วิถีตลาดรถยนต์
รถเอสยูวี
ปกติเดือนพฤษภาคม ของทุกปี จัดว่าเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนระอุระดับที่ผู้มีเงินถุงเงินถังถึงกับอยู่ไม่ติด ต้องหอบลูกกระเตงเมียออกไปพักผ่อนหลบลมร้อนตากอากาศชายทะเลทั้งระยะใกล้และไกล แต่ในปีนี้สภาพดินฟ้าอากาศแปรปรวนจับต้นชนปลายไม่ถูก ประเดี๋ยวแดดเปรี้ยงขนาดเดินตากแดดนี่เล่นเอาแสบผิว แต่ผ่านไปสักครู่ฝนฟ้ากลับกระหน่ำลงมาอย่างหนักไม่ลืมหูลืมตา ทำเอาผู้คนจำนวนมากปรับตัวไม่ทัน ต้องพึ่งพายารักษาโรคกันเป็นทิวแถว กอปรกับช่วงกลางเดือนพฤษภาคม โรงเรียนระดับอนุบาล, ประถมศึกษา, มัธยมศึกษา ส่วนใหญ่เปิดภาคเรียนแรกของปีการศึกษาใหม่ ทำเอาท่านที่มีบุตรหลานอยู่ในวัยเรียนต้องควักกระเป๋าเป็นค่าเล่าเรียนบำรุงการศึกษา รวมไปถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง เมื่อชักหน้าไม่ถึงหลังก็ต้องนำทรัพย์สินไปแปรเปลี่ยนเป็นเงินสดมาว่ากันไปตามอัตภาพ แถมด้วยปัญหาทางด้านการเมืองสารพัด MOB ออกมาประท้วงเรียกร้องความสนใจ ทำเอาความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงไปพอสมควร ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม และรวมถึงสภาพคล่องในการจำหน่ายรถยนต์ในประเทศด้วยเช่นกัน
เดือนนี้ยอดการจำหน่ายรถในประเทศ ส่วนใหญ่ปิดยอดการจำหน่ายด้วยตัวเลขสีแดงเช่นเดิม เมื่อรวมทั้งตลาดปรากฏว่า เดือนนี้ติดลบไปอีก 7.8 % เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม ปีที่แล้ว สามารถทำยอดจำหน่ายรวมกันได้ 51,364 คัน โดยอันดับหนึ่งและสองของตลาด ได้แก่ โตโยตา และ อีซูซุ เกี่ยวก้อยกันทำยอดจำหน่ายติดลบทั้งคู่ อันดับหนึ่ง โตโยตา ติดลบไป 9.8 % ทำยอดขายได้ 23,082 คัน ส่วน อีซูซุ ติดลบมากหน่อย 14.7 % จำหน่ายได้ 9,985 คัน ขณะที่อันดับสาม, สี่ และห้า กลับมียอดจำหน่ายที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนนี้ของปีที่แล้ว โดยที่ ฮอนดา จำหน่ายได้ 6,605 คัน เพิ่มขึ้น 12.2 % นิสสัน จำหน่ายได้ 3,827 คัน เพิ่มขึ้น 23.6 % และ มิตซูบิชิ เพิ่มขึ้น 5.4 % จากยอดจำหน่าย 2,309 คัน โดยที่ในจำนวนยอดจำหน่ายรถทั้งหมด 51,364 คันนี้ แบ่งออกเป็นรถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ ทั้งในแบบไม่ยกสูงและยกสูง 26,663 คัน ติดลบ 13.8 % รถนั่งส่วนบุคคลจำหน่ายได้ 15,697 คัน
ติดลบ 4.0 % รถพิคอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ จำหน่ายได้ 2,063 คัน ติดลบ 11.5 % รถเอสยูวี เป็นรถประเภทเดียวที่มียอดจำหน่ายสูงขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม ปีที่แล้ว ทำยอดจำหน่ายได้มากกว่ารถพิคอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยจำหน่ายได้ทั้งสิ้น 3,080 คัน เพิ่มขึ้น 28.1 % ส่วนรถเอมพีวี มียอดจำหน่าย 745 คัน ติดลบ 19.5 % และที่เหลือเป็นรถประเภทอื่นๆ 3,116 คัน เพิ่มขึ้น 12.9 % อย่างไรก็ตาม การเพิ่มตัวสูงขึ้นของรถเอสยูวีจะว่าไปแล้ว ไม่ได้แสดงให้เห็นอย่างแท้จริงว่า ตลาดรถประเภทนี้จะมีความต้องการสูงมากขึ้นทั้งตลาด