ประสาใจ
ฤาจะแก่เกินวัย ?
กุมภาพันธ์เป็นเดือนแห่งความรักและการแต่งงาน เป็นเทศกาลแจกความรักให้กันและกันด้วยถือเป็นวันวาเลนไทน์ การแต่งงานก็หมายถึง การมีบุตร เรื่องหนึ่งที่ค้างใจผมอยู่มากก็คือ ความเชื่อของผู้หญิงกับการตั้งท้องตอนอายุมากแล้ว
เรื่องนี้เป็นประเด็นคุยกันมากกว่าจะเป็นเรื่องอ้างอิงทางวิชาการ เพราะแต่ละเรื่องทางวิชาการนั้นย่อมขึ้นกับเจ้าของเรื่อง ไม่จำเป็นต้องผูกพันถึงคนทั่วไปในทุกเรื่อง ทุกประเด็น โดยเฉพาะการตั้งท้องในตอนมีอายุมาก
ปัญหาเริ่มต้น ก็คือ ใครจะเป็นคนตัดสินว่า อายุมากแล้ว ถ้าถามผม ผมก็คงตอบได้ว่า อายุจะมากหรือน้อยคำตอบที่แม่นยำที่สุดก็อยู่ที่เจ้าของอายุคนนั้นเอง
ในกลุ่มเพื่อนผู้ชายของผม มักแอบนินทากันเสมอว่า ผู้หญิงกับผู้ชาย ใครจะแก่เร็วกว่ากัน
ร้อยเปอร์เซนต์ คำตอบเป็นเสียงเดียว...ผู้หญิงแก่ง่าย ตายยาก.....โดยเฉพาะผู้หญิงคนนั้น คือ ภรรยาที่รักของมันนั่นเอง
แต่คงไม่ใช่เพราะคำนินทานี้ ที่ทำให้ผู้หญิงคิดมากว่า อายุเลย 30 ปีไปแล้ว ก็เริ่มจะแก่แล้วนะ เพราะฉะนั้น 35 ปี นี่มันจะแก่เกินไปไหมสำหรับการตั้งครรภ์
คาร์ลีน เวสต์วูด เป็นสุภาพสตรีชาวสกอทแลนด์ ปัจจุบันเธออายุ 41 ปี เพิ่งจะเป็นคุณแม่คน ลูกวัย 1 ขวบ ของ คาร์ลีน เป็นผู้หญิง พ่อของ "ดาร์ซีย์" ลูกสาววัย 1 ขวบของเธอ ก็อายุ 41 ปีเท่ากัน คาร์ลีนมีลูกในตอนอายุ 40 ปี ซึ่งเธอก็เปิดเผยความในใจให้ทราบว่า เธออยากมีลูก ก่อนหน้าที่จะอายุ 40 ปี และการที่มามีลูกสาวเอาตอนอายุ 40 ปี นั้นไม่ใช่เรื่องที่เธอประสงค์มาก่อนในชีวิต
"เพื่อนๆ ที่เรียนหนังสือมาด้วยกัน มีลูกกันไปหมดแล้วตั้งแต่อายุได้ 30 ปี ฉันเองก็อยากจะเป็นอย่างนั้น"
เธอแทบจะพูดไม่ชัดเมื่อเอ่ยถึงประโยคที่ว่า
"กว่า ดาร์ซีย์ จะอายุ 20 ปี ฉันก็ปาเข้าไป 60 ปี แล้วละนะ"
ผมคิดว่าผู้หญิงส่วนมาก ก็คงจะมีความคิดในครรลองเดียวกันกับสุภาพสตรีรายนี้ แต่การมีคู่ครอง การมีพระเอกเข้ามาในชีวิต ไม่ใช่นวนิยายที่สามารถประพันธ์ขึ้นมาได้ และกำหนดเวลาเข้ามาได้ตามที่หัวใจปรารถนา
คาร์ลีน เวสต์วูด ก็เหมือนกัน กว่าเธอจะได้พบกับ ไซมอน พระเอกของเธอ ก็อายุเข้าวัย 36 ปีแล้ววาเลนไทน์กันตอน 36 ปี เรื่องแรกที่ต้องคิด ก็คือ อารมณ์ร่วมของการตั้งครรภ์ ควรจะบังเกิดขึ้นในไม่ช้า ไม่รอนานเป็นปี หรือเป็นทศวรรษ
การตั้งท้องก็มิใช่นวนิยายอีกนั่นแหละ สำหรับ คาร์ลีน ต้องใช้เวลานานถึง 2 ปีกว่าจะตั้งครรภ์ และโชคไม่เข้าข้างเธอเพราะเธอต้องแท้งบุตรถึง 2 ครั้ง
ความกังวลเริ่มเข้ามารบกวนจิตใจของ คาร์ลีน เริ่มหาความสงบไม่ได้ คิดไปร้อยแปดพันเก้า ความกังวลทำให้คนเราเกิดความเครียด เลือดลมไม่เป็นปกติ
ยิ่งเมื่อ ดาร์ซีย์ คลอดออกมาแล้ว คาร์ลีน ก็ยังห่วงใยว่าเธอจะอายุยืนยาวพอหรือไม่ ที่จะได้เห็น ดาร์ซีย์แต่งงาน หรือมีหลานให้อุ้ม
ช่องว่างระหว่างวัยของมารดากับบุตรสาวจะเป็นอย่างไรต่อไปในวันข้างหน้า เธอก็ตรองไม่ตก สมัยที่แม่ของ คาร์ลีน มี คาร์ลีน ออกมาดูโลกนั้น คุณแม่ยังอายุเพียง 21 ปี ซึ่งเธอก็รู้สึกว่าคุณแม่กับเธอเป็นเหมือนพี่น้องกันมากกว่าเป็นแม่เป็นลูก
แต่ ดาร์ซีย์...ดาร์ซีย์ 20 ปี คุณแม่ 60 ปี นะ จะบอกให้...!!!!
คิดร้อยแปดจนต้องเปิดประตูใจ ต้อนรับแขกรับเชิญ แน่นอน คาร์ลีน ทำอะไรไม่ถูก ต้องถามคนโน้นคนนี้เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ดิ้นรนหาทางออก ไม่ใช่ถามแพทย์แต่ถามคนที่ควรถาม ซึ่งหลายคนก็บอกเธอว่า อย่าไปกังวลเรื่องอายุ อายุเป็นเพียงตัวเลข
ในสนามเด็กเล่น เราอาจจะเป็นคุณแม่สูงวัยกว่าคุณแม่คนอื่น ลูกสาวของเราในห้องเรียนอาจจะเป็นเด็กหญิงคนเดียวในห้องที่มีแม่แก่แล้ว
เรื่องเช่นนั้น คาร์ลีน จะต้องไม่เก็บมาเป็นความกังวล ไม่ต้องแคร์...นี่ก็ว่าไปตามภาษาฝรั่ง
กรณีของ คาร์ลีน เธอยังเปิดใจด้วยว่า ไซมอน-สามีของเธอ ไม่ได้คิดในเรื่องนี้มากเท่ากับเธอ ซึ่งเธอเข้าใจดีว่า มันคงไม่ใช่เรื่องทางความคิดสำหรับผู้ชาย
ส่วนตัวผมเองนั้น ผมคิดว่า พ่อกับแม่ย่อมรักลูกเช่นเดียวกัน แต่แตกต่างกันเพราะความเป็นพ่อและความเป็นแม่
ผมเชื่อว่าความเป็นแม่นั้นรักลูกผิดแผกแตกต่างกว่าความเป็นพ่อ เพราะลูกคือ เลือดก้อนหนึ่งของแม่ ความรักและห่วงใยลูกระหว่างแม่กับพ่อ จึงน่าจะแตกต่างกัน หรือว่ากันไปแล้วก็คือ ความรักที่ไม่เท่ากันนั่นเอง
ลูกที่อยู่ในความปกครองของมารดา ส่วนใหญ่แล้วมักจะได้รับการอบรมเลี้ยงดูดีกว่าต้องอยู่กับบิดา
สุภาพสตรีที่กังวลในเรื่องตั้งท้องตอนอายุมาก มีเหมือนกันไปหมด ไม่ว่าจะเป็นคนในซีกโลกไหน แม้แต่ผู้หญิงคนไทยก็มีไม่น้อย
บางคนก็กังวลว่า อายุ 36 ปีแล้ว มีลูกออกมาจะต้องกลายเป็นเด็กปัญญาอ่อน หรือถึงกับเป็นเด็กพิการไหม ยิ่งแฟนที่เป็นพ่อของเด็กอายุมากด้วยแล้ว มันจะยังไงกัน
ถ้าคุยกับผม ซึ่งไม่ได้เป็นสูติแพทย์ผมก็ต้องบอกว่า เห็นจะเกี่ยวข้องกันยากกระมัง การตั้งท้องของผู้หญิงเรานั้นผมคิดว่า ประการแรกที่สุด ก็ต้องมีการฝากครรภ์ ซึ่งการนี้ก็หมายถึง อยู่ในความดูแลของแพทย์ตั้งแต่เริ่มตั้งท้อง
