ผลทดสอบต่างแดน
มาซดา ซีเอกซ์-5 ใหม่
มาซดา ค่ายรถยนต์ชั้นนำจากแดนอาทิตย์อุทัย เข้าร่วมวงรถยนต์พันทางแบบครอสส์โอเวอร์ ค่อนข้างช้า ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น นิสสัน ซึ่งมีรถยนต์รุ่น กัชไก (QASHQAI) และ โฟล์คสวาเกน ที่มีรุ่น ทีกวน (TIGUAN) ได้สร้างสีสันให้ตลาด ด้วยรถยนต์รูปแบบดังกล่าวล่วงหน้ามาพอสมควรแล้ว ดังนั้น มาซดา ต้องทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อนำเสนอบางสิ่งที่พิเศษ และนั่นก็คือ มาซดา ซีเอกซ์-5 ใหม่ นั่นเอง
ข่าวใหญ่เกี่ยวกับเทคโนโลยี สกายแอคทีฟ (SKYACTIV) ก็ช่วยผลักดันให้ ซีเอกซ์-5 ดูโดดเด่นขึ้นมาไม่น้อย ซึ่งจุดเด่นที่ว่าก็คือ เป็นรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงสูงที่สุดในรถยนต์ขนาดเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นอื่นๆ อีก เช่น วัสดุที่ใช้ในการสร้างตัวถังรถ ทำจากโลหะที่มีความทนทานสูง และน้ำหนักเบา
เครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งใช้เทคโนโลยีดังกล่าว มีขนาด 2.2 ลิตร สร้างมลภาวะต่ำที่สุดในกลุ่ม คือ ผลิตแกสคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 119 กรัม/กม. นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์เบนซินความจุ 2.0 ลิตร ซึ่งก็สร้างมลภาวะต่ำเช่นกัน คือ อยู่ที่ 139 กรัม/กม. ซึ่งระดับการสร้างมลภาวะของเครื่องยนต์เบนซินของ มาซดา มีค่าใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ดีเซล ที่จัดอยู่ในกลุ่มเครื่องยนต์มลภาวะต่ำ ของ โฟล์คสวาเกน ทีกวน
นอกจากเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในระดับแนวหน้าแล้ว เครื่องยนต์ดีเซล ของ มาซดา ซีเอกซ์-5 ยังให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนใคร นั่นคือ รอบเครื่องยนต์มีให้ใช้ที่ค่อนข้างสูง แถมยังมีความนุ่มนวล และเงียบอีกด้วย ซึ่งผู้ขับขี่บางคนอาจจะนึกว่ากำลังขับรถเครื่องยนต์เบนซินอยู่ก็ได้
มาซดา เพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้า ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2 ขนาด แตกต่างกันที่แรงม้า คือ 148 และ 172 แรงม้า ส่วนในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน มีกำลัง 163 แรงม้า
ระบบขับเคลื่อนมีทั้งแบบ 2 ล้อ และ 4 ล้อให้เลือก โดยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมีในรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 163 แรงม้า และ ดีเซล 172 แรงม้า แต่ถ้าหากลูกค้าอยากจะสัมผัสความแรง โดยไม่เอาระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทาง มาซดา ก็มีให้เลือกด้วยเช่นกัน ซึ่งในรุ่นดังกล่าวจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล 163 และ 172 แรงม้า แต่ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า ซึ่งแน่นอนว่าโดดเด่นในเรื่องของพลัง และสมรรถนะ โดยอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ภายในเวลา 9.2 วินาที
