รอบรู้เรื่องรถ
โจรในคราบผู้ดูแล
ถ้าคุณเป็นคนที่สนใจเรื่องรถเป็นพิเศษ คุณย่อมเป็นผู้ที่ให้ความสนใจในการบำรุงรักษารถเป็นพิเศษตามไปด้วย จะมีข้อยกเว้นบ้างก็เป็นส่วนน้อยครับ และถึงคุณจะอยู่ในกลุ่มหลังนี้ อย่างน้อยที่สุด คุณย่อมจะยกภาระในการดูแลบำรุงรักษาให้แก่ศูนย์บริการที่คุณให้ความเชื่อถือ และอยู่ในระยะที่ส่ง และรับรถได้สะดวก คุณอาจจะรู้รายละเอียด ว่าศูนย์บริการจะ ทำ อะไรกับรถของคุณบ้าง แต่ถึงคุณอยู่ในกลุ่มหลังที่ผมยกตัวอย่างมา อย่างน้อยที่สุดคุณก็จะรู้ว่า งานสำคัญ คือ การเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
ถ้าคุณเป็นผู้ที่อยู่นอกเหนือจากที่ผมยกตัวอย่างมาแล้ว คุณก็จะอยู่ในกลุ่มที่ไม่มีความสนใจเรื่องรถยนต์เป็นพิเศษ ซึ่งไม่แปลกอะไรเลยครับ เพราะมีสิ่งอื่นน่าสนใจอีกมากมาย แต่คุณก็ยังเป็นผู้มีปฏิบัติตนถูกต้อง เรียกในภาษาง่ายๆ ว่า เป็นผู้ใช้ของ เป็น คุณได้ทราบจากคู่มือผู้ใช้รถ ว่าต้องส่งรถเข้าศูนย์บริการเมื่อใดบ้าง และคุณย่อมทราบว่า สิ่งสำคัญคือการที่รถของคุณจะถูกเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่ก่อนที่น้ำมันเครื่องเดิมจะเสื่อมสภาพในการหล่อลื่น
และถ้าคุณอยู่ในกลุ่มสุดท้ายในตัวอย่างของผม คือ ไม่มีความสนใจเรื่องรถยนต์เลย และไม่เคร่งครัดหรือไม่เข้าใจความสำคัญของการส่งรถเข้ารับการบำรุงรักษาตามกำหนด คุณก็คงละเลย ไม่นำรถเข้าศูนย์บริการ ตามกำหนดที่แจ้งไว้ในคู่มือผู้ใช้รถ แต่อย่างน้อยที่สุดคุณย่อมเคยได้อ่านได้ฟังมาว่าสิ่งที่จะละเลยไม่ได้ ก็คือการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ถึงจะล่าช้าสายเกินไป มากบ้างน้อยบ้าง คุณก็ยังนำรถเข้ารับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่ศูนย์บริการ เพื่อให้มันรับใช้คุณได้ต่อไป
ปัญหาที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ เกิดขึ้นในศูนย์บริการของบริษัทรถตราต่างๆ เท่านั้นครับ ส่วนอู่ย่อย ปั๊มน้ำมันศูนย์บริการทั่วไปที่ไม่จำกัดตรา หรือ ยี่ห้อ รถ อาจมีบ้าง แต่ไม่มากและไม่มีหลักฐานยืนยันชัดแจ้งครับ ที่ผมใช้คำว่า อาจมีบ้าง ก็เพราะมันเกิดขึ้นน้อยกว่า ไม่ใช่เพราะช่างซ่อมมีจรรยาบรรณสูงกว่านะครับ แต่เป็นเพราะการให้บริการ เป็นการกระทำแบบเปิดเผยต่อหน้าผู้นำรถมาเข้ารับบริการ ในขณะที่การให้บริการของศูนย์บริการรถเฉพาะตรานั้น เกือบทุกแห่งเป็นการให้บริการแบบไม่เปิดเผย คือ ไม่อนุญาตให้เจ้าของรถหรือผู้นำรถเข้ารับบริการเห็นการทำงานของช่าง ลูกค้าจะถูก จำกัดให้อยู่เฉพาะในห้องพักลูกค้าเท่านั้น ซึ่งก็มีทั้งข้อดี และข้อเสีย สำหรับฝ่ายลูกค้า และฝ่ายผู้ให้บริการ ซึ่งผมจะพยายาม จำแนกให้เห็นอย่างคราวๆ ซึ่งเป็นความเห็นส่วนตัวของผมเอง ไม่จำเป็นต้องถูกต้องทั้งหมด หรือครบถ้วน เป็นความเห็นจากมุมมองที่ผมเคยเป็นทั้งลูกค้า และผู้ให้บริการครับ
