พิเศษ(cso)
การตีตู้ซับวูเฟอร์
ตู้ซับวูเฟอร์ (ENCLOSURE) เป็นปัจจัยสำคัญที่อยู่คู่กับซับวูเฟอร์ และเสียงเบสส์โดยเฉพาะในรถยนต์ การตีตู้ยังคงได้รับความนิยมอยู่ แม้ว่าผู้ที่ชื่นชอบเครื่องเสียงหลายๆคน ไม่ต้องการให้เสียเนื้อที่ในรถก็ตาม ซึ่งในจุดนี้มีตู้สูตรสำเร็จแบบต่างๆ มาเพิ่มเสียงเบสส์ให้กับระบบในรถแทน
ประเภท
ตู้สูตรซับวูเฟอร์ แบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ ตู้ปิด ตู้เปิด และตู้แบนด์พาสส์ซึ่งในแต่ละประเภทยังแยกย่อยออกไปอีก ทั้งนี้เพื่อให้เหมาะสมกับซับวูเฟอร์ และลักษณะการทำงานที่ต่างกัน เพื่อให้ได้เสียงเบสส์ตามต้องการ ไม่ว่าจะเน้นความดัง นุ่มนวลหรือเค้นความถี่เสียงเบสส์ในช่วงต่างๆ
ตู้ปิด (SEALED) เป็นตู้ประเภทที่ไม่มีช่องสำหรับอากาศเข้า/ออก ติดซับวูเฟอร์ที่ผนังตู้ด้านนอก ไม่จำกัดว่าจะหันดอกซับเข้าหรือออก จำนวนดอกซับ และการออกแบบภายในตู้การคำนวณปริมาตรตู้จะคิดเฉพาะภายในตู้ เป็นตู้ที่ได้รับความนิยม การออกแบบและสร้างขึ้นจะง่าย มีขนาดไม่ใหญ่มาก ลักษณะของเสียงเบสส์จะเป็นลูก มีเนื้อหาครบ
ตู้เปิด (PORTED) เป็นตู้ประเภทที่มีช่องอากาศสำหรับเข้า/ออกระหว่างผนังตู้โดยส่วนมากจะใช้ท่อสำหรับทำช่อง ดอกซับจะติดตั้งที่ผนังตู้ด้านนอก ไม่จำกัดว่าจะหันดอกซับเข้าหรือออก จำนวนดอกซับ และการออกแบบภายในตู้ การคำนวณนอกจากปริมาตรภายในตู้แล้ว ยังต้องคำนวณรัศมี และความยาวของท่อร่วมด้วย เป็นตู้ที่ต้องออกแบบตามสูตร หรือคู่มือของซับวูเฟอร์ ได้รับความนิยมในนักเล่นเครื่องเสียงที่ต้องการตีแผงซาวน์ดโชว์ ส่วนมากมีขนาดใหญ่กว่าตู้ปิด ลักษณะของเสียงเบสส์เค้นความนุ่มลึกและหนักหน่วงได้มากขึ้น
ตู้แบนด์พาสส์ (BAND PASS) เป็นตู้ประเภทที่ออกแบบติดตั้งซับวูเฟอร์ไว้ภายในโดยติดตั้งกับผนังตู้ด้านในที่กั้นระหว่างกัน ภายในตู้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ไม่จำกัดการติดตั้งดอกซับ จำนวน และการออกแบบ มีช่องอากาศสำหรับเข้า/ออกระหว่างผนังตู้ด้านนอก การคำนวณปริมาตรตู้ จะต้องคำนวณทั้ง 2 ส่วน และคำนวณรัศมี และความยาวของท่อร่วมด้วย เป็นตู้ที่ต้องออกแบบตามสูตร หรือคู่มือของซับวูเฟอร์ จะได้รับความนิยมกับนักเล่นเครื่องเสียงที่ต้องการตีแผงซาวน์ดโชว์ มีขนาดใหญ่ ให้เสียงเบสส์นุ่มลึกสามารถออกแบบให้เน้นช่วงความถี่เสียงเบสส์ที่ต้องการได้
นอกจากนั้นแล้ว ตู้ที่มีท่อ สามารถเว้นช่องสำหรับอากาศไหลเข้า/ออกแทนท่อได้ซึ่งจะเรียกว่าตู้เปิด (VENTED) จะให้ลักษณะของเสียงเบสส์ที่แตกต่างไปจากตู้เปิด (PORTED)
วัสดุต่างๆ