แต่เป็นเพราะในช่วงเดือนพฤษภาคม ปีที่แล้ว ซีอาร์-วี เจเนอเรชันที่ 2 ของ ฮอนดา เริ่มจะหมดวาระในการจำหน่ายแล้ว ทั้งเดือนจำหน่ายได้เพียง 38 คันเท่านั้น แต่มาในปีนี้ ซีอาร์-วี เจเนอเรชันที่ 3 ออกจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ด้วยรูปลักษณ์ที่ปรับปรุงใหม่ให้แจ่มแจ๋วไฉไลโดนใจมากขึ้น เครื่องยนต์ใหม่ที่ลดเสียงครหานินทาว่า กินน้ำมัน ทำให้ ซีอาร์-วี ใหม่ ไปได้ฉลุยถึงแม้จะเปิดตัวมาแล้วกว่า 5 เดือน โดยจำหน่ายได้ถึง 1,176 คัน เกือบจะแซง โตโยตา ขึ้นไปอยู่อันดับ 1 ในเดือนนี้เสียด้วยซ้ำ จำหน่ายได้น้อยกว่า โตโยตา แค่ 17 คันเท่านั้น และเป็นที่น่าสังเกตเช่นกันว่า นอกจาก ฮอนดา ที่จำหน่ายได้มากขึ้นแล้ว บแรนด์อื่นๆ ที่จำหน่ายอยู่ในอันดับที่สาม,สี่ และห้า ก็มียอดจำหน่ายสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม ปีที่แล้ว จะมีก็แต่เพียงพี่ใหญ่หัวแถว โตโยตา เท่านั้นที่ยอดจำหน่ายลดลง !
กลับมาดูทางด้านตลาดรถนั่งส่วนบุคคล อันดับต้นๆ ของรถนั่งยอดฮิท ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด เป็น โตโยตา ที่มี วีออส ใหม่ เป็นตัวทำตลาด ยังมีผลงานที่ยอดเยี่ยมและเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้ยอดจำหน่ายรถนั่งของ โตโยตา ในเดือนนี้ไม่อยู่ในขั้นติดลบ แต่ก็เจียนตัว เพราะมียอดจำหน่ายมากกว่าปีที่แล้วเพียง 154 คัน โตโยตา จำหน่ายได้ 8,233 คัน คิดเป็น 52.4 % ของตลาดรถนั่งทั้งหมด ส่วน ฮอนดา ตามมาเป็นอันดับสอง รวมทุกโมเดลที่เป็นรถนั่งจำหน่ายได้ 5,429 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 34.6 % อันดับสาม เป็นของ เชฟโรเลต์ ที่เปิดเกมรุกกลางปีด้วยแคมเปญพิเศษ ถ้าไม่พอใจยินดีคืนเงิน ใจป้ำเสียเหลือเกินค่ายนี้ เดือนพฤษภาคมจำหน่ายได้ 624 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาดไป 4.0 % อันดับที่สี่ เป็น นิสสัน รถสัญชาติญี่ปุ่นที่มีนายใหญ่เป็นชาวฝรั่งเศส จำหน่ายได้ 350 คัน รับส่วนแบ่งตลาดไป 2.2 % ส่วนอันดับที่ห้า ค่ายดาวสามแฉกกลับคืนสู่ทอพไฟว์ อีกวาระหนึ่ง ด้วยยอดจำหน่าย 278 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 1.8 %
ด้านรถพิคอัพ 1 ตัน ประเภทขับเคลื่อน 2 ล้อ เดือนนี้หัวแถวกลับมาเป็นของ โตโยตา อีกเดือนหนึ่งด้วยยอดจำหน่าย 11,020 คัน กินส่วนแบ่งตลาดไป 41.3 % ทำให้ อีซูซุ จำใจต้องรับตำแหน่งที่สอง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยทำยอดได้เพียง 8,416 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 31.6 % อันดับสาม เป็นของ นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวารา 2,816 คัน ได้ส่วนแบ่งไป 10.6 % อันดับสี่ เป็นของค่ายคลองหลวง มิตซูบิชิ ทไรทัน1,675 คัน ครองใจผู้ซื้อรถใหม่ป้ายแดงในตลาดประเภทนี้ 6.3 % และอันดับที่ห้า มาซดา บีที-50 เข้าสู่ทำเนียบอีกครั้งหนึ่ง ด้วยยอดจำหน่าย 975 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.7 % แต่ก็ไม่ได้ทิ้งห่าง ฟอร์ด ที่ตามมาในอันดับที่หก ไม่ได้มากมายอะไรเลยเพียง 6 คันเท่านั้น โอกาสที่จะเปลี่ยนขึ้นหรือลง ยังคงเป็นไปได้ทั้งนั้นในเดือนต่อไป
