วิถีตลาดรถยนต์
กลับมาแฮพพีกันต่อ
[table]
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ ประจำเดือนพฤษภาคม ปี '55 กับ '54
ตลาดโดยรวม, + ,105.2 %
รถยนต์นั่ง ,+ ,133.2 %
กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ, +, 80.4 %
กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ, +, 431.6 %
รถขับเคลื่อน 4 ล้อ, + ,64.6 %
รถเอมพีวี, +, 117.0 %
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ ประจำเดือนมกราคม-พฤษภาคม ปี '55 กับ '54
ตลาดโดยรวม ,+ ,32.2 %
รถยนต์นั่ง ,+, 17.7 %
กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ ,+, 36.0 %
กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ, + ,237.5 %
รถขับเคลื่อน 4 ล้อ, + ,43.2 %
รถเอมพีวี, +, 76.5 %
[/table]
เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงเหมือนกับการทำงานของลูกสูบในเครื่องยนต์เลย สำหรับยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในประเทศ เดือนมีนาคม เพิ่งจะทุบสถิติยอดจำหน่ายรายเดือนไป พอเดือนเมษายน ยอดจำหน่ายหดหายไปพอสมควร แต่มาถึงเดือนพฤษภาคม พุ่งขึ้นจนปรอทแทบแตกเลยทีเดียว สถิติเดิมที่เพิ่งถูกจดบันทึกไป ถูกทำลายลงไปเรียบร้อยอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย รอลุ้นกันต่อไปว่า เดือนหน้า มิถุนายน ยอดจำหน่ายจะหดตัวลงอีกหรือเปล่า หรือว่าสถิติที่เขียนใหม่ น้ำหมึกยังไม่ทันแห้ง จะต้องมาลบทิ้ง แล้วจดสถิติใหม่ทับลงไป หรือไม่ประการใด
เดือนพฤษภาคม ตลาดรถยนต์ในบ้านเราคึกคักพอประมาณ รถพิคอัพ 1 ตัน ต่างเดินหน้าไขว่คว้าแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดกันเต็มที่ สนุกสนานไม่แพ้ตลาดรถยนต์ประเภทอื่น ทุกโมเดลผ่านการปรับเปลี่ยนสู่ช่วงชีวิตใหม่กันเกือบหมดแล้ว ที่ยังไม่เปลี่ยนก็เป็นรุ่นยอดนิยมของค่ายพี่ใหญ่ ที่รุ่นปัจจุบันซึ่งผ่านการปรับย่อยครั้งใหญ่มาก่อนหน้านี้ ก็เพียงพอที่จะยืนหยัดรับใช้ปวงประชา และแข่งขันกับคู่แข่งรายอื่นได้อย่างไม่เป็นสองรองใคร ยังทำตัวเป็นทางเลือกอันดับ 1 ในใจของผู้ใช้รถพิคอัพเหมือนเดิม
เดือนที่ 5 ของปี 2555 สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศที่เคยมีมา ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง ด้วยตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์รวมทุกประเภท 114,629 คัน ซึ่งเมื่อเทียบกับที่เคยทำได้ในเดือนพฤษภาคม ปีที่แล้วแตกต่างกันถึง 105.2 % นอกจากนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ ยังประกอบด้วยยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งต่อเดือนสูงที่สุดอีกด้วย ซึ่งดูจากปัจจัยประกอบอื่นๆ นอกเหนือจากรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด อาทิ การกลับมาเดินสายการผลิตกันอย่างเต็มกำลังความสามารถของโรงงานผู้ผลิตรถยนต์ทุกราย ที่จะทำให้รถยนต์รุ่นใหม่ที่ค้างส่งมอบ ถูกเร่งส่งมอบให้ถึงมือผู้สั่งซื้อไว้เร็วขึ้น
โตโยตา ผู้นำตลาดยานยนต์ไทย ยังคงเดินหน้ากวาดยอดจำหน่ายเข้าพกเข้าห่ออย่างเป็นกอบเป็นกำ เดือนพฤษภาคม โตโยตา จำหน่ายรถยนต์ทุกรุ่นทุกแบบได้อีก 43,644 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดถึง 38.1 % เป็นยอดจำหน่ายที่เติบโตสูงกว่าเดือนพฤษภาคม ปีที่แล้วถึง 232.9 % คู่แข่งสำคัญในตลาดรถยนต์เมืองไทย อีซูซุ มียอดจำหน่ายรถยนต์ทุกประเภทอยู่ในอันดับที่ 2 จำหน่ายได้ 16,866 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 14.7 % ขณะที่อันดับ 3 ฮอนดา ดูเหมือนว่าจะโผล่พ้นน้ำกลับสู่สภาวะปกติวิสัยเรียบร้อยแล้ว ด้วยยอดจำหน่าย 15,601 