สำหรับลูกค้า ข้อดีของการที่ไม่ต้องเฝ้าดู เพราะถูกจำกัดให้อยู่ในห้องพักลูกค้า ก็คือความสบายที่ไม่ต้องมีภาระในการเฝ้าดู หรือตรวจสอบ ซึ่งก็ควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะการซ่อมรถโดยช่างที่มีความรู้ความสามารถพอ และมีความซื่อตรงไม่จำเป็นต้องให้เจ้าของรถ หรือใครก็ตามมาคอยเฝ้าระวังครับ
ส่วนข้อเสียก็มีเหมือนกันครับ คือ เจ้าของรถบางคนอาจต้องการเห็นด้วยตนเอง ว่ารถของเขาถูกซ่อมด้วยความตั้งใจ ถูกต้องเราต้องยอมรับว่าความรู้ ความเข้าใจของช่างซ่อมรถชาวไทย มีจำกัด ตำราที่ดีระดับสูง ส่วนใหญ่เป็นภาษาต่างประเทศ ซึ่งในจุดนี้ เจ้าของรถอาจมีความรู้ ความเข้าใจในรายละเอียดบางเรื่อง มากกว่าช่างที่ซ่อม โดยเฉพาะในปัจจุบัน ที่มีแหล่งความรู้มากมาย เผยแพร่ทางระบบอินเตอร์เนท หรือในทางกลับกัน ลูกค้าที่ความรู้น้อยด้านการซ่อมรถ แต่เป็นผู้ใฝ่รู้ก็อาจอยากสังเกตการซ่อม เพื่อเพิ่มพูนความรู้ แม้จะไม่คิดจะซ่อมรถเองก็ตาม
ฝ่ายผู้ให้บริการนั้น การจำกัดให้ลูกค้าอยู่นอกเขตซ่อมรถ และจำกัดแม้กระทั่งสายตา มิให้เห็นการทำงานของช่าง มีข้อดีเกือบทั้งหมดครับ เพียงแต่ว่าดีสำหรับฝ่ายให้บริการ ไม่ได้ดีสำหรับลูกค้า เช่น ตัดปัญหาช่างถูกลูกค้ารบกวนสมาธิ หรือก้าวก่ายงานซ่อม และวิธีซ่อมของช่าง หรือไม่ก็ป้องกันรายได้ของศูนย์บริการลดลงเพราะช่างฝ่าฝืนระเบียบ โดยการนัดแนะลูกค้าไปซ่อมเป็นการส่วนตัวนอกศูนย์ ฯ และข้อที่สาม คือ สามารถปิดบังความผิด หรือความบกพร่องของช่าง เช่น ทำส่วนอื่นของรถที่ไม่เกี่ยวข้องชำรุดแล้วแอบซ่อมแซมแบบตบตาลูกค้า หรือการซ่อมแบบไม่ถูกต้อง เสี่ยงต่อความเสียหายของรถ เพราะศูนย์บริการไม่ยอมลงทุนซื้อเครื่องมือพิเศษ
ที่เขียนมายาวพอสมควร โดยยังไม่เข้าเรื่องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ที่ผมได้เกรินไว้ในช่วงแรก ก็เพื่อให้ผู้อ่านมีภาพในใจของความเป็นไปในศูนย์บริการก่อนที่ผมจะเล่าเรื่องเลวร้ายต่อไปนี้ครับ
ผู้ที่ทำธุรกิจซ่อมรถ หรือบริการทำความสะอาด ที่มีการบริการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง จะทราบดีว่า การนำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อรับการบำรุงรักษา รวมทั้งเปลี่ยนน้ำมันเครื่องนั้น โอกาสที่จะถูกโกงเสียเงินค่าน้ำมันเครื่องใหม่ และหม้อกรองน้ำมันเครื่อง แต่ไม่ได้ถูกเปลี่ยนจริง มีอยู่ไม่น้อย
