มหกรรมยานยนต์ VS เทศกาลหนังสือ
เดือนธันวาคมที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่มีการจัดเทศกาลหนังสือ หรือมหกรรมขายหนังสือในช่วงเวลา และสถานที่เดียวกับงาน “มหกรรมยานยนต์”
เดิมทีงานที่ท้าชนกับ “มหกรรมยานยนต์” มาตลอด คือ งานแสดงสินค้าประเภทโอทอพ และของฝากของขวัญ ซึ่งปีที่แล้วมีถึงสองงาน และก็ได้อานิสงส์ด้านผู้ชมจากงานของเราไปเต็มๆ
อย่าลืมนะครับว่า คนที่ไปชม “มหกรรมยานยนต์” ต้องซื้อบัตร หรืออย่างน้อยต้องมีบัตรฟรีอยู่ในมือ เพราะฉะนั้นต้องเป็นคนที่ตั้งใจไป เสร็จแล้วจึงค่อยแวะงานของฝากของขวัญซึ่งเข้าฟรี
อย่างไรก็ตาม คนที่ตั้งใจไปงานโอทอพอย่างเดียว ก็คงมีไม่น้อยแหละครับ
แต่คนที่ไปงานรถยนต์ และงานโอทอพ ดูเหมือนจะไม่สนใจงานหนังสือเอาเสียเลย
ทั้งที่ฮอลล์จัดงานโอทอพกับงานหนังสืออยู่ติดกันด้วยซ้ำ แต่ขณะที่งานโอทอพคนเดินแน่น โดยเฉพาะช่วงวันหยุด 3 วันสุดท้าย งานหนังสือกลับมีผู้คนบางตาจนน่าประหลาดใจ
ตรงกันข้ามกับไปงานมหกรรมหนังสือที่ศูนย์สิริกิติ์ ซึ่งจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง แต่ละครั้ง จะมีคนแห่ไปซื้อหนังสือใหม่ และหนังสือลดราคาจากสำนักพิมพ์ต่างๆ เป็นจำนวนมาก
แต่นั่นเป็นงานหนังสือที่จัดเดี่ยวๆ ไม่ชนกับงานอื่น รวมทั้งไม่ได้เน้นคอนเซพท์ให้คนซื้อหนังสือเป็นของขวัญอย่างงานที่อิมแพคท์
บางทีอาจจะฟังดูดีขึ้นนิดหนึ่ง ถ้าเราจะวิเคราะห์ว่า คนไทยไม่นิยมให้หนังสือเป็นของขวัญ
และถ้าไม่จัดประกบกับงานโอทอพ เทศกาลหนังสือก็คงได้รับความสนใจจากประชาชนมากกว่านี้
แต่จะให้ชัวร์ อย่าจัดงานหนังสือพร้อมกับงานแสดงรถยนต์เป็นอันขาด
ต่อให้เป็นงานระดับ “มหกรรมหนังสือ” ก็ตาม
“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27″ ที่เพิ่งผ่านไปนั้น มียอดขายรถในงาน 3 หมื่น 3 พันกว่าคัน และยอดคนดูราว 1.6 ล้านคน ซึ่งทั้งล้านกว่าคนนี้ต้องรู้แน่ว่า เพียงเดินข้ามจากอาคารชาลเลนเจอร์ไปฮอลล์ 6 ก็จะได้พบกับงานเทศกาลหนังสือ
ผมไม่ทราบว่า ผู้จัดงานหนังสือจะเก็บสถิติผู้ชมและยอดขายหนังสือในงานไว้หรือเปล่า แต่เท่าที่ไปสังเกตการณ์มา ผู้ชมไม่น่าจะถึงครึ่งของยอดผู้ชม “มหกรรมยานยนต์” ส่วนยอดขายหนังสือในงาน ถ้าเกิน 30,000 เล่ม ก็สมควรฉลองใหญ่
อยากรู้เหมือนกันครับว่า ยอดผู้ชมและยอดขายในงานมหกรรมหนังสือ 2 ครั้งที่ศูนย์สิริกิติ์ จะมากน้อยกว่างาน “มหกรรมยานยนต์” สักแค่ไหน
บอกตามตรง อยากให้งานของเราแพ้หลุดลุ่ยขาดลอย เหมือน รีล มาดริด แพ้ บาร์เซโลนา 0-5 เมื่อตอนต้นฤดูกาล
คนซื้อรถไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกครับ เช่นเดียวกับคนที่ไม่ซื้อหนังสือ
ผมรู้สึกของผมเองว่า ประเทศที่ประชาชนสนใจไปงานรถมากกว่างานหนังสือ และซื้อรถมากกว่า
ซื้อหนังสือ
ไม่ใช่ประเทศที่น่าอยู่
เพราะหนังสือดีๆ จะทำให้คนฉลาดขึ้นมีระเบียบวินัยขึ้น รู้หน้าที่ขึ้น และมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น
ส่วนรถดีฟ มันก็แค่รถดีๆ
ไม่เชื่อลองไปดู เจ้าของรถดีๆ แถวรัฐสภาสิครับ