แพทย์กับวิชาการที่พวกเขาเล่าเรียนมา คงเป็นคำตอบสำหรับข้อกังวลต่างๆ ของผู้เป็นมารดาได้เป็นอย่างดี
พวกเขาย่อมทราบดีว่า สตรีมีครรภ์กับอายุของเธอผู้นั้น ควรต้องปฏิบัติตนอย่างไร ควรต้องมีหยูกยาอย่างไรสำหรับการบำรุงร่างกาย ทั้งร่างกายของแม่และของเด็กในครรภ์ ซึ่งคำแนะนำเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นคำสั่งหมอ DOCTORS ORDER ที่เราจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
กลับไปที่กรณีของ คาร์ลีน เวสต์วูด เมื่อเธอมี ดาร์ซีย์ แล้ว เธอรู้สึกว่าโชคยังเข้าข้าง เป็นบุญที่เธอมีลูกสุขภาพแข็งแรง ตัดความกังวลที่ว่า มีลูกตอนอายุ 40 ปี จะเป็นผลกระทบให้ลูกอ่อนแอ สุขภาพไม่ดี หรือปัญญาอ่อน
ความสมบูรณ์พูนสุขของ ดาร์ซีย์ ถึงกับทำให้ คาร์ลีน เกิดความคิด ถึงการมีครรภ์ครั้งต่อไป
ถึงตอนนี้ ถ้ามีใครสักคนถามว่า จะเอาอีกไหม คาร์ลีน จะตอบด้วยความมั่นใจว่า พร้อมแล้วสำหรับที่จะมีน้องชาย หรือน้องสาวอีกสักคนให้กับ ดาร์ซีย์...นั่น...ว่าไปนั่น
ถึงกระนั้นก็เถอะ คาร์ลีน ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่า การตั้งท้องครั้งใหม่ ถ้าเกิดขึ้นจริงในตอนนี้ แล้วอะไรทุกอย่างมันจะสมบูรณ์ดีเหมือนครั้ง ดาร์ซีย์ หรือเปล่าล่ะ ? ครั้งนั้นอาจโชคดี แล้วครั้งใหม่จะโชคดีเหมือนเดิมไหม
เผื่อบางคนถาม คาร์ลีน ว่าทำไมเธอมาตั้งท้องเอาตอนอายุ 40 ปี เธอก็บอกไปตามความเป็นจริงว่า เรื่องอย่างนี้มันกำหนดได้ที่ไหน
ยายของ ดาร์ซีย์ พูดกับ คาร์ลีน เมื่อตอนแท้งลูกคนที่ 2 แบบเธอลืมไม่ได้
มีลูกเอาตอนแก่ มันก็แบบนี้แหละนะ
คาร์ลีน รู้ดีว่า แม่ไม่ตั้งใจจะดุด่าว่าลูกสาว ไม่ตั้งใจจะพูดคำที่ไม่สุภาพกับลูกสาว แต่มีท้องเอาตอนแก่นี่มันเป็นข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
นี่ก็เป็นเรื่องราวจากสุภาพสตรีชาวสกอทคนหนึ่ง ซึ่งผมคิดว่า เรื่องราวของเธอน่าจะเป็นบทศึกษาที่ยอดเยี่ยมสำหรับสุภาพสตรีทั่วไปได้ความคิดเกี่ยวกับการตั้งท้องเมื่ออายุมาก
เราไม่ควรกังวลกับเรื่องเช่นนี้ สุขภาพและความพร้อมของเราต่างหากเป็นคำตอบอย่างดีต่อการตั้งท้อง ซึ่งที่สุดแล้วก็หนีไม่พ้นกับการปรึกษาแพทย์
เรื่องโดย : ข้าวเปลือก
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2554
คอลัมน์ Online : ประสาใจ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/82491