งานแห่งศิลปะ

ถ้าพูดถึงแผ่นฟีล์ม ก็ชอบที่จะหมายถึงภาพยนตร์ หรือภาพที่เคลื่อนไหวได้ ศิลปะอันเกิดจากการสร้างแผ่นฟีล์มก็ต้องใช้กล้องเป็นเครื่องมือบันทึกภาพทุกสิ่งในโลก ใช้เทคนิคและผลภาพพิเศษเป็นเครื่องปรุง ท่านผู้อ่านจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ต้นกำเนิดของการสร้างภาพเคลื่อนไหวจากแผ่นฟีล์มยาวนานถึงวันนี้ก็ 118 ปี และภาพยนตร์โดยแท้เริ่มเมื่อ 116 ปีที่แล้ว แผ่นฟีล์มสร้างงานแห่งศิลปะ ทั้งในด้านการศึกษา การวิจัย และความบันเทิงเริงรมย์ ขณะที่ภาพยนตร์เป็นสื่อมหัศจรรย์ ช่วยให้คนทั้งโลกมีความสัมพันธ์ต่อกัน ความเข้าใจระหว่างกันอย่างเหนือความคาดหมาย เมื่อคำนึงถึงความเป็นศิลปะแห่งเนื้องาน ภาพยนตร์ก็ถูกองค์กรอิสระตรวจสอบและมอบรางวัลเพื่อประกาศผลงานด้านศิลปะเป็นรายปี เริ่มงานมานานถึง 82 ปีแล้ว โดย "สถาบันศิลปะและวิทยาการทางภาพยนตร์" THE ACADEMY OF MOTION PICTURES ARTS AND SCIENCES รางวัลที่มอบให้เรียกชื่อ "ออสการ์" เป็นตุ๊กตาทองสัมฤทธิ์ฉาบด้วยทองคำ รูปทรงเป็นอัศวินนักรบเพศชายกุมด้ามดาบสงครามครูเสด ปลายดาบปักลงตรงพื้นระหว่างเท้า 2 ข้าง ที่ยืนอยู่บนวัตถุทรงกลม ความสูง 13 นิ้วครี่ง น้ำหนัก 8 ปอนด์ครึ่ง การประกาศผลรางวัลออสการ์ของสถาบัน ฯ เริ่มจัดงานขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 1929 โดยรวบรวมผลงานการสร้างภาพยนตร์ระหว่างปี 1927 และ 1928 มาพิจารณามอบรางวัล 15 รางวัลสาขา โรงแรมฮอลลีวูด รูสเวลท์ ในเมืองลอส แองเจลิส ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานเป็นครั้งแรก โดยมี ดักลาส แฟร์แบงค์ส์ นักแสดง และวิลเลียม ซี. เดอ มิลล์ ผู้สร้างเป็นพิธีกรของงานมีผู้เข้าร่วมงาน 250 คน ทุกคนจะต้องเสียค่าเข้างานคนละ 10 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ฯ งานขาดไปอย่างเดียว คือความตื่นเต้นต่อการลุ้นว่า ใครจะได้รางวัล เพราะมีการเปิดเผยรายชื่อผู้ได้รับรางวัลไปก่อนแล้ว ส่วนการประกาศผลรางวัลแบบปกปิดรายชื่อเช่นทุกวันนี้ เริ่มเมื่อปี 1945 เจเนท เกย์เนอร์ เป็นนางเอกแห่งยุคและเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ได้รับรางวัลในงาน เป็นรางวัลสาขา “นักแสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม” จากการแสดงนำในภาพยนตร์ 3 เรื่องที่สร้างในปี 1927 และปี 1928 ปี 1927 มี 2 เรื่องคือ SEVENTH HEAVEN (สวรรค์ชั้น 7) และ SUNRIES (พระอาทิตย์ขึ้น) และในปี 1928 มีเรื่องเดียวคือ STREET ANGEL (บุษบาริมทาง) รางวัลสาขา "ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม" เป็นผลงานของบริษัทพาราเมาท์ เฟมัส ลาสกี เรื่อง WINGS (ด้วยปีกเท่านั้น) สร้างและจำหน่ายในปี 1927 การประกาศผลรางวัลในปี 1945 เป็นการเริ่มต้นศักราชใหม่ของงานอย่างแท้จริง ตั้งแต่เริ่มให้มีการถ่ายทอดสดผ่านทางวิทยุกระจายเสียง สถานี ABC RADIO เริ่มให้มีภาพยนตร์ 5 เรื่อง ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสาขา "ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม" ขึ้นเป็นครั้งแรก งานจัดที่โรงภาพยนตร์จีนของกราวด์แมน ย่านฮอลลีวูด นครลอสแองเจลิส เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 1945 ใช้ผู้ดำเนินรายการ 2 คน ครึ่งเวลาแรกใช้ จอห์น ครอมเวลล์ ผู้กำกับการแดง และครึ่งเวลาหลังเป็นหน้าที่ของ บอบ โฮพ ดารานักแสดงประเภทเมามันบันเทิง ในบรรดาผู้ดำเนินรายการของงานประกาศผลรางวัลออสการ์ บอบ โฮพ ได้รับความนิยมอย่างสูง ซึ่งเขาเริ่มเข้ารับหน้าที่นี้ตั้งแต่งานออสการ์ ประจำปีครั้งที่ 12 เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 1940 BEST PICTURES 5 เรื่องที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงตุ๊กตาทองของปี 1945 ได้แก่ GOING MY WAY ซึ่งชนะเลิศการตัดสิน ตามด้วยผลงานของ บิลลี ไวล์เดอร์ เรื่อง DOUBLE IDEMNITY นำแสดงโดย บาร์บารา สแตนวิค และเอดเวิร์ด จี. โรบินสัน GASLIGHT ด้วยฝีมือการกำกับการแสดงของ จอร์จ คูเกอร์ ส่งผลให้ อิงกริด เบิร์กแมน คว้าตุ๊กตาทองรางวัลสาขา “นักแสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม” อีก 2 เรื่องคือ SINCE YOU WENT AWAY จากการแสดงของ คลอแดตต์ คอลแบรต และโจเซฟ คอทเทน และ WILSON ผลงานของ เฮนรี คิง จากการแสดงนำของ ชาร์ลส์ โคเบิร์น และเจรัลดีน ฟิทเจอรัลด์ นอกจาก GOING MY WAY จะเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปีแล้ว รางวัลสาขานักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยมยังเป็น บิง ครอสบี นักแสดงนำฝ่ายชายเรื่องนี้ด้วย งานแห่งศิลปะในรอบทศวรรษ 1940 ถือว่า วิลเลียม ไวล์เลอร์ โดดเด่นมากที่สุด ภาพยนตร์ในความทรงจำของคนรุ่นผมก็เห็นจะเป็นเรื่อง THE BEST YEARS OF OUR LIVES (1946) ผลงานสะท้อนสังคมซึ่งมีสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นตัวจุดประกายนี้ ได้รับทั้ง "กล่อง" และ "เงิน" ทั้งคำชมจากบรรดานักวิจารณ์ และทำเงินรายได้สูงสุดประจำปี 1946 เนื้อหาของภาพยนตร์ว่าด้วยเรื่องราวของทหารผ่านศึก เดินทางกลับบ้าน หลังจากการใช้ชีวิตกรำศึกหลายปี ปัญหาของพวกเขาคือ การปรับตัวเองให้เข้ากับชีวิตที่เป็นอยู่อย่างเดิม ทหารแห่งกองทัพอากาศผู้ได้รับรางวัลเหรียญกล้าหาญ พบว่าตัวเองมีฐานะสูงเกินไม่สมควรที่จะกลับไปใช้ชีวิตเป็นพนักงานในร้านขายยา อีกชีวิตหนึ่งในภาพยนตร์เป็นทหารเรือ ผลการรบทำให้เขาเสียมือไปทั้ง 2 ข้าง ความรู้สึกของทหารผ่านศึกรายนี้ก็คือความทุกข์ทรมานกับความรู้สึกที่บอกตนเองว่า เขาเป็นภาระของคนอื่น ชีวิตที่ 3 เป็นแบงเกอร์ นายธนาคารผู้พบว่า ในห้วงเวลาที่เขาออกไปอยู่กับสนามรบในสงครามโลกนั้น อะไรต่ออะไรรอบข้างเปลี่ยนแปลงไปเร็วกว่าที่คาดคิด ทั้งหมดนี้คืองานแห่งศิลปะ อันสร้างจากแผ่นฟีล์ม หรือภาพยนตร์ที่มิได้มุ่งหวังเพียงความบันเทิงเริงรมย์สถานเดียว หากแต่ยังคำนึงถึงความเป็นศิลปะแห่งความคิดอันเสรี และสื่อสัมพันธ์กับชาวโลกได้อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง