มุมมองนักออกแบบ
แฟร์รารี เอฟเอฟ สนุกแต่ไม่ตื่นเต้น
ซูเพอร์คาร์ รุ่นล่าสุดของค่ายม้าลำพองแห่งเมืองมาราเนลโล เอฟเอฟ (FF ย่อมาจาก FERRARI FOUR) ซึ่งหมายถึงระบบเคลื่อน 4 ล้อ และมี 4 ที่นั่ง ออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ทุกวัน ห้องโดยสารขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 450 ลิตร และหากพับเบาะนั่งด้านหลัง จะเพิ่มเป็น 800 ลิตร แฟร์รารี คุยว่าทุกสิ่งใน เอฟเอฟ ได้รับการพัฒนาแบบ "สุดติ่ง" แต่ทีมนักออกแบบของเราจะเห็นด้วยหรือไม่ ต้องมาติดตามกัน
แฟร์รารี เอฟเอฟ ใช้เครื่องยนต์ V12 ความจุ 6.3 ลิตร แรงม้าสูงสุด 660 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 69.5 กก.-ม. ที่ 6,000 รอบ/นาที โดยมีแรงบิด 50.9 กก.-ม. ออกมาให้ใช้ตั้งแต่ 1,000 รอบ ระบบส่งกำลัง 7 จังหวะ DUAL-CLUTCH TRANSAXLE (DCT) 7 จังหวะ แบบเดียวกับที่ใช้ในรถสูตร 1 พร้อมระบบขับเคลื่อน 4RM ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อทั่วไปถึง 50 % ควบคุมการทำงานด้วยระบบอีเลคทรอนิคส์ PTU (POWER TRANSFER UNIT) อัตราส่วนการกระจายน้ำหนักหน้า-หลัง อยู่ที่ 47:53 สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 335 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 6.4 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศ 360 กรัม/กิโลเมตร ซึ่งลดลงถึง 25 % เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ V12 รุ่นก่อนๆ ส่วนระบบรองรับด้านหน้าเป็นแบบปีกนกคู่ ด้านหลังมัลทิลิงค์ จานเบรคคาร์บอน-เซรามิค ตามแบบฉบับของซูเพอร์คาร์ยุคปัจจุบัน
ภัทรกิติ์ : ระบบเกียร์รถคันนี้ ล้ำมากเลยนะครับ เพราะเป็นระบบส่งกำลังแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มันไม่เหมือนรถทั่วไป นี่คือจุดขายของเขาเลย รถคันนี้ ถ้าจะพูดกันจริงๆ แฟร์รารี เขาทำรถยนต์ที่เป็น 4 ที่นั่ง มาหลายรุ่นแล้ว นี่ไม่ใช่คันแรก รุ่นดังๆ ถ้าจะเป็นยุคโมเดิร์นของมัน ประมาณ 20 ปีลงมา มี 2 รุ่น คือ 456 กับ 612 โดยชื่อรุ่นของมัน ก็บ่งบอกถึงข้อมูลของตัวรถหลายอย่างเลย
ภัทรกิติ์ : แฟร์รารี 4 ซีท 4WD คือ 4 ที่นั่ง ขับเคลื่อน 4 ล้อ และมีความพิเศษของมันคือ เป็น แฟร์รารี ขับเคลื่อน 4 ล้อคันแรก และความพิเศษอีกอย่างคือ รูปทรงแบบนี้เป็นรูปทรงที่เรียกว่า "ชูทิงเบรค" (รถยนต์ที่หลังคาลาดลง) เราจะเห็นรูปทรงแบบนี้อยู่ในรถยนต์ไม่กี่รุ่นในโลก ถ้าจำไม่ผิด บีเอมดับเบิลยู เซด 3 ก็ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่รุ่นนี้ด้วย
