สัมภาษณ์พิเศษ(4wheels)
สาธิต เตชะลาภอำนวย
ตลาดรถยนต์ในปัจจุบัน ตัวเลขยอดจำหน่ายอาจไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้นปี อันเป็นผลจากปัจจัยหลายด้าน ซึ่งส่งผลต่อการปรับกลยุทธ์ ของค่ายรถยนต์ต่างๆ 4 WHEELS สัมภาษณ์พิเศษสาธิต เตชะอำนวยลาภ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด
4 WHEELS : คุณมองภาพรวมของตลาดรถยนต์ปีนี้อย่างไร ?
สาธิต : ยอดขายรถโดยรวมตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนสิงหาคม มียอดรวมเพียง 400,000 กว่าคัน ซึ่งหากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมียอดลดลงประมาณ 3 % หากมองย้อนกลับไปเมื่อต้นปีหลายฝ่ายคาดการณ์ว่ายอดขายโดยรวมจะมีมากกว่า 700,000 คัน คงจะเป็นไปได้ยาก แต่หลังจากประเทศไทยปฏิรูปการเมือง น่าจะทำให้ภาพของตลาดชัดเจนขึ้น แต่มาถึงปัจจุบัน ผู้บริโภคส่วใหญ่ก็ยังไม่กล้าใช้เงิน หากมองกลับไปในอนาคตข้างหน้า ยอดขายรถปีนี้ได้เท่ากับปีที่แล้วถือว่าประสบความสำเร็จ
คาดว่า 1-2 เดือนข้างหน้า ตลาดรถจะมีการแข่งขันรุนแรงมากยิ่งขึ้นเนื่องจากหลายค่ายเร่งทำการตลาดเพื่อให้สามารถทำยอดขายได้ตรงกับเป้าที่ตั้งไว้
สำหรับ เกีย ได้มีการปรับเป้ายอดขายลงจากเดิมที่ได้ตั้งไว้เมื่อต้นปี คือ 2,500 คัน เหลือ 2,100 คันซึ่งปัจจุบันทำยอดขายได้แล้วที่ผ่านมาเน้นทำกิจกรรมส่งเสริมการขายมากขึ้น รวมถึงได้เปิดตัวรถใหม่ กแรนด์ คาร์นิวัล เพื่อให้เกิดกระแสการตอบรับในตลาดมากขึ้น และเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
4 WHEELS : กิจกรรมของ เกีย ต่อจากนี้จะมีรูปแบบอย่างไร ?
สาธิต : ที่ผ่านมาบริษัท ฯ ได้เปิดแคมเปญส่งเสริมการขาย เกีย คาร์นิวัล 7 ที่นั่ง ราคาเริ่มต้น 1,109,000 บาท แถมแพคเกจตกแต่งรถมูลค่าเกือบ 100,000 บาท นอกจากนี้ได้เปิดตัว เกีย คาเรนส์วี เอสเตท ที่พัฒนามาจาก เกีย คาเรนส์ ที่นั่ง 3 แถว ปรับเหลือ 2 แถว เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกของด้านหลังมากขึ้น ราคาจำหน่ายเริ่มต้น 898,000 บาท รวมทั้งนำ เกีย โซเรนโต ซึ่งเป็นรถธงของบริษัท ฯมาตกแต่งเพิ่มเติม ใช้ชื่อรุ่นว่า เกีย โซเรนโต สปอร์ท เอกซ์ เป็นรถอเนกประสงค์พันธุ์แท้เครื่องยนต์เบนซิน 3.5 ลิตร ราคาเริ่มต้น 1,995,000 บาท เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล 2.5 ลิตร ราคา 1,838,000 บาท
เกีย ไม่ใช่ตัวเลือกอันดับหนึ่งหรือสอง สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อรถ เมื่อค่ายรถรายใหญ่มีการแข่งขันกันมากขึ้น ย่อมส่งผลกระทบกับบริษัท ฯ แต่เราก็พยายามสู้ ด้วยการแสดงความชัดเจนและความจริงใจกับลูกค้าให้มากที่สุด แม้จะเป็นเพียงผู้นำเข้าสินค้า งบการตลาดต่างๆ อาจมีจำกัด ไม่มากเท่าค่ายรถยนต์รายใหญ่ แต่ก็พยายามทำราคาสินค้าให้คุ้มค่ากับคุณภาพของสินค้า และจะยึดหลักการนี้ต่อไป