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาด 13.6 % เป็นยอดจำหน่ายที่สูงกว่าเดือนพฤษภาคม ปีที่ผ่านมา ซึ่งยังอยู่ในช่วงวิกฤตผลกระทบจากสึนามิ และแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นถึง 308.2 % อันดับที่ 4 ทำยอดจำหน่ายต่อเดือนได้เกิน 10,000 คันเช่นกัน นิสสัน มียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 10,126 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 8.8 % เป็นยอดจำหน่ายที่สูงขึ้น 77.1 % ส่วนอันดับ 5 ตกเป็นของ มิตซูบิชิ ด้วยยอด 8,588 คันส่วนแบ่งตลาด 7.5 % ปรับตัวเพิ่มขึ้น 22.8 %
ขณะที่ยอดจำหน่ายสะสมรวม 5 เดือน โตโยตา นำโด่งด้วยยอดรวมทั้งสิ้น 195,639 คัน มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 40.9 % จากยอดจำหน่ายรวมของทั้งตลาด 478,108 คัน อีกไม่กี่มากน้อยก็จะเลย 200,000 คันไปแล้ว อีซูซุ ยังอยู่ในอันดับที่ 2 จำหน่ายได้ 80,048 คัน ส่วนแบ่งตลาด 16.7 % ความน่าสนใจอยู่ที่อันดับ 3 ถึงอันดับ 5 ที่ยังไม่แน่นอนว่ายี่ห้อไหน บแรนด์ไหน จะยืนหยัดในตำแหน่งเดิมในเวลานี้ได้ เพราะยอดจำหน่ายรวม 5 เดือนทิ้งกันยังไม่ขาด เหมือนกับอันดับ 1 โตโยตา และอันดับ 2 อีซูซุ อันดับ 3 นิสสัน ยอดจำหน่ายรวม 43,328 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.1 % ขณะที่ มิตซูบิชิ อยู่ในอันดับ 4 ด้วยยอด 40,299 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.4 % ส่วน ฮอนดา อยู่ในอันดับ 5 ยอดจำหน่าย 30,761 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 6.4 % ก็ยังมีโอกาสที่จะขยับตำแหน่งขึ้นบนได้เช่นกัน
พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ เดือนพฤษภาคม ยังคงแข่งขันแย่งลูกค้ากันอย่างเข้มข้น เฉพาะเดือนนี้ ยอดจำหน่ายอยู่ที่ 43,321 คัน ปรับตัวสูงกว่าเดือนพฤษภาคม ปีที่แล้ว 80.4 % ในจำนวนนี้เป็นยอดจำหน่ายของ โตโยตา 16,769 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 38.7 % อีซูซุ 13,786 คัน ส่วนแบ่งตลาด 31.8 % มิตซูบิชิ 4,292 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.9 % เชฟโรเลต์ 3,298 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.6 % มาซดา 2,044 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.7 % ขณะที่ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 205,414 คัน สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 36.0 % โตโยตา ขยับหนีอันดับ 2 อีซูซุ ออกไปด้วยยอดจำหน่ายรวม 76,195 คัน ต่อ 64,661 คัน ส่วนแบ่งตลาดของ โตโยตา 37.1 % อีซูซุ 31.5 % มิตซูบิชิ ตามมาห่างๆ ในอันดับที่ 3 ด้วยยอด 24,595 คัน ส่วนแบ่งตลาด 12.0 % เชฟโรเลต์ ตัวใหม่ ได้ใจคนรักพิคอัพไม่ใช่น้อย ยอดจำหน่ายสูงขึ้นๆ ในแต่ละเดือน ทำให้ยอดรวมตั้งแต่ต้นปีมีตุนในกระเป๋าแล้ว 13,957 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 6.8 % และมีการปรับตัวสูงที่สุดในบรรดาพิคอัพทั้งหมด จนถึงเดือนพฤษภาคมปรับตัวสูงขึ้นกว่าช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 233.3 % อันดับที่ 5 เป็นพิคอัพของค่าย นิสสัน มียอดรวมตั้งแต่ต้นปี 7,650 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.7 % อันดับที่ 5 ของ นิสสัน น่าจะเป็นอันดับที่มีความอ่อนไหวมากที่สุดในบรรดา 5 พิคอัพยอดจำหน่ายสูงสุด เพราะมากกว่ายอดจำหน่ายของ มาซดา ที่ตามอยู่ในอันดับที่ 6 เพียง 200 กว่าคันเท่านั้น
พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ เดือนพฤษภาคมมียอดจำหน่ายรวม 4,869 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม ปีที่แล้วถึง 431.6 % พิคอัพขับ 4 ของ โตโยตา โดนใจขาลุยมากที่สุด มียอดจำหน่าย 2,765 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาดถึง 56.8 % อีซูซุ อยู่ในอันดับที่ 2 จำหน่ายได้ 1,307 คัน ส่วนแบ่งตลาด 26.8 % เชฟโรเลต์ อยู่ในอันดับที่ 3 จำหน่ายได้ 255 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.2 % อันดับ 4 ฟอร์ด 179 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.7 % อันดับ 5 มิตซูบิชิ 144 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.0 %
ส่วนยอดจำหน่ายรวม 5 เดือน ความนิยมเพิ่มมากขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 237.5 % คิดเป็นยอดจำหน่าย 22,693 คัน แชมพ์ตลาดนี้เป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจาก โตโยตา เพราะจำหน่ายไปได้แล้วถึง 12,383 คัน ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 54.6 % โดย อีซูซุ ตามมาห่างหลายโค้ง 5 เดือนจำหน่ายไป 7,132 คัน ส่วนแบ่งตลาด 31.4 % เชฟโรเลต์ อยู่ในอันดับที่ 3 จากยอดจำหน่าย 952 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.2 % โดยมี มิตซูบิชิ ตามหลังมาด้วยยอดจำหน่าย 779 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.4 % ขณะที่ ฟอร์ด ก็ไล่มาเป็นงูกินหางเหมือนกัน ตามหลัง มิตซูบิชิ เพียง 100 กว่าคัน ยอดจำหน่ายของ ฟอร์ด 662 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.9 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง หรือเอสยูวี เป็นอีกตลาดหนึ่งที่ความนิยมเพิ่มมากขึ้น เดือนพฤษภาคม มียอดจำหน่ายรวม 6,574 คัน เพิ่มสูงขึ้นจากเดือนพฤษภาคม ปีที่แล้ว 64.6 % เอสยูวีมหานิยมประกอบด้วย โตโยตา 2,548 คัน ส่วนแบ่งตลาด 38.8 % มิตซูบิชิ 1,860 คัน ส่วนแบ่งตลาด 28.3 % เชฟโรเลต์ 1,000 คัน ส่วนแบ่งตลาด 15.2 % ฮอนดา 631 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.6 % และอีซูซุ 275 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.2 % ตลาดนี้ความจริงมีตัวเลือกให้เลือกมากมาย รวม 5 เดือนแล้วตลาดนี้มียอดจำหน่ายรวมที่เป็นทางการ 33,040 คัน ปรับตัวสูงขึ้น 43.2 % 5 อันดับเอสยูวียอดจำหน่ายสูงสุดเป็น โตโยตา 13,804 คัน ส่วนแบ่งตลาด 41.8 % มิตซูบิชิ 10,494 คัน ส่วนแบ่งตลาด 31.8 % เชฟโรเลต์ 4,968 คัน ส่วนแบ่งตลาด 15.0 % อีซูซุ 1,715 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.2 % และฮอนดา 918 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.8 %
สำหรับรถเอมพีวี 2,751 คัน เป็นยอดจำหน่ายที่เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม ฮอนดา กลับมาทำได้ดีเยี่ยมในตลาดนี้ และเป็น 1 ใน 2 ยี่ห้อที่จำหน่ายได้เกิน 1,000 คัน ส่วนยี่ห้ออื่นๆ จำหน่ายอยู่ในหลักสิบ และหลักหน่วยเท่านั้น โตโยตา จำหน่ายได้มากที่สุด 1,490 คัน ส่วนแบ่งตลาด 54.2 % ฮอนดา จำหน่ายได้ 1,170 คัน ส่วนแบ่งตลาด 42.5 % ที่เหลือเป็น ปโรตอน 28 คัน ส่วนแบ่งตลาด 1.0 % รวม 5 เดือน เอมพีวีป้ายแดงจำหน่ายแล้ว 9,726 คัน เพิ่มขึ้น 76.5 % 5 ยี่ห้อยอดนิยมเป็น โตโยตา 5,926 คัน ส่วนแบ่งตลาด 60.9 % ฮอนดา 2,890 คัน ส่วนแบ่งตลาด 29.7 % ปโรตอน 578 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.9 % ซังยง 107 คัน ซูซูกิ 93 คัน ส่วนแบ่งตลาด 1.1 % และ 1.0 % ตามลำดับ
เดือนมิถุนายน ตลาดซื้อขายรถยนต์ใหม่ป้ายแดงเดินทางมาถึงครึ่งแรกของปี ยอดจำหน่ายจะทะลุทะลวง มีสถิติใหม่เกิดขึ้นกับตลาดไหนอย่างไร ? คำตอบตามมาในฉบับต่อไป
เรื่องโดย : ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กันยายน ปี 2555
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/87095