ข่าวรอบโลก(4wh)
เมร์เซเดส-เบนซ์/ทาทา /ริคาร์โด/โฟล์คสวาเกน/บีเอมดับเบิลยู/เรนจ์ โรเวอร์
เมร์เซเดส-เบนซ์
เผยโฉม 4x4 สายพันธุ์ใหม่
ค่าย เมร์เซเดส-เบนซ์ กำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะแจ้งเกิดรถขับเคลื่อนสี่ล้ออีก 2 สายพันธุ์ โดยใช้โรงงานในประเทศบราซิล เป็นสถานที่ทำโมเดล โดยนำโครงสร้างตัวถังของรุ่น ซี-คลาสส์ 4 เมทิค (C-CLASS 4 MATIC) มาโมดิฟาย และมีกำหนดการจำหน่ายในปี 2551
รุ่นแรกเป็นรุ่น เอกซ์-คลาสส์ (X-CLASS) มีหน้าตาคล้ายกับรุ่น เอม-คลาสส์ (M-CLASS) และอีกรุ่นเป็นคู่ปรับของ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3 โดยตรง ขณะนี้ติดตรงที่ค่าย เมร์เซเดส-เบนซ์ ยังขาดศิลปะทางด้านการออกแบบที่จะสะกดใจผู้ใช้ที่เป็นวัยรุ่น คาดว่าหากการออกแบบลงตัวคงจะมีรถขับเคลื่อนสี่ล้ออีก 2 รุ่นออกมาให้เห็น
ทาทา
เตรียมผลิต "เอกโซเวอร์" ลุยตลาดยุโรป
รถครอสส์โอเวอร์ 4x4 รุ่นใหม่ของค่าย ทาทา (TATA) ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศอินเดีย กำลังเตรียมเข้าสู่สายพานการผลิตในปลายปี 2550 โดยผู้บริหารของ ทาทา ตั้งเป้าหมายการตลาดของรถรุ่นใหม่ไว้ในแถบยุโรป
หน้าตาคงจะคล้ายกับรถแนวคิดรุ่น เอกโซเวอร์ (XOVER) ที่เปิดตัวในงานมหกรรมยานยนต์เจนีวา ตัวรถเป็นรถขนาด 7 ที่นั่ง ยาวเกือบ 5.0 ม. ใช้โครงสร้างตัวถังแบบขั้นบันไดใหม่ บนช่วงล่างอิสระทั้ง 4 ล้อ โดยที่ด้านหน้าเป็นแบบปีกนกสองชั้น คอยล์สปริง และเพลาลอย พร้อมคานยึด 5 จุดในด้านหลัง
ทาทา ผู้ผลิตรถรายใหญ่ในประเทศอินเดีย ที่ว่าจ้างให้นักออกแบบชาวอิตาลี ช่วยในการออกแบบตัวถัง ยังจะเน้นวิศวกรรมด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อเกิดการชนอย่างรุนแรง สามารถผ่านมาตรฐานการชนในประเทศแถบยุโรป วิศวกรของ ทาทา กล่าวว่า ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมาก ที่ต้องทำก่อนที่จะเข้าสู่ไลน์การผลิตจริง น้ำหนักรวมของตัวรถคาดว่าจะอยู่ในช่วง 1,750-1,800 กก. แต่น่าจะเบากว่ารุ่น ซาฟารี ถึง 250 กก.