อภิชาต : รถยนต์คันนี้เครื่องยนต์วางหน้า แฟร์รารี วางเครื่องยนต์หน้ามาตั้งนานแล้ว แต่ถ้าเป็น แฟร์รารี แคลิฟอร์เนีย จะเครื่องยนต์ 8 สูบ วางด้านหน้า เพราะสมัยก่อน แฟร์รารี จะใช้เครื่องยนต์ 12 สูบ วางด้านหน้าทั้งนั้น เอฟเอฟ นี่12 สูบเหมือนกัน
แฟร์รารี ฟอร์ เธอะ ฟิวเจอร์ น่าสนใจมากกว่ารุ่นที่เราเห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นคาแรคเตอร์บางตัวมันมากเกินไป บางตัวน้อยไปอีก ขณะนี้ แฟร์รารี กำลังมองหาเซอร์เฟศใหม่ๆ อาจารย์ลองดูสิครับ แฟร์รารี มันจะเป็นประมาณนี้ เราสามารถจับทางเขาได้หมดแล้ว ซึ่งตัวนี้ออกแบบโดย ปินินฟารีนา
ภัทรกิติ์ : ค่าย แฟร์รารี เป็นพวกอนุรักษนิยมมาก มันไม่มีอะไรให้ตื่นตา ผมเห็นคันนี้มาครั้งแรก ผมเปิดผ่าน ไม่รู้สึกอะไรมากมาย รุ่นใหม่แล้วยังไง มันไม่น่าตื่นเต้นอะไรแล้ว แต่ถ้ารุ่น 458 อิตาลีอา ถือว่าสุดยอดครับ ตัวนั้นจัดเต็ม จัดหนัก
อภิชาต: จริงๆ ตัวนี้ผมมองว่าจืดมาก คือพื้นผิวที่เขาออกแบบไม่ได้มีข้อตำหนิอะไร ไม่ใช่ว่าไม่สวย แต่ว่าในการออกแบบรถยนต์ราคาประมาณ 30 ล้านบาท รูปโฉมภายนอกมันดูนิ่งไป อย่าไปมองว่าเป็นรถ 4 ที่นั่ง ในความคิดผม ผมมองครั้งแรกว่ามันเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ มองครั้งแรกต้องสนุก แต่อาจารย์ดู เฟนเดอร์ (โป่งล้อ) มันค่อนข้างแปลก
ภัทรกิติ์ : ถ้าเป็นเครื่องยนต์วางกลาง ก็ต้องยาวเป็นธรรมดา แต่นี่เครื่องยนต์วางด้านหน้าแล้วถอยเครื่องมา
อภิชาต : คุณมีพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 1.50 เมตร มากพอที่จะออกแบบอะไรได้ตั้งหลายอย่าง คือรถยาวไม่กลัว นักออกแบบจะชอบรถยนต์หน้ายาวๆ เพราะเขาจะสามารถออกแบบพื้นที่ว่างๆ มีไดเรคท์ชัน (ทิศทาง/เส้นสาย) พื้นที่เกือบ 2 เมตร ที่ ปินินฟารีนา พยายามออกแบบไม่ให้ดูนิ่งจนเกินไป แต่ถ้าถามอาจารย์ อาจารย์ว่านิ่งเกินไป มันเหมือนเอารถยนต์ ฮอนดา ซีวิค 5 ประตู มาต่อหน้าให้ยาวขึ้น
ภัทรกิติ์ : ผมชอบคันนี้เลยครับ ดูแปลกดี ให้ก็เอา หรือขายไตให้ 2 ข้างเลย คันนี้เจ๋งนะ ดีกว่าเปิดประทุนอีก ในความคิดผม
อภิชาต: คาแรคเตอร์ของ แฟร์รารี แน่นอนต้องมีม้าลำพอง ส่วนบริเวณตะแกรงจะเป็นสี่เหลี่ยม ถือเป็นเอกลักษณ์ของ แฟร์รารี อยู่แล้ว ไม่มีอะไรผิดเพี้ยน
ภัทรกิติ์ : ผมว่ารถคันนี้หน้าเหมือนจิ้งเหลน
