ผลทดสอบต่างแดน
บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5 VS เอาดี คิว 7
บีเอมดับเบิลยู เปิดตัวรถรุ่น เอกซ์ 5 รุ่นสุดยอดในเวอร์ชันพวงมาลัยขวาโดยจัดว่าเป็นรถประเภทเอสเอวี (SAV: SPORTS ACTIVITY VEHICLE) ส่งตรงมาจากโรงงานในสปาร์ทันบวร์ก ใช้กลยุทธ์สร้างจุดขายด้วยชื่อเสียงในความแข็งแกร่ง และเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี ที่มีมาตั้งแต่รุ่นแรก ในครั้งนี้ค่าย เมร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว เอมแอล-คลาสส์ ด้วยการใช้โครงสร้างแบบเก่า ส่วน บีเอมดับเบิลยู ตัดสินใจใช้โครงสร้างตัวถังรหัส E39 ของ ซีรีส์ 5 ที่เหนือกว่า และมีการทรงตัวที่ดีกว่า
จนเวอร์ชันล่าสุดของ เอกซ์ 5 ที่ยังคงรักษาชื่อเสียงที่เหนือกว่า ด้วยประสิทธิภาพการทรงตัวที่โดดเด่นพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 เอสอี ส่วนรุ่นสูงสุดวางเครื่องยนต์เบนซิน วี 8 สูบ ความจุ 4.8 ลิตรเพื่อครอบคลุมตลาดเอสยูวีมากที่สุด ขณะเดียวกัน ค่าย เอาดี ก็ให้ความสนใจรถในเซคชันนี้ด้วย เอาดี คิว 7 ที่มีฟอร์มสดกว่า ราคาน่าสน และมี 7 ที่นั่งสำหรับรุ่นมาตรฐาน ด้วยยอดขายที่โดดเด่น ทำให้ คิว 7 เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวไม่น้อย นับแต่การเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว
จากเจเนอเรชันแรกจนถึงรุ่นล่าสุด ภายนอกของ เอกซ์ 5 มีการเปลี่ยนแปลงไปน้อยมากจนแทบจะสังเกตไม่เห็น มีเพียงการขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้น และมีรูปทรงที่ลู่ลมมากขึ้น สามารถสลัดคราบของรถซาลูนและเอสเตท ไปได้อย่างหมดจด ส่วนทางค่าย เอาดี คิว 7 ไม่เน้นการออกแบบรูปทรงที่โดดเด่นจนแทบสังเกตไม่เห็นเอกลักษณ์ของ คิว 7 ได้ แต่โดยรวมจัดว่าเป็นรถที่มีความยาว ไม่โฉบเฉี่ยว และที่น่าเสียดาย คือ ประตูท้ายที่น่าจะออกแบบได้ดีกว่านี้
ด้วยขนาดตัวรถภายนอกของ เอาดี คิว 7 ค่อนข้างใหญ่ ทำให้เนื้อที่ภายในค่อนข้างกว้างขวางน่าประทับใจได้ห้องโดยสารยาวกว่าถึง 9 นิ้วเต็มๆ สามารถจัดวางที่นั่งได้ถึง 7 ที่นั่ง ผู้โดยสารได้รับความสบายอย่างเท่าเทียมกัน หากไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานเบาะแถวสาม ก็สามารถพับลงในช่องเก็บที่พื้นได้
ส่วน เอกซ์ 5 ที่มีการออกแบบให้เป็นรถแบบ 5 ที่นั่ง แต่ถ้าต้องการที่นั่งแถวที่ 3 ก็มีออพชันให้เลือกแต่มีเพียง 1 ใน 3 ของลูกค้าเท่านั้นที่มีความต้องการที่นั่งแถวที่ 3 จึงทำให้ บีเอมดับเบิลยูไม่ให้ความสำคัญกับการติดตั้งที่นั่งแถวที่ 3 มากนัก
ส่วนคันที่ใช้ในการทดสอบไม่ได้รับการติดตั้งที่นั่งแถวที่ 3 มาด้วย จึงไม่สามารถเปรียบเทียบได้ แต่จากประสบการณ์ที่เคยสัมผัสมา ที่นั่งแถวที่ 3 ของ เอกซ์ 5 ค่อนข้างคับแคบสำหรับผู้ใหญ่ มีเพียงเด็กๆเท่านั้นที่จะสามารถเพลิดเพลินกับการเดินทางกับที่นั่งแถวที่ 3 ได้ตลอดเส้นทาง
แม้ว่า เอกซ์ 5 จะมีการออกแบบอุปกรณ์ภายในที่ค่อนข้างทันสมัย และมีระดับ อุปกรณ์เครื่องเสียงที่มีฟังค์ชันมากมาย พร้อมระบบนำทางด้วยดาวเทียม แต่อุปกรณ์ภายในก็ยังไม่สามารถเทียบกับ คิว 7 ได้ไม่ว่าจะเป็นแง่คุณภาพของวัสดุ หรือความสะดวกในการใช้งานอุปกรณ์ที่ง่าย และสะดวกมากกว่า
ขุมพลังที่อยู่ภายใต้ฝากระโปรง เอกซ์ 5 คือ เครื่องยนต์เบนซิน วี 8 สูบ ความจุ 4.8 ลิตรเป็นเครื่องเดียวกับที่ใช้ใน บีเอมดับเบิลยู 550 ไอ, 650 ไอ และ 750 ไอ แต่มีการปรับแต่งให้เหมาะสมกับ เอกซ์ 5 มากขึ้น โดยมีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 350 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 48.4 กก.-ม. ถ่ายทอดกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะลงสู่ล้อทั้งสี่ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 240 กม./ชม. และทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 6.5 วินาที
