/รังสฤษฏิ์มูลนิธิศิลปะและอนุรักษ์/โลกซ้องประจักษ์ทักษไทย/ขอน้อมเกล้าอภิวันทนารตนตรัย/สรรพ์พรบวรชัย/ประสิทธิ์//ทรงสำราญวรชนม์เกษมศุภนิมิต/เนิ่นศตวรรษนิจ/นิรันดร์/แล้วไม่กี่นาที เขาก็จัดหน้าจัดรูปอาร์ทเวิร์คสวยงามส่งคืนให้ดู จะแก้ไขข้อความหรือเลือกแบบตัวอักษร (ฟอนท์) สวยๆ ก็ได้ตามใจในไม่กี่นาที หรือวันก่อนนี้เอง ท่านมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว. วชิรเมธี) ท่านเขียนบทความสอนใจ ชื่อ ห้องที่ชื่อใจ น่ารักมากๆ มิตรร่วมสังคมออนไลน์ของข้าพเจ้าส่งมาให้อ่าน ด้วยความซาบซึ้งใจ ข้าพเจ้าก็เลียนใจความของท่านมาปรับเป็นกลอน และเปลี่ยนชื่อว่า สำคัญที่ใจ ดังนี้ แพทย์บอกว่า หัวใจ มีอยู่สี่ห้อง/ต่างสอดคล้องปฏิกรรมทำหน้าที่/หากทุกห้องพ้องทำกิจกรรมดี/กายมนุษย์ก็มีสุขสบาย/พระท่านว่าห้อง ใจ คล้ายห้องว่าง/หากคนวาง สิ่ง ชั่ว-ดีที่หลากหลาย/ห้องที่ว่างอยู่นั้นพลันกลับกลาย/เป็นเลวร้ายชั่วดีที่ สิ่ง วาง/หากใส่น้ำก็จะเห็นเป็นห้องน้ำ/ใส่พระนำเป็นห้องพระธรรมกระจ่าง/ใส่เครื่องนอนเป็นห้องนอนพักผ่อนพลาง/เก้าอี้ต่างก็เป็นห้องรับแขกคน/ใส่คนสำคัญก็เป็นห้องวีไอพี/ชั่วหรือดีที่สิ่งวางดั่งข้างต้น/ถ้าเราวางสิ่งใดใส่ใจตน/ก็ไม่พ้นคนอื่นเห็นเป็นเช่นนั้น/ใส่เมตตาเข้าไปก็ใจดี/ใส่ธรรมะใจจะมีบุญเสกสรรค์/ใส่ความโกรธจิตพิโรธกริ้วโกรธพลัน/ใส่ความเลวใจหุนหันพลันเลวทราม/ใส่ความเป็นนักสู้ใจก็สู้/ใส่ความรู้ใจฉลาดฉกาจสนาม/ใส่สติใจก็มีสติงาม/ใส่ความกลัวใจก็คร้ามขลาดระแวง เห็นหรือไม่ ใจ พลังขลังกว่า กาย/ออกแบบหมายให้ชีวิตคิดกร้าวแกร่ง/ใจเป็นนายเป็นผู้นำกายสำแดง/โลกหมุนได้ไปตามแรงใจสั่งกาย/โลกที่ว่านั้นหรือ-คือ ชีวิต/หมุนตามทิศที่จิตสั่งดั่งใจหมาย/ชีวิตคนนั้นที่ดีหรือร้าย/เพราะตามนาย ใจ สั่งไปทั้งนั้น/ถามตัวเองเถิด..วันนี้ที่ ห้องใจ/เราบรรจุสิ่งใดใส่ห้องนั่น/โลภโกรธหลงชั่วดี...มิอัศจรรย์/ชีพเลวทรามหรือสร้างสรรค์..สำคัญที่ ใจ/ จะเห็นว่า เราไม่ต้องคอยอ่านธรรมบท ห้องที่ชื่อว่า ใจ ของท่านอาจารย์ ว. วชิรเมธี กว่าจะพิมพ์เป็นหนังสือหรือต้องไปหาซีดีหรือคอยฟังทางวิทยุหรือรอท่านทางโทรทัศน์ เพราะลูกศิษย์ของท่านช่วยผลิตทางสื่ออีเลคทรอนิคส์ต่างๆ สะดวกสบาย ท่านก็ได้เผยแผ่พระธรรมของท่าน เราก็ได้อ่านด้วยความซาบซึ้ง หากใจใคร่ทำบุญก็ส่งปัจจัยไปสมทบการพิมพ์เผยแพร่พระธรรมของท่านได้ที่ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี วัดราชบพิตรดุสิตวนาราม หรือมูลนิธิของท่านที่ (ขอหาก่อน-จะส่งตามมาทีหลัง) ความจริงแล้วยังมีทั้งข้อคิด-ความเห็น-ความรู้มากมายทั้งบทความ-สารคดี-บทกวี.-ปกิณกะ...และที่มีมาก คือ เรื่องเล่าขำขันคลายเครียดหลากหลายเรื่องราว น่านำมาเล่าสู่กันอ่าน ในโอกาสอันควรต่อไป
เรื่องโดย : ประยอม ซองทอง
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2555
คอลัมน์ Online : ชีวิตคือความรื่นรมย์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/87635