ขุมกำลังที่วางในรุ่นนี้ เป็นเครื่องยนต์ดีเซล ไดเรคท์อินเจคชัน 2.2 ลิตรใหม่ 140 แรงม้า โดยสามารถผ่านมาตรฐานควบคุมมลพิษ EURO 4 เป็นที่เรียบร้อย ในส่วนของกลไกระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ มีครบครันทั้งเกียร์ทรานสเฟอร์ โลว์เรนจ์ ระบบทแรคชัน คอนทโรล ระบบห้ามล้อเอบีเอส รวมถึงถุงลมนิรภัย 4 ใบ
ริคาร์โด
พัฒนาเครื่องยนต์ทูอินวัน
บริษัทริคาร์โด ใช้เวลากว่า 2 ปีครึ่งและทุนกว่า 1.9 ล้านปอนด์ ในการพัฒนาเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่ผสานจังหวะการทำงานของเครื่องยนต์ 2 และ 4 จังหวะไว้ในเครื่องยนต์เดียวกันอย่างลงตัว
ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากทั้งสถาบันต่างๆ รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม SUSSEX-BASED ให้ชื่อเครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้ว่า 2/4 SIGHT โดยโครงสร้างเครื่องยนต์เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ วี 6 สูบ 2.0 ลิตร ที่มีสมรรถนะเทียบเท่าเครื่องยนต์ วี 8 สูบ 3.4 ลิตร โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงน้อยกว่าถึง 30 % รวมถึงมลพิษหลังการเผาไหม้ด้วย
เครื่องยนต์ 4 จังหวะทั่วไป ในแต่ละรอบการทำงาน จะประกอบด้วยจังหวะของการดูด อัด ฉีด คาย แต่สำหรับเครื่องยนต์ใหม่นี้ มีการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรงมาใช้ร่วมกับจังหวะของการเปิด/ปิดวาล์วไอดีและไอเสียอย่างลงตัว โดยเน้นท่อดูดไอดี ท่อพอร์ทไอเสียที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ทำให้เครื่องยนต์ 2/4 SIGHT ลดจังหวะของการทำงานในเครื่องยนต์ 4 จังหวะทั่วไปเหลือเพียง 2 จังหวะเท่านั้น (รวมเอาจังหวะอัดเข้ากับฉีด และดูดเข้ากับคาย) นอกจากจะทำให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยลดความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงรวมถึงลดน้ำหนักของเครื่องยนต์ด้วย
โฟล์คสวาเกน
แนะนำ กอล์ฟ 4x4 รุ่นใหม่
เบดูอิน (BEDUIN) ชื่อนี้จำไว้ให้ดี เพราะ โฟล์คสวาเกน จะใช้ชื่อนี้เป็นตัวแทนของรถขับเคลื่อนสี่ล้อสายพันธุ์ใหม่ที่จะมีตัวถังทรงแฮทช์แบค 5 ประตู
หลังจากที่ โฟล์คสวาเกน ประสบความสำเร็จในรถขับเคลื่อนสี่ล้อ รุ่น ตูอเรก (TOUAREG) ในตลาดรถขับเคลื่อนสี่ล้อหรูหรารุ่นใหญ่ โฟล์คสวาเกน ต้องการอุดช่องว่างทางการตลาดโดยเฉพาะตลาดรถขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดเล็ก ที่มีคู่แข่งสำคัญ เช่น โตโยตา รัฟโฟร์ ฮอนดา ซีอาร์-วี และแลนด์ โรเวอร์ ฟรีแลนเดอร์ รวมถึงน้องใหม่ล่าสุด บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3 จึงได้ตัดสินใจส่ง เบดูอิน เข้าชิงชัยในตลาด