4 WHEELS : ปีนี้ เกีย มีแผนเปิดตัวรถรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ?
สาธิต : ปีนี้คงไม่มีแล้ว แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาตลาดในประเทศไทยโดยปีหน้าจะให้ความสำคัญกับการทำตลาดรถเก๋งมากขึ้น เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดใหญ่ แต่ต้องยอมรับว่าการทำตลาดรถเก๋งในประเทศไทย เป็นงานที่ยากมาก เพราะหลายยี่ห้อเป็นบแรนด์ที่อยู่ในตลาดมานาน โดย เกีย ต้องทำงานหนักมากยิ่งขึ้น และหากเป็นไปได้จะนำรถ ปีกันโต และรีโอ มาทำตลาด เนื่องจากเคยนำมาจัดแสดงและทำวิจัยตลาดมาบ้างแล้ว ส่วน เกีย กแรนด์ คาร์นิวัล ก็ยังเป็นสินค้าหลักในการทำตลาดของบริษัท ฯ
นอกจากนี้เรายังพยายามปรับปรุงสินค้าให้สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลและแนวพระราชดำรัสของในหลวง ที่ต้องการให้ใช้สิ่งของอย่างคุ้มค่าและพอเพียง ซึ่งสอดคล้องกับสโลแกนด้านสินค้าของบริษัท ฯ ว่า "คุ้มค่า คุ้มค่า และคุ้มค่า" โดยพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพเหมาะสมกับราคา ปัจจุบัน ผู้บริโภคทั่วโลกมองคุณภาพของสินค้ามากกว่าชื่อบแรนด์ แต่ยอมรับว่าในประเทศไทย ผู้บริโภคมักนิยมรถบแรนด์ใหญ่ๆ มากกว่า และนี่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ต่อไปว่า เกีย จะทำได้ดีแค่ไหน
4 WHEELS : คุณคิดว่าอะไร คือ จุดแข็งของ เกีย ?
สาธิต : รถทุกคันของ เกีย ที่นำมาจำหน่ายในประเทศไทยเป็นรถนำเข้าทั้งคัน ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่ารถทุกคันได้รับการผลิตตามมาตรฐานการผลิตจากโรงงาน มีราคาเหมาะสม และคุ้มค่ากับวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ซึ่งขายความเป็นประโยชน์ของสินค้าจริงๆ ประกอบกับปัจจุบันกระแสเกาหลีได้รับการยอมรับมากขึ้น ประเทศเกาหลีก็มีพัฒนาการที่รวดเร็ว มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ไม่ด้อยกว่าประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตลาดเมืองไทย น่าจะเปิดรับสินค้าจากเกาหลีได้มากขึ้น ดังจะเห็นได้จากการทำงานที่ผ่านมา 5 ปี มีรถ เกีย ออกสู่ตลาดแล้วกว่า 15,000 คัน
4 WHEELS : บริษัทมีแผนขยายตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นหรือไม่ ?ิ
สาธิต : การขยายตัวแทนจำหน่าย บริษัท ฯ วางแผนให้สามารถรองรับกับจำนวนรถที่จำหน่ายออกไปโดยตั้งเป้าไว้ที่ 50 แห่งทั่วประเทศ แต่จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปตามจำนวนประชากรรถของ เกียในปัจจุบันมีโชว์รูมและศูนย์บริการในกรุงเทพ ฯ 14 แห่ง ต่างจังหวัด 20 แห่ง การขยายจะเน้นจังหวัดที่ยังไม่ได้เข้าไป โดยจะเพิ่มอีก 2 แห่งในภาคใต้ รวมถึงจะเปิดโอกาสให้มีตัวแทนจำหน่ายรายใหม่เข้ามาร่วมกับบริษัท
4 WHEELS : คุณคิดว่าปัจจุบัน เกีย ประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใดในเมืองไทย ?
สาธิต : การเปิดตลาดของ เกีย เมื่อ 5 ปีก่อน ถือว่าเป็นจังหวะที่ดี รวมถึงการเปิดตัว เกีย คาร์นิวัลประสบความสำเร็จอย่างมาก และรถทุกรุ่นของ เกีย ถือว่าได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จส่วนในอนาคตที่ เกีย วางแผนจะทำตลาดรถเก๋ง เป็นเพราะที่ผ่านมารัฐบาลมีนโยบายที่จะสนับสนุนโครงการอีโคคาร์ แต่โครงการไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้สูญเสียโอกาส แต่โดยภาพรวม เกียยังมีโอกาสเติบโตอย่างมากในตลาดเมืองไทย และด้วยความเป็นมืออาชีพของ ยนตรกิจ กรุพและประสิทธิภาพของ เกีย จะทำให้ เกีย ประสบความสำเร็จและอยู่คู่ตลาดเมืองไทยต่อไปได้
4 WHEELS : คุณคาดว่าการเติบโตของ เกีย ในปีหน้าจะเป็นอย่างไร ?
สาธิต : ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ไม่สามารถบอกได้ว่าปีหน้าการดำเนินธุรกิจของเราจะเป็นอย่างไรแต่อย่างไรก็ตามเรายังคงมีเป้าหมายที่จะสร้างผลประกอบการให้เติบโตอย่างน้อย 5 % สอดคล้องกับภาพรวมของตลาด ที่มีผู้คาดการณ์ว่าในปีหน้า ภาพรวมของตลาดรถยนต์จะเติบโต 5 %
4 WHEELS : เกีย ประเทศเกาหลี มีมุมมองต่อ เกีย ประเทศไทย อย่างไร ?
สาธิต : บริษัทแม่เข้าใจสถานการณ์ในประเทศไทย และให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เกีย ประเทศเกาหลี ช่วยสนับสนุนกิจกรรมทางการตลาดของบริษัท ฯ มาตลอด
4 WHEELS : คุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับรถเกาหลียี่ห้ออื่นๆ จะเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ?
สาธิต : ถือว่าเป็นผลดี เพราะหากมีรถเกาหลีเข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น แสดงว่าลูกค้าให้การยอมรับในสินค้าเกาหลีมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยสร้างตลาดรถเกาหลีให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นการสร้างทางเลือกให้แก่ลูกค้า
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ,
ภาพโดย : เกรียงศักดิ์ ปันสม, จินดา ลัยนันท์
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2549
คอลัมน์ Online : สัมภาษณ์พิเศษ(4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/57578