การทำตู้ซับวูเฟอร์ เดิมทีจะใช้เฉพาะไม้ ซึ่งไม่จำกัด แต่มาในระยะหลัง จะมีไม้อัดที่ทำออกมาเฉพาะ และนิยมนำมาทำตู้ซับวูเฟอร์ภายในรถ คือไม้ MDF (MEDIUM DENSITY FIBERBOARD) มีความหนา 3/4" ความกว้างxยาว เท่ากับไม้อัดทั่วไปข้อดีคือ ให้เสียงเบสส์นุ่มลึก มีเนื้อหา ราคาไม่สูงมาก การนำมาทำตู้สะดวกและง่ายข้อเสียคือ การออกแบบให้เข้ารูป และโค้งมนจะทำได้ยาก
แผ่น PLEXIGLASS วัสดุใสเหมือนพลาสติค และแผ่นอครีลิคใส เป็นวัสดุอีกประเภทที่นิยมนำมาทำผนังตู้ โดยเฉพาะตู้เปิด และแบนด์พาสส์ ข้อดีคือ นอกจากจะเค้นเสียงเบสส์ได้แล้ว ยังได้ความสวยงาม ข้อเสียคือ การออกแบบให้เข้ารูป โค้งมน จะทำได้ยาก
FRP หรือ GRP (FIBER GLASS REINFORCED PLASTICS) ที่เราเรียกกันว่าไฟเบอร์ หรือไฟเบอร์กลาสส์นั่นเอง เป็นวัสดุที่กำลังได้รับความนิยม โดยเฉพาะตู้สูตรสำเร็จเป็นส่วนผสมระหว่างใยแก้ว (FIBER GLASS) ที่มีลักษณะนุ่มเหนียว กับสารเคมีประเภท POLYESTER RESIN หรือ EPOXY RESIN และตัวเร่งปฏิกริยา ACCELETATOR และตัวทำให้แข็ง CATALYST ซึ่งเป็นสารเคมีมีให้เลือกหลายชนิด ข้อดีคือ ขึ้นรูปได้หลากหลายตามต้องการ ไม่จำกัดรูปแบบ มีความแข็งแรงทนทาน และทำสีให้สวยงามได้ข้อเสียคือ ขั้นตอนการทำยุ่งยาก ต้องระมัดระวังสารเคมี
โลหะ เช่น แผ่นเหล็ก อลูมิเนียม สำหรับเดโมคาร์หลายๆ คัน เน้นรูปแบบความแตกต่างด้วยงานโลหะ อาทิ การนำแผ่นเหล็กปูพื้นโรงงานที่มีลายนูนกันลื่น หรือแผ่นอลูมิเนียมหรือโลหะชุบโครเมียมมันวาวมาตกแต่ง และร่วมออกแบบเป็นผนังตู้ ข้อดีคือ แข็งแรงสวยงามโดดเด่นแปลกตา ข้อเสียคือ มีน้ำหนักมาก การทำยุ่งยาก และอาจเป็นสนิม
เครื่องมือ/อุปกรณ์
ในการทำตู้ซับวูเฟอร์ ต้องมีเครื่องมือเฉพาะ ขึ้นอยู่กับประเภทของวัสดุ เช่น งานไม้ก็ต้องเลือกเครื่องมือสำหรับไม้ งานโลหะต้องเลือกเครื่องมือสำหรับโลหะ หลักๆ จะมีเลื่อยวงเดือน หรือโต๊ะเลื่อย สำหรับตัดชิ้นงานให้ตรง และได้มุมตามต้องการเลื่อยจิกซอว์สำหรับตัดชิ้นงานในแนวโค้ง หรือวงกลม นอกจากนั้นก็มี สว่านไฟฟ้าสำหรับเจาะชิ้นงานไขควงไฟฟ้า ไม้บรรทัด วงเวียน ดินสอ ถ้าเป็นชิ้นงานที่ต้องทำแบบก่อน จะต้องมีกระดาษแข็ง เทป คัทเตอร์ และกรรไกร เพิ่มเติม
วัสดุ และอุปกรณ์ประกอบตู้ ซึ่งจะเป็นขั้นตอนหลังจากที่ได้ชิ้นงานที่จะนำมาประกอบครบทุกชิ้นแล้ว ประกอบด้วย กาวติดไม้ นอท ปืนกาว กาวยาง ขั้วต่อสาย สายลำโพง กรณีที่เป็นตู้เปิด และแบนด์พาสส์ ต้องเตรียมท่อพีวีซี ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวตามสเปค
