ร่มไม้ชายศาล
มหาอุทกภัย/รถหนีภาษี
ขณะที่ผมลงมือเขียนงวดนี้ บ้านเรากำลังลุ้นว่า กรุงเทพ ฯ จะรอดพ้นจากการจมน้ำหรือไม่ และเมื่อไม่กี่นาทีนี้เอง ผมดูข่าวจากสถานีโทรทัศน์ เห็นภาพคันกั้นน้ำ ซึ่งใช้ดินและถุงบรรจุทรายวางซ้อนๆ กันแห่งหนึ่ง มีผู้สื่อข่าวไปนั่งบนนั้น แล้วใช้มือวักน้ำอีกฟากหนึ่ง ซึ่งประดังมาจากทางเหนือ รวมทั้งน้ำฝน จ่อที่จะเข้าท่วมกรุงเทพ ฯ ชั้นใน โดยตรงแน่วไปที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ผ่านคลองประปา ผมเห็นแล้วหวาดเสียวเหลือเกิน หวาดเสียวจริงๆเมื่อท่านได้อ่านเรื่องนี้จาก ฟอร์มูลา คงทราบแล้วว่า เมืองหลวงของเราหนีน้ำ หนีความหายนะ ได้หรือไม่ อย่างไร ผมได้แต่ภาวนาและเอาใจช่วย มหาอุทกภัย ปี 2554 ซึ่งเกิดขึ้นครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ชาติไทย มีคนเรียกว่า สึนามิน้ำจืด สิ่งหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อ หากวางแผนรับมือไม่ทัน คือ ยานพาหนะ โดยเฉพาะ รถยนต์ อันเป็นทรัพย์สินที่คนไทยจำใจสละเงินจำนวนมาก มากกว่าประเทศที่ค่าของเงินของเขาสูงกว่าของเราเป็นสิบๆ เท่า เช่น สหรัฐอเมริกา เพื่อซื้อหามา ฉะนั้นความเดือดร้อนต่างๆ ที่ได้รับ เช่น บ้านเรือน ข้าวของอื่นๆ จมน้ำ ขาดรายได้ เพราะทำมาหากินตามปกติไม่ได้ สุขภาพกายใจกระทบกระเทือน ยังเพิ่มขึ้นอีกเป็นทวีคูณ เมื่อรถของแต่ละคนจมน้ำ ประเภทที่มิดหลังคา ยิ่งดูไม่จืด ความเสียหายหรือวินาศภัยที่เกิดขึ้นกับรถยนต์หรือยานพาหนะอื่นๆ ในครั้งนี้ ในทางสากลเรียกว่า ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ซึ่งรวมถึงภัยจาก สึนามิ แผ่นดินไหว อุทกภัย วาตภัย อัคคีภัยชนิดที่เป็นไฟป่า และอาจรวมถึงภัยจากการจลาจลหรือสงคราม วิธีป้องกันดีที่สุด คือการซื้อประกันจากบริษัทประกันภัยที่ยอมชดใช้ค่าเสียหายครอบคลุมถึงภัยธรรมชาตินั้นๆ ด้วย มีคำแนะนำว่า เจ้าของรถจงตรวจดูกรมธรรม์ประกันภัยที่ได้มา ว่าครอบคลุมความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น รถจมน้ำเพราะน้ำท่วมหรือไม่ ในกรณีซื้อประกันราคาถูกหรือราคาปกติ มักไม่ได้รับความคุ้มครอง หรือคุ้มครองก็มีเงื่อนไขมัดไว้ เช่น ต้องเป็นกรณีที่รถจอดอยู่ภายในบ้านเท่านั้น ไปอยู่ตามถนนแล้วเกิดเหตุขึ้นไม่รับผิดชอบ อย่างนี้เป็นต้น อภิมหาน้ำท่วมในบ้านเราครั้งนี้ เป็นบทเรียนที่เราคงต้องขวนขวาย ใครอยู่ในจุดเสี่ยง อพยพไปอยู่ที่ใหม่ปลอดภัยจริงๆ ไม่ได้ คงต้องยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อประกันภัย ชนิดที่ครอบคลุมถึงความเสียหายจากภัยธรรมชาติไว้ด้วย เพราะไม่อาจแน่ใจได้ว่า น้ำท่วมมโหฬารในปีนี้แล้ว ปีต่อๆ ไป จะไม่ท่วมอีกแล้วนะ พอแล้วนะ ในเมื่ออยู่ในลักษณะที่เรียกได้ว่า ธรรมชาติลงโทษ เนื่องจากมนุษย์เราพากันปู้ยี่ปู้ยำธรรมชาติ หรือโลกใบนี้ทุกวิถีทาง อย่างหนักหนาสาหัสมายาวนาน นี่คือเรื่องจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ขอแสดงความเสียใจต่อพ่อแม่พี่น้องที่ได้รับความเดือดร้อนจากโคตรอุทกภัย ปี 2554 ทุกๆ ท่าน และขอให้กลับมามีโชคลาภ ถูกหวยรวยเบอร์ ทำมาค้าขึ้น