พิเศษ(4wheels)
ฟอร์ด เอสเคพ และ ฮอนดา ซีอาร์-วี ใหม่
4WHEELS ขอต้อนรับปีใหม่ด้วยเอสยูวี 2 รุ่น ที่กำลังอวดโฉมอยู่ในเวทีโลก และยังเป็นรถรุ่นที่ได้รับความนิยมมากในตลาดบ้านเรา
ฟอร์ด เอสเคพ
มาร์ทิน สมิธ (MARTIN SMITH) ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารด้านการออกแบบของ ฟอร์ด กล่าวถึงรูปร่างหน้าตาของ เอสเคพ (ESCAPE) ใหม่ ที่ดูดี ว่าไม่ได้เกิดขึ้นโดยความบังเอิญ วิศวกรนักออกแบบต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อนำเสนอสิ่งที่เหนือกว่า และสร้างความประทับใจใหม่บนพื้นฐานที่ดูแข็งแกร่ง บึกบึน และต้องแสดงออกอย่างชัดเจนถึงพลังแห่งการขับเคลื่อน
การออกแบบภายนอกที่ดูบึกบึน และมีเส้นสายที่พลิ้วไหว คือ จุดสำคัญในการออกแบบภายในให้สอดรับกับภายนอก วิศวกรจึงใส่ทั้งความทันสมัย และเพิ่มคุณสมบัติการใช้งานของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในตัวรถ รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างเช่น เบาะนั่งที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ปรับได้ถึง 6 ทิศทาง เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง
และเป็นครั้งแรกของ เอสเคพ ในสหรัฐอเมริกา ที่มีเครื่องยนต์ อีโคบูสต์ (ECOBOOST) 1.6 และ 2.0 ลิตร ให้เลือกเพิ่มเติม นอกเหนือจากเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ซึ่งเครื่องยนต์รุ่นนี้ของ ฟอร์ด ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมทางด้านเทคโนโลยี มีสมรรถนะสูง และประหยัดเชื้อเพลิง
เครื่องยนต์ อีโคบูสต์ จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบไดเรคท์อินเจคชัน ติดตั้งระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จ มีระบบวาล์วแปรผัน TI-VCT โดยเฉพาะรุ่น 2.0 ลิตร มีกำลังถึง 237 แรงม้า มากกว่าเครื่องยนต์ วี 6 ของคู่แข่งระดับเดียวกัน ส่วนเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร มีกำลัง 173 แรงม้า ให้คุณสมบัติโดดเด่นด้านความประหยัดเชื้อเพลิง และถ้าหาก 237 แรงม้า ของเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ยังไม่เพียงพอ เอสเคพ ใหม่ ยังมีเครื่องยนต์ความจุ 2.5 ลิตร ซึ่งใช้พื้นฐานร่วมกันกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร แต่มีพละกำลังมากกว่า เพื่อตอบสนองนักขับเท้าหนัก
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ของ เอสเคพ ได้รับการพัฒนาล้ำหน้าขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งวิศวกร ฟอร์ด กล่าวว่าทำงานได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าการกะพริบตาของคนเสียอีก โดยการพัฒนาในครั้งนี้ มีการปรับปรุงด้านระบบเซนเซอร์ตรวจจับ และซอฟแวร์ โดยรับสัญญาณจากเซนเซอร์ถึง 25 จุด รวมกับตำแหน่งขาคันเร่ง และความเร็วของล้อที่กำลังหมุน รวมถึงองศาของพวงมาลัย ซึ่งระบบขับเคลื่อนดังกล่าวสามารถแสดงประสิทธิภาพในด้านการควบคุมได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งบนเส้นทางฝุ่น และทางเรียบ
เทคโนโลยีใหม่นี้ วิศวกร ฟอร์ด ได้ติดตั้งบน เอสเคพ มีหลายอย่าง แต่ที่ควรจะกล่าวถึง คือ ระบบกระจังหน้า แบบ ACTIVE GRILLE SHUTTER SYSTEM ซึ่งทำงานโดยเปิดช่องรับอากาศบริเวณกระจังหน้ารถ หากเครื่องยนต์ต้องการอากาศเย็นเพื่อระบายความร้อน และหากขับขี่ที่ความเร็วสูง กระจังหน้าจะปิดตัวลงโดยอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ ซึ่งมีส่วนช่วยในด้านการประหยัดเชื้อเพลิง