ส่วนรถพิคอัพ 1 ตัน ประเภทขับเคลื่อน 4 ล้อ โตโยตา นำโด่งจากยอดจำหน่าย 992 คัน รับส่วนแบ่งตลาดไปเจ้าเดียว 48.1 % นิสสัน เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว จำหน่ายรถพิคอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ ได้เพียงแค่คันเดียว ปีนี้จำหน่ายได้ 375 คัน ไม่ต้องพูดถึงเปอร์เซนต์ความเปลี่ยนแปลงสูงที่สุดอย่างแน่นอน รับส่วนแบ่งตลาด 18.2 % อีซูซุ ยังยึดอันดับสาม ทำยอดจำหน่ายได้ 302 คัน ส่วนแบ่งตลาด 14.6 % เช่นเดียวกับอันดับที่สี่ มิตซูบิชิ 158 คัน ขณะที่ เชฟโรเลต์ อยู่ในอันดับที่ห้า 95 คัน แซง ฟอร์ด เจ้าของอันดับเดิมในเดือนที่แล้วมาได้
และตลาดรถเอมพีวี ทั้งตลาดจำหน่ายได้ 745 คันแค่นั้น โตโยตา ไม่มีปัญหาสำหรับการเป็นเจ้าตลาดรถยนต์ประเภทนี้แต่อย่างใด ในเดือนนี้จำหน่ายได้ 578 คัน มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 77.6 % ขณะที่ มิตซูบิชิ ที่มี สเปศ แวกอน เป็นตัวทำตลาดจำหน่ายได้ 99 คัน เกือบขึ้นหลักร้อยเหมือนกัน มีส่วนแบ่งตลาด 13.3 % อันดับที่สาม เป็นของ เกีย ศิษย์ยนตรกิจ จำหน่ายได้ 25 คัน อันดับที่สี่ เป็นของ ซูซูกิ 19 คัน และ ซังยง ตามมาเป็นอับดับที่ห้า ขายได้ 17 คัน
สรุปภาพรวมเดือนที่ 5 ของปีหมูไฟ อันร้อนแรง มียอดจำหน่ายรถรวมทุกประเภททุกบแรนด์ ที่239,292 คัน ติดลบเมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 14.3 % แบ่งออกเป็นรถนั่งส่วนบุคคล 63,773 คัน ส่วนแบ่งตลาด 26.6 % รถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ 132,411 คัน ส่วนแบ่งตลาด 55.3 % ขับเคลื่อน 4 ล้อ ยอดจำหน่ายรวม 8,983 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.8 % รถเอสยูวี 14,198 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.9 % รถเอมพีวี 3,773 คัน ส่วนแบ่ง 1.6 % ในจำนวนนี้มีเพียงตลาดรถเอสยูวี เพียงตลาดเดียวที่ปรับตัวสูงขึ้นจากปีที่แล้ว โดยเติบโตสูงขึ้น 4.3 % นอกนั้นลดน้อยถอยลง ส่วนที่ปรับตัวลดลงมากที่สุดเป็นตลาดรถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ ปรับตัวลดลง 34.2 %
และเดือนมิถุนายน เป็นเดือนสุดท้ายของไตรมาสที่ 2 ตลาดออกจะคึกคักเป็นพิเศษ บรรดาค่ายรถยนต์ต่างอัดแคมเปญพิเศษส่งเสริมการขายกันออกมาแทบจะไม่น้อยไปกว่าในช่วงการจัดงานมอเตอร์โชว์ แถมยังมีรถรุ่นใหม่ๆ ออกมาอีกหลายรุ่น ต้องลุ้นว่าจะทำให้ตลาดกระเตื้องขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน ในเดือนที่ปกติยอดจำหน่ายรถจะไม่ปรับตัวสูงขึ้นหรือลดลงมากน้อยเท่าไรนัก เป็นเดือนที่เรียกว่า "นิ่งที่สุด" ของปีก็ว่าได้ แต่ปีนี้พิเศษหน่อย ที่อาจจะไม่นิ่งเท่าใดนัก โดยเฉพาะอุณหภูมิการเมือง ที่ไม่รู้ว่าจะมีรถขับเคลื่อนด้วยสายพานชนิดพิเศษ ออกมาโชว์ตัวตามท้องถนนอีกรอบหรือไม่ ?
เรื่องโดย : ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2550
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/57906