พบกับความสุขสมหวังถ้วนหน้าเทอญ ยังไงก็ต้องมีคดีตบท้าย เพื่อความบันเทิงอย่างเคย งานนี้ นายซูเพอร์ ซึ่งเป็นคนไทยทั้งดุ้น อยากขี่รถนำเข้าชั้นดี แต่ราคาถูกๆ จึงคว้ารถหนีภาษีมาคันหนึ่ง โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นรถหลบภาษี ไม่รอดสันดอน นั่งทำโก้ไม่กี่วัน โดนเจ้าหน้าที่ตะครุบตัว พร้อมยึดรถเป็นของกลาง ลำดับต่อมาคือ โดนอัยการฟ้องไปที่ศาล เอาผิดตาม พรบ. ศุลกากร และ พรบ. ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด คือให้รางวัลผู้จับนั่นเอง เมื่อรู้ว่าไม่มีทางสู้ นายซูเพอร์ ให้การรับสารภาพต่อศาล ขณะเดียวกัน ก็เกรงว่าจะโดนลงโทษหนัก จึงหาทางออกตามที่มีคนแนะนำ ทำหนังสือขอทำความตกลงระงับคดีในชั้นศุลกากร และยอมยกรถยนต์ของกลางให้เป็นของแผ่นดิน ขณะที่ผลในชั้นศุลกากรยังไม่ออกมา แต่คดีนั้นเดินหน้าศาลชั้นต้นตัดสินลงโทษตาม พรบ. ศุลกากร จำคุก 4 ปี ปรับ 3 ล้าน 4 แสนกว่าบาท ยอมรับลดกึ่ง เหลือจำคุก 2 ปี ปรับได้ 1 ล้าน 7 แสนเศษ ยังดีที่โทษจำคุกศาลรอลงอาญาไว้ 2 ปี แต่ถ้าไม่ชำระค่าปรับ ต้องเอาตัวไปกักขัง 2 ปี เจ้าหน้าที่ผู้จับได้บำเหน็จ 20 เปอร์เซนต์ของค่าปรับจำเลยคือ นายซูเพอร์ เห็นว่าโดนหนัก จึงยื่นอุทธรณ์ ขณะเดียวกันผลการขอระงับคดีชั้นศุลกากรออกมาอธิบดีกรมศุลกากร อนุมัติให้ระงับคดี ไม่ต้องโดนฟ้องร้องที่ศาล ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า อธิบดีกรมศุลกากร อนุมัติให้ระงับคดี จึงสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ เพราะอัยการหมดสิทธิฟ้อง นายซูเพอร์ แล้วล่ะ อัยการโจทก์กลับมองว่า ศาลอุทธรณ์จำหน่ายคดีไม่ได้ ต้องลงโทษตามที่ศาลชั้นต้นว่าไว้ จึงยื่นฎีกาคัดค้าน ศาลฎีกาต้องปวดเมื่อย นั่งส่องดูคดีนี้ แล้วชี้ขาดออกมาว่า จริงอยู่ ตาม พรบ. ศุลกากร พศ. 2569 มาตรา102 วรรคแรก เขียนว่า ...ถ้าบุคคลใดจะต้องถูกฟ้องตามพระราชบัญญัตินี้ และบุคคลนั้นยินยอมและใช้ค่าปรับ หรือได้ทำความตกลง หรือทำทัณฑ์บนหรือให้ประกันตามที่อธิบดีจะเห็นสมควรแล้ว อธิบดีจะงดการฟ้องร้องเสียก็ได้ และการที่อธิบดีงดการฟ้องร้องเช่นนี้ ให้ถือว่าเป็นอันคุ้มผู้กระทำผิดนั้นในการที่จะถูกฟ้องร้องต่อไป ในกรณีแห่งความผิดอันนั้นแต่ นายซูเพอร์ อย่ามาตีปีกดีใจ เพราะการสั่งระงับคดี ต้องทำก่อนที่จะถูกฟ้องไปที่ศาล หากโดนฟ้องซะก่อน หมดสิทธิระงับคดี ศาลอุทธรณ์สั่งจำหน่ายคดี ศาลฎีกาไม่เอาด้วยหรอก ศาลฎีกาต้องพิพากษากลับ ให้ลงโทษจำเลยตามที่ศาลชั้นต้นว่าไว้ครับ ก็มีเงื่อนแง่สำคัญคือ การขอระงับคดีหนีภาษี ยกของหนีภาษีให้แก่หลวง ต้องรีบดำเนินการ และได้รับอนุมัติจากท่านอธิบดีกรมศุลกากรก่อนโดนฟ้องร้อง ดังตัวอย่างในคดีนี้แล ขอแสดงความเสียในต่อพ่อแม่พี่น้องจำนวนไม่น้อย ที่ได้รับความเดือดร้อนจากมหึมาอุทกภัย ปี 2554 อีกครั้งหนึ่งครับ จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 25180/2551
เรื่องโดย : "จอมยุทธ"
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2554
คอลัมน์ Online : ร่มไม้ชายศาล
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/84643