ยังงงอยู่ใช่ไหมครับ ว่าผู้มีธุรกิจซ่อมรถ หรือบำรุงรักษารถ เข้าไปเกี่ยวข้องหรือรับรู้การทุจริตในศูนย์บริการรถเฉพาะทางได้อย่างไร ไม่ใช่ผู้ใช้รถทราบ เลยหนีมารับบริการแล้วเล่าให้ฟังหรอกครับ เรื่องเลวร้ายนี้ เจ้าของรถหลายรายที่น่าสงสาร ล้วนยังไม่เคยทราบทั้งสิ้น
ผู้ทำธุรกิจดังกล่าวนี้ จำนวนมากรายด้วยกัน ล้วนเคยได้รับการเสนอขายน้ำมันเครื่อง หม้อกรองน้ำมันเครื่อง ไส้กรองอากาศ น้ำยากันสนิมหม้อน้ำ น้ำยาผสมน้ำฉีดล้างกระจกรถจากพนักงานยี่ห้อของศูนย์บริการเฉพาะตรา ในราคาพิเศษ ถูกกว่าท้องตลาดเป็นของที่ผู้เสนอขายไม่มีต้นทุน เพราะขโมยมา อย่าเพิ่งปลอบใจตัวเองนะครับ ว่าศูนย์บริการรถตราที่คุณใช้อยู่ ซึ่งมีชื่อเสียงดี หรือเป็นรถชั้นดี คงไม่เข้าข่ายนี้ เชื่อไหมครับว่า เพียงแค่จะให้เน้นว่า พนักงานของศูนย์ ฯ ตราใดที่มีส่วนร่วมในการเสนอขายของขโมยมานี้ มากหรือน้อยเป็นพิเศษ กลุ่มผู้ทำธุรกิจเหล่านี้ยิ่งไม่สามารถนึกออก เพราะมันเป็นการกระจายเฉลี่ยแบบค่อนข้างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นรถญี่ปุ่น หรือ "ฝรั่ง" ตราใดก็ตาม
นี่คือปลายทางของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ครับ ทำไมไม่เอาไปขายผู้ใช้รถรายย่อย ? มันยุ่งยากและมีจำนวนไม่เพียงพอกับผลิตภัณฑ์ที่ขโมยมาครับ เพราะเป็นการทำกันเป็นขบวนการ รวบรวมเป็นจำนวนมากพอ แล้วจึงไปเสนอขายต่ำกว่าราคาท้องตลาด ส่วนใหญ่ก็สำเร็จผล เพราะผู้ซื้อได้ราคาต่ำกว่าที่เคยจ่าย ทำใจว่าไม่เกี่ยวข้องกับแหล่งที่มา ย่อมไม่ผิด ไม่ขาย แต่ที่จริงผิดครับ ตั้งแต่ในทางกฎหมายแล้ว เพราะเข้าข่ายรับซื้อของโจร ใครที่มีคุณธรรมสูงพอ ก็จะปฏิเสธ ไม่สนับสนุนพนักงานฉ้อฉลพวกนี้
แล้วที่มาของผลิตภัณฑ์พวกนี้ล่ะครับ มันคือน้ำมันเครื่อง รวมทั้งอย่างอื่น นี่พวกเราที่เป็นลูกค้า ซื้อเพื่อใช้กับรถของเราที่เข้ารับบริการ และชำระเงินตอนไปรับรถนี่แหละครับ สำหรับน้ำมันเครื่องซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลัก ที่พนักงานพวกนี้นำออกมาขาย ก็คือ น้ำมันเครื่องที่พนักงานซ่อมเบิกออกมาเพื่อเปลี่ยนให้แก่รถของลูกค้า แต่ไม่เปลี่ยนให้ครับ ถ้าของเดิมมีปริมาณพอ ถึงระดับค่อนข้างต่ำ มันก็จะเอาเศษน้ำมันเครื่องที่มีเหลืออยู่แล้วก้นกระป๋องเติมให้ มีลูกค้าจำนวนน้อยมากครับ ที่รับรถออกมาแล้ว ตรวจสอบน้ำมันเครื่องที่อยู่ในเครื่องยนต์ด้วยตนเอง ใครจะนึกครับว่าจะมีความเลวร้ายระดับนี้ในศูนย์บริการ