อุปกรณ์ตกแต่ง จะใช้ในขั้นตอนหลังจากที่ประกอบตู้ซับเสร็จแล้ว อาทิ พรม ไวนิล หนังหรือสีพ่นชิ้นงาน ขึ้นอยู่กับความกลมกลืน หรือโดดเด่นสวยงาม นอกจากนั้นยังมีหัวนอทหลอดไฟเพื่อความสวยงามขณะขับเล่น ขึ้นอยู่กับความชอบครับ
และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ อุปกรณ์เสริมเสียง หรือใยแก้ว ซึ่งจะช่วยให้เสียงเบสส์มีเนื้อหาเป็นลูก มีความนุ่มนวลมากขึ้น ไม่แข็งกระด้าง หรือโปร่ง แต่ในกรณีที่เน้นความสวยงามกับตู้เปิด หรือแบนด์พาสส์ที่ใช้ผนังใส อาจจะไม่เห็นวัสดุซับเสียงนี้ ซึ่งต้องคำนวณตู้โดยเฉพาะ และปรับทูนเสียงเบสส์ให้ลงตัว
การออกแบบ
ในการออกแบบตู้ซับ ถ้าเป็นตู้แบบสี่เหลี่ยมทั่วไป สามารถวัดขนาด และสร้างชิ้นงานได้เลยแต่ถ้าเป็นตู้เข้ามุม ควรทำแบบด้วยกระดาษแข็งก่อน แล้วลองนำไปติดตั้งในตำแหน่งที่ต้องการว่าพอดีหรือเปล่า เพราะหากประกอบขึ้นแล้ว อาจแก้ไขได้ยาก
สิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ ซับวูเฟอร์ที่มีอยู่ ซึ่งส่วนมากจะให้สเปคในการตีตู้มาให้ด้วย โดยจะกำหนดปริมาตร ขนาดท่อ และระดับความดังที่เค้นได้ DB ตรงส่วนนี้คุณจะได้ปริมาตรตู้แต่ละประเภทรัศมี และความยาวของท่อ สำหรับตัวซับวูเฟอร์ จะได้เส้นผ่าศูนย์กลางขอบด้านใน และความลึก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะนำมาออกแบบ
จากนั้นให้กำหนดประเภทของตู้ที่ต้องการ โดยเน้นถึงคุณภาพเสียง และความลงตัวเป็นสำคัญ นั่นหมายถึง สภาพห้องโดยสาร ตำแหน่ง และพื้นที่การติดตั้ง รวมถึงทิศทางของหน้าดอกซับ ว่าจะกำหนดให้หันไปทางไหน เมื่อนำทุกอย่างมาพิจารณาร่วมกันก็จะได้ตู้ซับที่เหมาะสมกับระบบในรถคันนั้น ซึ่งไม่มีรูปแบบตายตัว
การคำนวณปริมาตร
ตู้ซับวูเฟอร์ที่ได้รับความนิยมและตีง่าย เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งมีสูตรการคำนวณปริมาตรไม่ยาก นอกจากนั้นยังมีตู้ซับในทรงเรขาคณิตอื่นๆ ซึ่งมีสูตรการคำนวณแตกต่างกันไป ดังนี้
ปริมาตรสี่เหลี่ยม (RECTANGLE) = กว้างxสูงxลึก
ปริมาตรสามเหลี่ยม (TRIANGLE) = 0.5xสูงxกว้างxลึก
ปริมาตรท่อ (CYLINDER) = 3.14xรัศมีxรัศมีxความลึก
ปริมาตรสี่เหลี่ยมคางหมู (WEDGE) = ความกว้างด้านบน+ด้านล่าง/2xสูงxลึก
ส่วนตู้ที่มีรูปทรงอิสระ การคำนวณค่อนข้างจะยาก ซึ่งหากวัด และคำนวณอย่างละเอียดหรือใช้การแทนที่ ก็ยังได้ปริมาตรไม่แน่นอน การแก้ไขสามารถทำได้ โดยการใส่ใยแก้วมากเป็นพิเศษ ซับวูเฟอร์ก็จะทำงานได้ดีขึ้น แต่ไม่แนะนำกับตู้ที่คำนวณปริมาตรได้