เพื่อให้กำลังของตัวรถสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ วิศวกรของ โฟล์คสวาเกน จึงตัดสินใจวางเครื่องยนต์เบนซิน วี 6 สูบ 3.6 ลิตร 280 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ควบคุมการทำงานด้วยอีเลคทรอนิคส์จากผู้เชี่ยวชาญทางด้านเกียร์ส่งกำลังจากสวีเดน HALDEX
ทริมตกแต่งต่างๆ รวมถึงคอนโซลแผงหน้าปัดทั้งหมดคาดว่าจะยกชุดมาจากรุ่น กอล์ฟ พลัส ตัวรถมีฐานล้อทางด้านหน้ากว้างกว่าด้านหลัง ช่วงล่างหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท และมัลทิลิงค์ ในด้านหลัง
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อใหม่นี้ เคยใช้ในรุ่น กอล์ฟ 4 โมชัน (GOLF 4 MOTION) มาแล้ว ด้วยการทำงานของระบบคลัทช์แบบมัลทิพเลท ที่ควบคุมการทำงานด้วยระบบอีเลคทรอนิคส์ จะแบ่งแรงบิดไปยังเพลาขับหน้า/หลังด้วยอัตราส่วนที่เหมาะสม และเมื่อใดที่มีล้อใดล้อหนึ่งเกิดการลื่นไถล ระบบเบรคจะลอคล้อนั้นทันที
ขุมกำลังที่วางในรุ่น เบดูอิน มีหลายรุ่นตั้งแต่เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร 113 แรงม้า, 2.0 ลิตร 148 แรงม้า และ 2.0 ลิตร ไดเรคท์อินเจคชัน FSI เทอร์โบชาร์จ 197 แรงม้า, 3.2 ลิตร วี 6 สูบ 246 แรงม้า และทอพสุดความจุ 3.6 ลิตร วี 6 สูบ 276 แรงม้า ที่จะวางในรุ่น พาสสัท ใหม่ ต้นปีหน้า ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล มีตั้งแต่ความจุ 1.9 ลิตร 105 แรงม้า, 2.0 ลิตร 138 แรงม้า และ 169 แรงม้าตามลำดับ เกียร์มีทั้งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ส่วนเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ DSG มีให้เลือกเป็นออพชัน
บีเอมดับเบิลยู
โชว์ เอกซ์ 3 โฉมใหม่
บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3 ได้รับการปรับหน้าตาใหม่ในลักษณะของไมเนอร์เชนจ์หลังจากที่ได้รับการเปิดตัวออกขายมากว่า 1 ปี ถึงเวลาที่ต้องมีการปฏิวัติรูปโฉม ในส่วนที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือส่วนหน้าของรถที่รวมเอาครึ่งล่างตั้งแต่ใต้ไฟหน้าลงมารวมเข้าเป็นส่วนเดียวกับกันชนหน้าและหลัง
กันชนหน้าและกระจังหน้ารวมเป็นชิ้นส่วนเดียวกัน ถูกเกลาให้เหลี่ยมมุมต่างๆ หายไป มีช่องและปล่องตะแกรงดักลมไอดีฝังไว้ในตัวกันชนลงตัวเป็นอย่างดี ไฟช่วยส่องสว่าง ถูกย้ายตำแหน่งใหม่แต่ก็ยังมีซ่อนไว้ในส่วนของกันชนหน้านี้ด้วย บันไดด้านข้างทำจากเหล็กสเตนเลสส์อย่างดี มีความกว้างมากกว่ารุ่นก่อน
ด้านหลังนั้นทั้งกันชนหลังและฝาปิดท้ายส่วนล่างได้รับการออกแบบใหม่ ให้ดูคล้ายกับรุ่น เอกซ์ 5 ค่อนข้างมาก และฝาท้ายก็มีส่วนของกันชนที่ยื่นออกมาอย่างเด่นชัด
สำหรับขุมกำลัง คาดว่าน่าจะได้รับความนิยมมากขึ้น ด้วยการวางเครื่องยนต์ดีเซล ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร ที่มีแรงม้าแรงบิดมากพอที่จะพาเจ้า เอกซ์ 3 ทะยานไปที่ไหนๆ ได้