ทาง มาซดา ยืนยันว่า ซีเอกซ์-5 เป็นรถยนต์ที่มีความประหยัด โดยอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย อยู่ที่ประมาณ 26.7 กม./ลิตร ส่วนความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ก็โดดเด่นอยู่ในระดับหัวแถว สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 172 แรงม้า ในช่วงนี้ยังคงไม่เปิดตัว แต่คาดว่าคงอีกไม่นานเกินรอ ส่วนอัตราความสิ้นเปลืองของรุ่นเครื่องยนต์เบนซินอยู่ที่ประมาณ 20.0 กม./ลิตร
รถรุ่นนี้ ก็มีอะไรหลายอย่างที่น่าสนใจในรูปแบบของครอสส์โอเวอร์ อย่างเช่น ความจุของพื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 503 ลิตร ซึ่งมองดูไม่น่าจะเป็นไปได้ สำหรับรถยนต์ขนาดนี้ และถ้าหากพับเบาะหลังลง ซึ่งก็ทำได้ง่ายดาย เพียงกดแค่ปุ่มเดียว ก็จะมีพื้นที่เก็บของเพิ่มขึ้นเป็น 1,603 ลิตร ในทันที แถมที่นั่งผู้โดยสารตอนหลัง ยังมีพื้นที่วางช่วงขากว้างขวางอีกด้วย
ภายในห้องโดยสาร มาซดา ทำตามที่เคยกล่าวไว้ นั่นคือ มีการพัฒนาอย่างมากในเรื่องของคุณภาพวัสดุ กล้าพูดว่าอยู่เหนือกว่ารถยนต์คู่แข่งอีกหลายยี่ห้อ ซึ่งสิ่งที่เห็นได้ง่ายๆ คือ วัสดุที่ใช้ทำแผงหน้าปัด ให้ความรู้สึกถึงความนุ่มนวลต่อการสัมผัส
ในด้านการขับขี่ ซึ่งความแม่นยำในการบังคับควบคุม ถือเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของรถยนต์รุ่นนี้ มีการตอบสนองในด้านน้ำหนักพวงมาลัยที่ดี และมีความแม่นยำ แต่เรายังอยากให้ผู้ผลิตปรับปรุงรายละเอียดอีกสักนิด ซึ่งบางครั้งยังรู้สึกว่าไม่ค่อยนิ่ง
ส่วนอาการโคลงตัวของรถถือว่าน้อยมาก ทำให้ค่อนข้างมั่นใจในเส้นทางที่คดเคี้ยว ในรุ่นเกียร์ธรรมดา ความรู้สึกในการเปลี่ยนเกียร์ ตอบสนองดี เหมือนเกียร์รถสปอร์ทโรดสเตอร์ เอมเอกซ์-5 และน่าประทับใจในการตอบสนอง ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราทดเกียร์ และเฟืองท้าย
เราทดสอบกันบนถนนหลากหลายรูปแบบ รวมทั้งเส้นทางแบบกรวดหยาบ และทางฝุ่น แต่รถก็ยังให้ความรู้สึกที่มั่นคง และมีความนุ่มนวล วงล้ออัลลอยมีให้เลือกทั้งขนาด 17 และ 19 นิ้ว แต่เรากลับพบว่าล้อที่ใหญ่กว่าจะให้ความรู้สึกการขับขี่ที่แข็งกระด้าง
คาดว่า มาซดา จะเริ่มเปิดตัวและขายในอังกฤษประมาณเดือนเมษายน ขณะที่ราคายังไม่มีการเปิดเผย แต่เราทราบคร่าวๆ ว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 22,000 ปอนด์ ซึ่งราคานี้น่าจะรวมระบบนำทางแบบดาวเทียม และระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัยอื่นๆ เช่น ระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวบริเวณจุดบอดของตัวรถ ระบบเตือนช่วยเหลือ เวลาเปลี่ยนเลนถนน และระบบช่วยผู้ขับขี่ โดยการหยุดรถให้โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่บนเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่น เป็นต้น
คุณรู้หรือไม่?
เครื่องยนต์ สกายแอคทีฟ (SKYACTIV) มีความแตกต่างจากเครื่องยนต์อื่นๆ ในด้านกำลังอัด ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มเครื่องยนต์ขนาดความจุเดียวกัน นั่นคือ 14.0 ต่อ 1 ฉีดเชื้อเพลิงละเอียด จึงมีความประหยัด และสมรรถนะที่น่าพอใจ
เรื่องโดย : อัฐฒา นายเรือ
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2555
คอลัมน์ Online : ผลทดสอบต่างแดน
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/85211