เมื่อต้นเดือนตุลาคม น้ำยังไม่ท่วมถนนสายเอเชีย และเราเป็นกลุ่มแรกๆ ที่เดินทางเข้าไปถึงตัวเมืองอยุธยา เพื่อนำอาหารไปให้วัด ในอำเภอผักไห่ ที่น้ำท่วม เช้าวันที่ 1 ตุลาคม อากาศสดใส บนถนนสายเอเชีย เราเห็นขบวนรถโฟร์วีลยาวเหยียด ขณะกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมือง ส่วนด้านหลังมีคาราวานรถกระบะหลาย 10 คัน บรรทุกอาหาร และเครื่องใช้มากมายเป็นบรรยากาศที่น่าดู ตอนนั้นยังอยู่ในช่วงน้ำท่วมไม่หนัก ยังไม่มีความชุลมุน ทุกคนไปได้เรื่อยๆ ด้วยจิตใจที่แจ่มใสจากการได้ช่วยเหลือเพื่อนคนไทยด้วยกัน ดูเหมือนจะเป็นโอกาสที่เจ้าของรถโฟร์วีลได้มีโอกาสพบปะสังสรรค์ และทำกิจกรรมดีๆ ร่วมกัน นอกเหนือจากการท่องเที่ยวอย่างเคย ดูไปแล้วรถโฟร์วีลก็เหมาะสมกับภารกิจดังกล่าว มันดูสมบุกสมบัน พร้อมลุย เตรียมพร้อมเผชิญน้ำไหลบ่า บนเส้นทางทุกสภาพ ถ้าหากมองลึกเข้าไปในใจของเจ้าของรถโฟร์วีล เขาคงไม่ได้ซื้อรถมาเพื่อขับฝ่าน้ำท่วม หากแต่มีเป้าหมายจะขับลุยป่าฝ่าดงผจญภัยในยามปกติกันมากกว่า เพียงแต่ว่าต่อแต่นี้ไป รถโฟร์วีลอาจเป็นเป้าหมายของคนที่เตรียมการเผชิญอุทกภัยที่คงเกิดขึ้นได้ทุกปี ก็เป็นได้รถโฟร์วีลอย่าง แลนด์ โรเวอร์ อีโวค นั้นเป็นหนึ่งในโฟร์วีลที่น่าสนใจ ด้วยรูปร่างหน้าตาที่กึ่งสมบุกสมบัน และสำรวยในเวลาเดียวกัน มันกินน้ำมัน 4.2 กม./ลิตร ในเมือง แม้ไม่คิดถึงการใช้งานลุยน้ำ เอามาขับเล่นโก้ๆ ก็น่าสนใจ ส่วนเรื่องจะเอาไปบุกป่าฝ่าดงละก็ ต้องขอคิดดูก่อน เพราะคงไม่มีใครขับลุยโคลน หรือสีต้นไม้ ให้สีถลอกแน่ๆ ดูเหมือนว่าเป้าหมายของคนที่คิดจะซื้อ คงเป็นคนที่เคยเหล่รถโฟร์วีลของ บีเอมดับเบิลยู หรือ เอาดี มาก่อนจะว่าไปแล้ว เหตุผลที่จะเอาไปใช้อาจเป็นรอง แต่ซื้อเพราะชอบบแรนด์ อยากจะซื้อรถ แลนด์ โรเวอร์ สักคันมากกว่า เท่าที่ทราบมีบางคนชอบบแรนด์นี้ ขนาดซื้อ แลนด์ โรเวอร์ วินเทจ แล้วก็ต้องซื้อรถอีกคัน เพื่อเตรียมอะไหล่ไว้เปลี่ยนให้คันจริง เพราะหากไปซื้ออะไหล่ทีละชิ้นละก็ มันแพง ด้วยความที่เห็นว่าบแรนด์ยังแข็งปั๋ง ครองใจผู้ใช้จำนวนหนึ่งอยู่ แลนด์ โรเวอร์ ก็ไม่รอช้า เริ่มต้นยุคใหม่ ด้วยการดีไซจ์น อีโวค ขึ้นมาให้เป็นรถ 5 ที่นั่ง และวิ่งได้ 9.9. กม./ลิตร บนทางหลวง และ 6.4 กม./ลิตร ในเมือง สนนราคาเริ่มต้นที่ 44,000 เหรียญ หรือประมาณ 1,320,000 บาท พอสมน้ำสมเนื้อกับเงินในกระเป๋าของคนเมืองที่ต้องการขับรถในสไตล์แมนๆ สักคัน นับว่าพอสมน้ำสมเนื้อกว่าเมื่อเทียบกับ เรนจ์ โรเวอร์ ซูเพอร์ชาร์จ ที่ราคาปาเข้าไป 95,000 เหรียญ หรือประมาณ 2,850,000 บาท ในเครื่องยนต์ 510 แรงม้า เวอร์ชันที่น่าขับ น่าจะเป็น รุ่น คูเป ที่มาในราคา 59,820 เหรียญ หรือประมาณ 1,794,600 บาท ซึ่งผนวกเอาพลังแรงของรถสปอร์ทเข้ากับความมุทะลุของรถ เอสยูวี เส้นสายที่เฉียงจากด้านหลังขึ้นสู่ด้านหน้านั่นแหละ ที่เตะตา และโดยที่ยังไม่ทิ้งความรู้สึกเดิมๆ ที่กระจังด้านหน้าเอาไว้ให้ดูกัน นอกจากนี้หลังคาก็เป็นกระจก น่าเสียดายตรงที่ว่าวิวที่มองจากคนขับด้านหน้าไม่ค่อยกว้างเท่าไร แต่ถ้านั่งด้านหลังแล้วละก็ แจ๋วแหววรอบทิศทีเดียว น่าจะมีสักคันขับเที่ยวต่างจังหวัด เครื่องยนต์ใช้ระบบไดเรคท์อินเจคชัน เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ 240 แรงม้า แรงบิด 34.7 กก.-ม. เมื่อทดลองขับนักทดสอบรถบอกว่าเจ้า คูเป นั้นมีส่วนประกอบที่เรียกว่า อแดพทีฟ ไดนามิคส์ ที่ทำให้ช่วงล่างลดความแข็งกระด้างลงด้วยการใช้เทคโนโลยีสนามแม่เหล็ก เทคโนโลยีนี้ เจเนอรัล มอเตอร์ส เคยเอามาใช้เมื่อหลายปีมาแล้ว ทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำให้นุ่มนวลตลอด แม้ถนนจะมีหินเล็กหินน้อยก็ตาม สรุปภาพรวมแล้ว รถคันนี้คะแนนนำ เมื่อขับในเมือง หรือนอกเมืองที่ถนนยังไม่ดีมาก แต่ถ้าจะพูดถึงเวลาน้ำท่วม มันก็สามารถแล่นฝ่าน้ำโคลนได้โดยไม่มีปัญหา ด้วยเหตุที่มีใต้ท้องสูงกว่า 8 นิ้ว ถ้าจะลุยน้ำท่วม ก็จงดูระดับน้ำก็แล้วกัน นอกจาก แลนด์ โรเวอร์ แล้ว ก็ยังมีรถขับเคลื่อน 4 ล้อ หลากหลายบแรนด์ให้ได้เลือกกันตามใจรัก ไม่ว่าจะเป็น ซูซูกิ ใครรักชอบยี่ห้อไหน สมรรถนะอย่างไร จะเก็บไว้ใช้ยามปกติ หรือเอาเฉพาะลุยน้ำท่วมก็ไม่ว่ากันค่ะ