เรนจ์ โรเวอร์
วางเครื่องยนต์ วี 12
ค่าย แลนด์ โรเวอร์ ตัดสินใจวางเครื่องยนต์ แอสตัน มาร์ทิน ขนาด 450 แรงม้า ในรุ่น เรนจ์ โรเวอร์ เครื่องยนต์ วี 12 นี้ มีสายเลือดเยอรมัน เคยถูกวางในรถต้นแบบมาก่อนหน้านี้แล้ว ด้วยขนาดของเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่ทำให้ต้องย้ายแบทเตอรีจากห้องเครื่องยนต์มาไว้ที่ใต้เบาะนั่งด้านหน้าแทน ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้เป็นที่พอใจในกลุ่มผู้บริหารของ แลนด์ โรเวอร์ เป็นอย่างมาก
แต่แผนการดังกล่าว ยังไม่มีโครงการที่จะบรรจุสู่สายพานการผลิต ด้วยเหตุผลที่ว่าเครื่องยนต์รุ่นนี้ หากต้องมีการโมดิฟายเพื่อใช้งานโหดๆ บนเส้นทางวิบากแล้ว ค่อนข้างจะยุ่งยากมากทั้งส่วนของกลไกและอุปกรณ์อีเลคทรอนิคส์ทุกอย่างของเครื่องยนต์ต้องได้รับการโมดิฟายจากวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
แจกวาร์
เตรียมออกรถใหม่ สไตล์ครอสส์โอเวอร์ 4x4
เตรียมพบกับรถครอสส์โอเวอร์ 4x4 ไฮรูฟใหม่จากค่าย แจกวาร์ ที่จะมาแทนที่รุ่น เอกซ์-ไทพ์ (X-TYPE) เป็นคู่แข่งที่ร้อนแรงสุดกับ เมร์เซเดส-เบนซ์ อาร์-คลาสส์ และรถจากค่าย บีเอมดับเบิลยู
โครงสร้างตัวถังเป็นรุ่น EUCD จากค่าย ฟอร์ด ที่ใช้ในรถต้นแบบ ฟอร์ด เอสเอวี (FORD SAV) ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์เจนีวา ที่ผ่านมา โรงงานที่คาดว่าจะใช้ประกอบ แจกวาร์ ใหม่ น่าจะเป็นโรงงาน HALEWOOD
ด้วยความเป็นรถลักซัวรี ทำให้ แจกวาร์ ต้องทำห้องโดยสารให้มีความหรูหรามากที่สุด เริ่มจากหลังคาเป็นแบบกระจกใสยาวตลอดแบบพาโนรามิค มีครอสส์บาร์หรือคานขวาง 2 อัน รองรับด้านบนหลังคา ป้องกันอันตรายในกรณีที่รถเกิดการพลิกคว่ำ อุปกรณ์อำนวยความสะดวก มีตั้งแต่ระบบนำทางผ่านดาวเทียม ระบบครูสคอนทโรลที่ปรับเปลี่ยนช่วงความเร็วได้ รวมถึงระบบเอนเตอร์เทนเมนท์ครบสูตร ที่แยกฟังแยกดูเป็นรายบุคคลในรถได้ แผงประตูได้รับการออกแบบให้ดูหรูหรามาก การตกแต่งประตูรวมถึงลำโพง ล้วนเลือกใช้ของดีราคาแพง เบาะนั่งรวมถึงมาตรวัด และสวิทช์ต่างๆ เน้นความสะดวก ง่ายต่อการใช้งาน
ขุมกำลังมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ 2.2 ลิตร 173 แรงม้า และ 2.0 ลิตร 141 แรงม้า ส่วนเครื่องยนต์เบนซินนั้นใช้เครื่องยนต์ 5 สูบ 2.5 ลิตร ของ โวลโว ระบบเกียร์เป็นรุ่นที่ใช้ใน โวลโว วี 50 และที 5 AWD เช่นเดียวกัน ที่ใช้ระบบคลัทช์ HALDEX เพื่อส่งแรงขับเคลื่อนไปยังล้อหลังได้ตามต้องการ ส่วนเกียร์ธรรมดา 5 และ 6 จังหวะ มีให้เลือกเป็นออพชัน เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะมีให้เลือกใช้อยู่แล้ว พร้อมกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะที่มีคลัทช์อัตโนมัติมาพร้อม แฟนๆ ของรถจากเมืองผู้ดีรายนี้คงต้องจับตารอคอย