สำหรับผู้ที่ต้องการตรวจสอบ น้ำมันเครื่องที่เพิ่งถูกเปลี่ยนใหม่ จะต้องไม่มีเขม่าปนอยู่ขนาดมองเห็นได้ครับ แม้ว่าจะมีน้ำมันเครื่องเก่าตกค้างผสมอยู่บ้างก็ตาม เมื่อชักก้านวัดระดับขึ้นมา แล้วซับน้ำมันเครื่องที่ปลายด้วยผ้า หรือกระดาษทิชชู จะต้องเป็นสีเหลืองใส ไม่เห็นเขม่าดำครับ หรือถึงเป็นน้ำมันเครื่องที่ถูกผสมสีอื่นให้ดูสวย หรือน่าเลื่อมใสในเชิงพาณิชย์ ก็จะเป็นสีนั้น แต่ต้องใส และไม่มีผงเขม่าดำเด็ดขาดครับ
ผลิตภัณฑ์อื่นที่พวกมันนำออกมาขายก็ทำนองเดียวกันครับ คนที่ชำนาญระดับช่าง จึงจะตรวจสอบได้ว่า รถถูกเปลี่ยนน้ำในระบบหล่อเย็น หรือที่เรียกกันว่าน้ำหม้อน้ำหรือไม่ คนพวกนี้มันก็จะเอาน้ำยากันสนิมออกไปขายกันสบายครับ เช่นเดียวกับน้ำยาล้างกระจก แม้แต่ ปะเก็นเหลว (LIQUID GASKET) สำหรับประกอบชิ้นส่วนกันรั่วที่เบิกเพื่อซ่อมรถพวกเรา มันก็ลักลอบเอาออกมาขายครับ
คำถามแรกของผู้ใช้รถ ก็คือ ศูนย์บริการปล่อยให้สิ่งเลวร้ายเช่นนี้ เกิดขึ้นได้อย่างไร อย่าเพิ่งอ่านต่อครับ ลองหาคำตอบดูเล่นๆ ก่อนครับ ว่าทายถูกหรือไม่ ผมเชื่อว่าถึงไม่คิดลึกจนเกินไป ก็จะทายถูกกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็คือ มันเกิดขึ้นโดยผู้รับผิดชอบไม่ใส่ใจจริงจังในการป้องกัน ก็เพราะความเสียหายมันเกิดขึ้นแก่พวกเราผู้ใช้รถล้วนๆ ครับ คือ จ่ายเงินแต่ไม่ได้ของ และการบริการรถที่สึกหรอ เพราะไม่ถูกเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ก็รถของพวกเรา ศูนย์บริการได้เงินตามปกติครบถ้วน
ที่จริงแล้วมีวิธีป้องกันครับ แต่ต้องมาจากจริยธรรม และความรับผิดชอบของผู้บริหารศูนย์บริการ ถ้ารังเกียจพฤติกรรมฉ้อโกงของโจรในคราบพนักงานพวกนี้ มีทางป้องกันเสมอครับ ระดับผู้บริหารย่อมหาวิธีได้เสมอ มิฉะนั้นก็ไม่ใช่ผู้บริหารแล้ว ผมไม่ขอแนะนำในรายละเอียดปลีกย่อย ขอฝากไว้อย่างเดียวเท่านั้น คือ ต้องให้พนักงานทุจริตพวกนี้ ถูกลงโทษด้วยกฎหมายของบ้านเมือง โดยการแจ้งความเอาผิด เพราะการขโมยทรัพย์สินเป็นความผิดทางอาญา ถ้าทำจริง รวมกับมาตรการอื่นภายในศูนย์ ฯ สิ่งเลวร้ายเช่นนี้ ย่อมเกิดได้ยากมาก เพราะไม่มีใครไม่กลัวการติดคุกครับ
เรื่องโดย : เจษฎา ตัณฑเศรษฐี
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2554
คอลัมน์ Online : รอบรู้เรื่องรถ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/83170