เจาะสนามแข่งต่างประเทศ
WORLD RALLY CHAMPIONSHIP 2008 สนามที่ 2-3
ในปี 2007 สวีดิช แรลลี ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ นอร์เวย์ แรลลี ด้วยความที่ทั้ง 2 ประเทศนี้ มีสภาพสนาม
และภูมิอากาศที่คล้ายคลึงกัน รวมทั้งหิมะ และแผ่นน้ำแข็งที่ปกคลุมทั่วทั้งถนน จนกลายเป็นเอกลักษณ์
เฉพาะตัวของทั้ง 2 สนามไปแล้ว มาในปี 2008 สภาพอากาศโลกแปรปรวน ประเทศนอร์เวย์ ไม่หลงเหลือหิมะ
และน้ำแข็งให้เห็นเท่าใดนัก จึงทำให้ สวีดิช แรลลี กลายเป็นเจ้าแห่งแรลลีฤดูหนาวอย่างแท้จริง
ด้วยอุณหภูมิที่อาจลดต่ำได้ถึง -25 องศาเซลเซียส พร้อมกับลมกรรโชกที่พัดมาเป็นช่วงๆ สภาพอากาศที่เลวร้าย
ถือเป็นอุปสรรคที่สำคัญที่บรรดานักขับต้องอดทน และฟันฝ่าไปให้ได้
ดูเหมือนว่าภายใต้สภาพอากาศแบบนี้ ทีม ฟอร์ด จะทำผลงานได้ดีเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ จารี-มัตตี ลัตวาลา
(JARI-MATTI LATVALA ) นักขับสัญชาติ ฟินแลนด์ อายุ 22 ปี ที่ทำเวลาดีที่สุด 6 ใน 7 สเตจของเลกแรก
จนทำเวลารวมขึ้นมาอยู่อันดับ 1 ในวันแรกไปอย่างสุดมัน เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีม ฟอร์ด อย่าง
มิคโค ฮีร์โวเนน (MIKKO HIRVONEN) ที่ทำผลงานเข้ามาเป็นอันดับ 2 ทิ้งห่าง เฮนนิง โซลเบร์ก
(HENNING SOLBERG)ไปแล้วถึง 8.1 วินาที
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ ฟอร์ด กำลังดีใจกับชัยชนะ ทีมเต็งหนึ่งอย่าง ซีตรอง ที่มี เซบัสเตียง โลบ์
(SEBASTIEN LOEB) อดีตแชมพ์ 4 สมัย ก็ต้องพบกับความล้มเหลวในสนามนี้ เมื่อรถ ซีตรอง เซ กัตร์
มีปัญหาทางด้านเทคนิค จนไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ ต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย
เลกที่ 2 โอกาสยังดูสดใส สำหรับ ลัตวาลา และ ฮีร์โวเนน 2 คู่หูจากทีม ฟอร์ด ท่ามกลางน้ำแข็ง และหิมะ
ที่เริ่มละลาย โดยถ้า ลัตวาลา ยังสามารถรักษาอันดับนี้ไว้ได้ เขาจะกลายเป็นนักขับอายุน้อยที่สุดที่สามารถ
คว้าแชมพ์ในรายการนี้ได้นับตั้งแต่ปี 1980 และดูเหมือนว่าสถิติใกล้จะถูกทำลายเต็มที เพราะจบเลก 2
ทั้ง ลัตวาลา และ ฮีร์โวเนน ยังคงรักษาตำแหน่งไว้ได้อย่างเหนียวแน่น โดยทำเวลาทิ้งห่าง กีกี กัลลี
(GIGI GALLI) นักขับชาวอิตาเลียน ที่เพิ่งจะแซงเพื่อนร่วมทีม เฮนนิง โซลเบร์ก ขึ้นมาอยู่อันดับ 3
ไปเป็น 46.1 วินาที
จบเลกที่ 3 ชื่อของ ลัตวาลา นักขับทีม ฟอร์ด วัย 22 ปี ต้องถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์การแข่งขัน
หลังจากที่สามารถสร้างสถิติเป็นนักแข่งอายุน้อยที่สุด ที่สามารถคว้าแชมพ์รายการแข่งขันแรลลีโลกได้สำเร็จ
"ผมยอมรับว่ารู้สึกค่อนข้างประหม่า เมื่อรู้ว่าต้องแข่งในวันสุดท้ายในฐานะผู้นำ แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี
ผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก" ลัตวาลา กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่โพเดียม
ด้าน ฮีร์โวเนน ที่ทำผลงานมาเป็นที่ 2 ได้คะแนนสะสมเพิ่มอีก 8 แต้ม ในจังหวะที่ โลบ์ ไม่สามารถคว้าคะแนน
มาเพิ่มได้ ส่งผลให้ ฮีร์โวเนน มีคะแนนรวมแซงหน้า โลบ์ ขึ้นมา 6 แต้ม โดยมีทั้งสิ้น 16 แต้ม ขณะที่
ลัตวาลา สามารถเก็บ 10 คะแนนเต็มได้ จึงมีคะแนนเท่ากับ โลบ์
การแข่งขันแรลลีโลก สนามที่ 3 ประเทศเมกซิโก