อภิชาต : ถ้าถามว่าการออกแบบรถคันนี้สนุกไหม...ตอบได้ว่าสนุกครับ แต่ แฟร์รารี น่าจะเป็นรถที่ตื่นเต้นมากกว่านี้ นี่คืออารมณ์ของเขาเลย
ภัทรกิติ์ : แต่ แฟร์รารี ในอดีต ดูไปในทางเรียบง่าย ไม่ดุดัน โดยเฉพาะในยุค '60 จะดูเรียบมาก ลองสังเกตหน้าตาของ แฟร์รารี ดีๆ หน้าตามันดูแสยะยิ้มนะ ถ้าเทียบกับ แอสตัน มาร์ทิน คันนี้ดูเหมือนท้องผูกตลอดเวลา คนอังกฤษมันเครียด คนอิตาลีดูร่าเริง และถ้าเทียบเป็นสัตว์เลื้อยคลาน คันนี้กบ แอสตัน มาร์ทิน เป็นแย้
อภิชาต : ถ้าให้วิจารณ์รถยนต์ระดับนี้ คงไม่มีที่ติแล้ว คนออกแบบเขามีที่มาที่ไป เขาเป็นนักออกแบบระดับโลกเลยนะ
ภัทรกิติ์ : เดี๋ยวไปวิจารณ์มากๆ เขาจะมาถามว่า "สูเป็นใคร มาติข้า"
อภิชาต : เป็นอาจารย์สอนหนังสือธรรมดานี่ล่ะครับ
ภัทรกิติ์ : แล้วถามต่อว่า "สูเคยใช้รถของข้าแล้วหรือยัง ?"
อภิชาต : ไม่เคยใช้ครับ
ภัทรกิติ์ : ถ้าอย่างนั้นสูชัทอัพ
ฟอร์มูลา : ภายในเป็นอย่างไรบ้างครับ ?
ภัทรกิติ์ : ผมว่าเป็น แฟร์รารี ที่ด้านท้ายเปิดได้ลึกที่สุด เท่าที่เคยเห็นมา
อภิชาต : ผมไม่เข้าใจอย่างหนึ่งครับ ทำไมเวลาออกแบบเส้นคัดลาย ถึงต้องกินเนื้อที่ไฟท้ายขนาดนี้
ภัทรกิติ์ : สูกำลังคิดถึงแบบรถยนต์ราคาถูกอยู่ใช่ไหม ?
อภิชาต : ก็แค่ความคิดผมครับ
ภัทรกิติ์ : เบาะนั่งภายในดูไม่หวือหวา เบาะหลังพับได้ เพิ่มความจุได้เป็นเท่าตัว แต่นอนไม่ได้นะครับเก็บของอย่างเดียว
อภิชาต : เพิ่มความจุ สำหรับขนอะไรดีครับ ?
ภัทรกิติ์ : คันนี้ ต้องซื้อไว้ขนทองครับ ถึงจะดูเหมาะสมที่สุด
อภิชาต : เอ่อ...ขนเพชร !!!
ฟอร์มูลา : หีบสมบัติพร้อมกระเป๋าเดินทาง หลุยส์ วิตตอง
ภัทรกิติ์ : ผมว่าช่องแอร์เขาดูไม่สวยเท่าไรนะ ลาย 5 ก้าน ผมไม่ชอบเลย ด้านในเป็นดิจิทอลหมดแล้ว ยกเว้นนาฬิกาแอนาลอกตรงกลาง (เข็มวัดรอบ) คนขับก็สนุกสนานกับการปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบ
อภิชาต : สำหรับวิทยุ 2 DIN นี่ต้องปรับปรุงนะครับ ไม่สวยเลย
ภัทรกิติ์ : วิทยุ KENWOOD ด้วยหรือเปล่า เมดอินไซนา
อภิชาต: เบาะนั่ง เป็นหนังหรือเปล่า ?
ภัทรกิติ์ : หนังแท้ครับ แต่รถยนต์พวกนี้ ถ้าเราเข้าไปนั่ง มักจะไม่ได้กลิ่นหนังสักเท่าไร
อภิชาต : ทำไมครับ ?
ภัทรกิติ์ : กลิ่นสาบคนจนมันแรงกว่า !?!?!
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการบทความและสารคดี
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2554
คอลัมน์ Online : มุมมองนักออกแบบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/84623