สุดท้าย คือ ระบบด้านความปลอดภัย ตัวถังของ เอสเคพ ใหม่มีการทดสอบทางด้านการชน ทั้งแบบจำลอง และใช้รถจริงๆ ในการทดสอบ รวมกันมากกว่า 5,000 ครั้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย และทำงานผสานกับระบบถุงลมนิรภัยแบบใหม่ และระบบเข็มขัดนิรภัย จึงมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย
ฮอนดา ซีอาร์-วี ใหม่
ฮอนดา ซีอาร์-วี (HONDA CR-V) โฉมใหม่ ซึ่งเป็นเจเนอเรชันที่ 4 ของ ซีอาร์-วี มีแนวทางการออกแบบที่ดูสลับซับซ้อน และมองดูดุดันมากยิ่งขึ้น มีการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในรถยนต์ ฮอนดา รุ่นอื่นๆ รวมถึงเรื่องประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิง
ซีอาร์-วี ได้รับการออกแบบชนิดที่เรียกว่าเหนือความคาดหมายของลูกค้า ที่ชื่นชอบรถยนต์ประเภท เอสยูวี โดยจุดที่ได้รับการพัฒนาหลักๆ คือ ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร การขับขี่ที่นุ่มนวลและเงียบยิ่งขึ้น รวมถึงนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ทาง ฮอนดา บรรจงติดตั้งเข้าไป
หากเที่ยบกับเจเนอเรชันที่แล้ว ภายนอกของรุ่นปี 2555 ให้มุมมองความรู้สึกที่ดูดุดันมากกว่า กันชนหน้ามีแนวเส้นทีไหลลื่น และอ่อนช้อย สอดรับกับกระจังหน้ารถที่มีขนาดใหญ่ ส่วนด้านท้าย โคมไฟดีไซจ์นแนวตั้ง ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของ ซีอาร์-วี ซึ่งใช้มาตั้งแต่ปี 2540 จนมาถึงรุ่นใหม่ล่าสุด ส่วนเส้นสายบริเวณท้ายรถ ให้มุมมองที่ดูมีมิติ และรับกับไฟท้ายอย่างลงตัว
พูดถึงประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ เห็นได้ชัดเจนว่า วิศวกรนักออกแบบตั้งใจอย่างมากเพื่อให้ ซีอาร์-วี มีความเป็นเลิศในด้านนี้ สังเกตได้จากแนวเส้นบริเวณหลังคาที่ทอดยาวมากขึ้น และออกแบบให้มีสปอย์เลอร์หลังอยู่ภายในตัวรถ ซึ่งมีผลในเรื่องแรงกดบริเวณท้ายรถ ขณะขับขี่ที่ความเร็วสูง และครั้งนี้นักออกแบบปรับเปลี่ยนขนาดลำตัวเล็กน้อย โดยตัวถังรถมีความยาว 4,534 มม. กว้าง 1,819 มม. และสูง 1,636 มม. ซึ่งใหญ่กว่ารุ่นเดิม
ภายในของ ซีอาร์-วี ยังคงไว้ซึ่งคุณสมบัติที่โดดเด่น ที่มีต่อเนื่องมาตั้งแต่รุ่นก่อน โดยเฉพาะพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย ที่วิศวกรออกแบบให้ลาดต่ำ ซึ่งง่ายต่อการขนถ่ายสัมภาระเข้าออก และหากต้องการขยายพื้นที่เก็บสัมภาระก็สามารถพับเบาะนั่งแถวที่ 2 ลงได้ในอัตรา 60:40
เครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่ถูกติดตั้ง เป็นแบบ I-VTEC 4 สูบ ความจุ 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 185 แรงม้า แรงบิด 22.5 กก.-ม. ซึ่งเครื่องยนต์รหัส K24Z7 ใหม่รุ่นนี้ มีกำลังเพิ่มขึ้นกว่าเดิม 5 แรงม้า และมีแรงบิดเพิ่มขึ้นอีก 0.3 กก.-ม. แต่ประสิทธิภาพในการประหยัดเชื้อเพลิงดีขึ้นถึง 10 เปอร์เซนต์ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
ระบบขับเคลื่อนแบบออลวีลดไรฟ AWD ของ ซีอาร์-วี ใหม่ ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และทำงานได้ดีบนเส้นทางฝุ่น หิมะ หรือพื้นถนนที่เปียกลื่น และระบบจะทำงานโดยอัตโนมัติในการกระจายแรงบิดไปยังล้อคู่หลัง เพื่อสร้างสมดุลการขับขี่ที่ดี และไม่ทำให้ผู้ขับขี่ต้องเสียสมาธิในการควบคุมรถ
สำหรับเทคโนโลยีเด่นๆ ที่ ฮอนดา ใส่เข้าไปใน ซีอาร์-วี ใหม่ ประกอบด้วยระบบตรวจสอบแรงดันลมยางอัตโนมัติ ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบทางด้านความปลอดภัย ถุงลมนิรภัยรอบคัน และอื่นๆ อีกมาก
ฮอนดา ซีอาร์-วี ใหม่ จึงเป็นความหวังของทาง ฮอนดา ออโทโมบิล (HONDA AUTOMOBILE) ที่จะใช้เป็นหัวหอกในการทำตลาดในปี 2555
เรื่องโดย : อัฐฒา นายเรือ
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2555
คอลัมน์ Online : พิเศษ(4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/84980