แม้จะเพิ่งถูกบรรจุเข้าไปอยู่ในปฏิทินการแข่งขัน แรลลีโลก เมื่อปี 2004 แต่ เมกซิโก แรลลี กลับได้รับ
ความนิยมอย่างรวดเร็ว จากแฟนๆ แรลลีทั่วโลก จากการแข่งขันที่สั้น กระชับ มีระบบจัดการที่ดี ทแรคที่ใช้
ในการแข่งขันเป็นทางกรวดที่เรียบ ใช้ความเร็วได้สูง จึงถือเป็นอีกสนามที่มีความเร้าใจ
และน่าสนใจที่สุดของปี
ด้วยสภาพเส้นทางแข่งขันส่วนใหญ่อยู่บนที่สูง ที่มีวิวทิวทัศน์งดงาม แต่กลับส่งผลเสียกับบรรดารถแข่ง
เนื่องจากบนที่สูงอากาศเบาบางกว่าด้านล่าง ส่งผลให้อากาศถูกอัดเข้าสู่เครื่องยนต์ได้น้อยลง ผลก็คือ
รถที่เซทอัพมาไม่ดี กำลังอาจจะลดลงได้ถึง 20 %
หลังจากพลาดคะแนนเมื่อสนามที่แล้วอย่างน่าเสียดาย โลบ์ แชมพ์โลกคนล่าสุด ต้องเจองานหนักตั้งแต่
เลกแรกอีกครั้ง เมื่อ ลัตวาลา นักขับรุ่นน้องจากทีม ฟอร์ด ที่ระเบิดฟอร์มยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง หลังจาก
ที่คว้าแชมพ์แรกเมื่อสนามที่แล้ว ยังกลับมาทำเวลาดีที่สุดไปอีกถึง 8 สเตจในวันแรก ส่งผลให้จบวันแรก
เขาทำเวลาแซงหน้า โลบ์ ไปแล้วถึง 9.6 วินาที
"ผมทำดีที่สุดแล้ว ทั้งการเข้าโค้ง ที่แทบจะไม่มีข้อผิดพลาด แต่ผมก็ยังช้ากว่าเขาอยู่ดี" โลบ์ ออกมายอมรับ
อย่างไรก็ตาม เลกที่ 2 งานหนักตกลงไปอยู่กับผู้นำอีกครั้งจากการที่ต้องออกสตาร์ทเป็นคันแรก และต้องเจอ
กับก้อนกรวดที่กระจายอยู่เต็มผิวหน้าถนน ทำให้ลื่นมากกว่าปกติ นอกจากนี้ ลัตวาลา ยังต้องเจอกับโชคร้าย
2 ชั้น เมื่อรถ ฟอร์ด เกิดปัญหาท่อเทอร์โบรั่ว จนทำให้จบเลกที่ 2 ด้วยเวลารวมที่ร่วงลงไปถึง 2 อันดับ
ไปอยู่อันดับ 3 ตามหลัง โลบ์ และ แอทคินสัน
ในเลกที่ 3 ผลการแข่งขันในอันดับต้นๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง โลบ์ สามารถพลิกกลับขึ้นมาคว้าแชมพ์
ได้สำเร็จ ชนิดอาศัยโชคช่วย เช่นเดียวกับ คริส แอทคินสัน (CHRIS ATKINSON) จากทีม ซูบารุ
ที่ได้ส้มหล่นเข้าเส้นชัยเป็นที่ 2 ขณะที่ ลัตวาลา ที่ต้องทำใจกับความผิดพลาดของรถตัวเอง แต่ยังประคอง
รักษาอันดับที่ 3 ไว้ได้ โดยยังทำเวลาตีตื้นขึ้นมาเหลือช่องว่างจากผู้นำเพียง 1 นาทีกว่าเท่านั้น
จากผลการแข่งขันในครั้งนี้ ส่งผลให้ โลบ์ ที่เก็บได้ 10 คะแนนเต็ม ทำคะแนนสะสมรวมประเภทนักขับ
ซึ่งไล่ ฮีร์โวเนน ที่สนามนี้เก็บเพิ่มได้เพียง 4 แต้ม มาเหลือช่องว่างเพียง 1 แต้มเท่านั้น ขณะที่ ลัตวาลา
ที่ทำผลงานดีอย่างต่อเนื่อง มีคะแนนรวมอยู่ในอันดับ 3 โดยมีคะแนนทั้งสิ้น 16 คะแนน
ด้านคะแนนสะสมประเภททีม ฟอร์ด ยังคงรักษาอันดับ 1 ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ส่วน ซูบารุ ที่รถทั้ง 2 คัน
ยังทำผลงานได้ดี มีคะแนนสะสมตามมาเป็นอันดับ 2 โดยมี 25 แต้ม เท่ากับทีม ซีตรอง
สรุปผลการแข่งขันสนามที่ 3 ประจำปี 2008 ประเภทผู้ขับ
[table]อันดับ, ผู้ขับ, คะแนนรวม
ชนะเลิศ, มิคโค ฮีร์โวเนน, 21
รองอันดับ 1, เซบัสเตียง โลบ์, 20
รองอันดับ 2, จารี-มัตตี ลัตวาลา, 16 [/table]
สรุปผลการแข่งขันสนามที่ 3 ประจำปี 2008 ประเภททีม
[table]อันดับ, ทีม, คะแนนรวม
ชนะเลิศ, ฟอร์ด, 37
รองอันดับ 1, ซูบารุ, 25
รองอันดับ 2, ซีตรอง, 25 [/table]
เรื่องโดย : สิทธิพงศ์ วิยาภรณ์
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2551
คอลัมน์ Online : เจาะสนามแข่งต่างประเทศ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/77906