สโกดา
เผยโฉมรถแนวคิด เยตี
สโกดา เตรียมผลิตรถวิบากขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นครั้งแรก มีกำหนดออกจำหน่ายในปี 2550 ด้วยการหยั่งเชิงโชว์ตัวในงานมหกรรมยานยนต์เจนีวา ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้เข้าชม ทำให้ผู้บริหารของ สโกดา ตัดสินใจเตรียมบรรจุรถคันนี้ เข้าสู่สายพานการผลิต หน้าตาของรถจะคล้ายรถแนวคิดรุ่น เยตี (YETI) ที่เปิดตัวไปแล้ว
ลักษณะเด่นของรถ อยู่ที่ประตูหลังบานเดียวทางฝั่งผู้โดยสารหลัง แม้ว่าตัวรถจะออกแบบให้ดูคล้ายรถ 5 ประตู ที่มีประตูด้านท้ายแบบบานเดียวขนาดใหญ่ และมีกระจกโอบล้อมรอบคันกระจังหน้าได้รับการออกแบบลายใหม่ รวมทั้งใช้ไฟท้ายทรงแนวตั้ง ขนาดของตัวถังรถจะใหญ่กว่ารุ่น ฟาบีอา (FABIA) แต่เล็กกว่ารุ่น อกตาวีอา (OCTAVIA)
โฟล์คสวาเกน
ลองผลิตพิคอัพ
โฟล์คสวาเกน ประกาศแผนการผลิตรถกระบะพิคอัพใหม่ ฐานการผลิตตั้งอยู่ที่เมืองฮันโนเฟร์ซึ่งแผนการผลิตรถพิคอัพของ โฟล์คสวาเกน นี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่ต้องการให้มีรถครอบคลุมทุกประเภท รายละเอียดของรถตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผย แต่คาดว่าน่าจะคล้ายกับรถแนวคิด รุ่นเอเอซี แต่มีรูปโฉมของตัวถังรถคล้ายกับรถวิบาก ตูอเรก รุ่นพี่ โครงสร้างตัวถังหลักๆ น่าจะเป็นแบบขั้นบันได
เอาดี
เตรียมดัน "คิว 7" รถ 4x4 รุ่นใหม่ลงตลาด
เมื่อไม่นานนี้ ค่าย เอาดี ได้นำรถขับเคลื่อนสี่ล้อรุ่นใหม่ล่าสุดของค่ายมาทำการทดสอบ ตัวรถที่จะผลิตออกมาขายนั้น จะมีหน้าตาไม่แตกต่างจากรถแนวคิด ไพค์สพีค (PIKES PEAK) รุ่นปี 2546 แต่วางระบบขับเคลื่อนส่งกำลังกวัตตโร หวังจะถล่มคู่แข่งที่น่ากลัวคือ เมร์เซเดส-เบนซ์ เอมแอล ใหม่ และเรนจ์ โรเวอร์ สปอร์ท ใหม่ รวมทั้ง บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5 ตัวรถ เอาดี คิว 7 น่าจะลงถนนได้จริงประมาณต้นปีหน้า
ด้วยลักษณะตัวถังของรถแบบ 7 ที่นั่ง ที่มีน้ำหนักของตัวถังรถค่อนข้างมาก วิศวกรผู้ผลิตจึงพยายามหาทางที่จะลดน้ำหนักของตัวรถลงให้มากกว่านี้ เพื่อที่จะได้ไม่เป็นอุปสรรคในการตัดสินใจเลือกซื้อ เมื่อต้องเปรียบเทียบกับคู่แข่ง ส่วนขุมกำลังมีให้เลือกทั้งเบนซิน แบบ วี 8 สูบ 4.2 ลิตร และดีเซล 3.0 ลิตร
โฟล์คสวาเกน
ตูอเรก พิชิตยอดเขา
ที่ผ่านมาค่าย โฟล์คสวาเกน ได้ทำลายสถิติโลกล่าสุด ด้วยการนำเอารถขับเคลื่อนสี่ล้อ รุ่น ตูอเรก พิชิตยอดเขาที่มีระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 6,080 ม. ส่วนหนึ่งเป็นแผนโพรโมทการตลาดของ โฟล์คสวาเกน เอง ที่ต้องการแสดงให้ผู้ใช้รถเห็นว่า ตูอเรก สามารถทำได้ !
ABOUT THE AUTHOR
ว
วิโชค ควรรักษ์เจริญ
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2548
คอลัมน์ Online : ข่าวรอบโลก(4wh)