เอาดี คิว 7 ซึ่งใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อเช่นกัน โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน วี 8 สูบ ความจุ 4.2 ลิตร พร้อมกับระบบ FSI DIRECT INJECTION ที่ให้กำลังสูงสุด 345 แรงม้า และแรงบิด 44.9 กก.-ม. สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 7.4 วินาที และมีความเร็วสูงถึง 246 กม./ชม. ซึ่งเป็นผลมาจากน้ำหนักรวมที่น้อยกว่า ทั้งที่มีขนาดใหญ่กว่าก็ตาม
สมรรถนะของ เอาดี คิว 7 สามารถเทียบกับ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5 ได้ด้วยการปรับแต่งท่อไอเสียที่ยอดเยี่ยม เป็นผลให้มีอัตราเร่งแซงที่น่าประทับใจ แม้ในเส้นทางขึ้นเนินเขาที่เต็มไปด้วยโค้ง การทำงานของเครื่องยนต์ กับระบบเกียร์ที่ชาญฉลาด สามารถเลือกอัตราทดที่เหมาะสม จึงทำให้การขับขี่ คิว 7 ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา แคล่วคล่อง และเร็วจริงๆ แต่อันที่จริงระบบเกียร์ของ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5 มีการทำงานที่รวดเร็ว สามารถถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์ 4.8 ลิตรได้อย่างเหนือชั้น นอกจากช่วงรอบต่ำเท่านั้นที่แรงบิดหายไป แต่ในรอบเครื่องสูงแล้ว ระบบเกียร์สามารถถ่ายทอดกำลังได้อย่างต่อเนื่อง และร้อนแรง ส่วนการทำงานของเกียร์แบบธรรมดา-ทิพทรอนิค ทาง เอาดี มีการตอบสนองการสั่งการช้ากว่า ขณะเดียวกัน ระบบทิพทรอนิคของ เอกซ์ 5 ใช้งานสะดวก และเบาแรงกว่า
ในการทดสอบการตอบสนองการขับขี่ ทั้ง 2 คันพร้อมรบด้วยล้อ และยางขนาด 20 นิ้ว ซึ่ง เอกซ์ 5
เหนือกว่าด้วยระบบการขับขี่ อแดพทีฟ ดไรฟ (ADAPTIVE DRIVE) ซึ่งเป็นผลการปรับปรุงมาตั้งแต่รุ่นแรก ทำให้ เอกซ์ 5 เป็นรถที่สะดวกสบายกว่า มีการยึดเกาะดีกว่า และสามารถคาดเดาอาการได้
ระบบถุงลมสปริงของ เอกซ์ 5 สามารถปรับได้ตามสภาพการขับขี่ ทั้งการควบคุมลดการโคลงตัวในโค้งนอกจากนั้น ในการใช้ความเร็วสูงบนทางหลวงยังจะมีการปรับลดระดับความสูงตัวรถลง มีการต้านลมน้อยลงและลดเสียงรบกวนให้น้อยลง นอกจากนั้นยังเบียดบังเนื้อที่ภายในห้องโดยสารน้อยกว่าและช่วยให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำลง การติดตั้งระบบอแดพทีฟ ดไรฟ ทำให้ต้องจ่ายเพิ่มอีก 2,300 ปอนด์ หรือประมาณ..............บาท แต่ก็นับว่าคุ้มกับเม็ดเงินที่เสียไป ด้วย ELECTRONICALLY VARIABLE DAMPERS และ ACTIVE HYDRAULICALLY CONTROLLED ANTI-ROLL BAR ซึ่งสามารถช่วยลดอาการโคลงในการขับอย่างรุนแรงได้
ถ้าเปรียบเทียบการตอบสนองการขับขี่กับ โพร์เช กาเยนน์ (PORSCHE CAYENNE) แล้วบีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5 จัดว่ามีความใกล้เคียงมากกว่า เอาดี คิว 7 อย่างไรก็ตาม ทาง โพร์เชก็ยังไม่มีแนวคิดจะเปิดตัวเครื่องดีเซล สำหรับ กาเยนน์ จึงทำให้รถในกลุ่มนี้มีคู่ต่อสู้แค่เพียง 2 รุ่น คือ เอกซ์ 5 และ คิว 7 เท่านั้น
เอาดี คิว 7 จัดว่าเป็นรถที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้กว้างขวางโดยยอดขายที่มากเป็นประวัติการณ์ เป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี ส่วน บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5 เป็นรถที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยี และมีการตอบสนองการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ถ้าจะเลือกเป็นรถคันต่อไปในโรงรถ ข้อมูลเหล่านี้น่าจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
เรื่องโดย : อกนิษฐ์ ทัพภะสุต
ภาพโดย : -
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2550
คอลัมน์ Online : ผลทดสอบต่างแดน
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/57886