สำหรับการคำนวณอย่างละเอียด จะต้องตัดความหนาของไม้ออกด้วย โดยไม้ MDFจะมีความหนา 3/4" เมื่อหักทั้ง 2 ด้าน จะเท่ากับ 1 1/2" ยกตัวอย่างตู้ปริมาตร 1.0 ลูกบาศก์ฟุต ไม้มีความยาวด้านละ 12" เมื่อตีตู้ขึ้นไม้จะซ้อนกัน 2 ด้าน ทำให้เสียความยาวไป 1 1/2" คุณจะได้ปริมาตรตู้เพียง 12"x12"x(12"-1 1/2") ประมาณ 0.96 ลูกบาศก์ฟุต
อีกเรื่องที่สำคัญคือ การเปลี่ยนค่า หรือแทนค่าตัวเลข โดยปริมาตร 1.0 ลูกบาศก์ฟุต = 12"x12"x12" = 1,728 ลูกบาศก์นิ้ว หรือ 30x30x30 ซม. = 27,000 ลูกบาศก์ซม. ดังนั้นเมื่อคุณออกแบบตู้ และคำนวณได้ความยาวของผนังแต่ละด้าน การหาปริมาตรตู้ว่ากี่ลูกบาศก์ฟุต ทำได้โดยการนำค่าตัวเลขทั้ง 2 หน่วยมาหาร โดยต้องเป็นหน่วยเดียวกันเช่น ผนังตู้ 5"x9"x12" จะได้ปริมาตร 540 ลูกบาศก์นิ้ว ก็จะเท่ากับ 540/1,728 = 0.31 ลูกบาศก์ฟุตผนังตู้ 15x20x25 ซม. จะได้ปริมาตร 7,500 ลูกบาศก์ซม. ก็จะเท่ากับ 7,500/27,000 = 0.28 ลูกบาศก์ฟุต
สร้างชิ้นงานด้วยตัวเอง
การตีตู้ด้วยตัวเอง ผมแนะนำให้เริ่มจากการตีตู้ปิดทรงสี่เหลี่ยมธรรมดา เพราะทำง่ายและการคำนวณไม่ยาก ขั้นแรกคือ การออกแบบ โดยต้องคำนึงถึงขนาดของซับวูเฟอร์หลังจากปริมาตรที่ต้องการ ให้วัดค่าเส้นผ่าศูนย์กลางของขอบซับด้านใน ซึ่งเป็นส่วนที่ต้องวางบนผนังตู้ และยึดนอท ควรให้ความยาวของผนังด้านนี้ ห่างจากขอบซับด้านนอกอย่างน้อยด้านละ 1" จากนั้นให้วัดความลึก จากขอบด้านบนสุดถึงท้ายแม่เหล็ก และผนังตู้ด้านล่างควรห่างจากท้ายแม่เหล็กอย่างน้อย 2" จากนั้นให้หาตำแหน่งติดตั้ง ซึ่งหากไม่เข้ามุมก็ตีเป็นตู้สี่เหลี่ยมธรรมดาได้เลย แต่ถ้าเข้ามุมจะต้องตีเป็นตู้ทรงสี่เหลี่ยมคางหมูสำหรับการวางหน้าซับ จะหันไปทางไหนก็ได้ไม่จำกัด ที่สำคัญไม่ควรหันไปทางมุมอับหรือทำให้กรวย และเซอร์ราวน์ดเสียหาย
เมื่อคุณได้ปริมาตร และความยาวของไม้แต่ละด้าน ก็ลงมือเลื่อยได้เลย ตอนนี้ต้องเริ่มระวังเรื่องอุบัติเหตุ ! โดยการเลื่อยไม้ตรงๆ ยาวๆ ควรใช้เลื่อยวงเดือน หรือโต๊ะเลื่อย จะตรงและเข้ามุมได้พอดี แต่ไม่มีจริงๆ ใช้เลื่อยจิกซอว์ก็ไม่ว่ากัน ส่วนด้านที่ใส่ซับให้ตัดด้วยเลื่อยจิกซอว์ ดังนั้นคุณจะได้ชิ้นงาน 6 แผ่น ด้านล่าง 1 แผ่น ด้านบนที่เจาะช่องวงกลม 1 แผ่น และด้านข้างอีก 4 แผ่น
การประกอบตู้ให้ทากาวติดไม้ หรือกาวลาเทกซ์ที่หน้าไม้ก่อน จากนั้นยึดด้วยนอทที่มีความยาวกินเข้าไปในไม้อีกแผ่นไม่ต่ำกว่า 1/2" อย่างน้อย 3 ตัว ให้ระวังไม่ฉีกแตกหรือหากมีเครื่องยิงตะปูก็ใช้ได้เพื่อความสะดวก แต่ควรยึดนอทอีกด้านละ 2 ตัว จากนั้นให้ยาแนวทั้งหมดด้วยปืนกาว หรือจะใช้ขี้เลื่อยผสมกาวลาเทกซ์ก็ได้ รวมถึงอุดรอยรั่วและแนวที่ไม่เสมอกัน ทั้งด้านในและด้านนอก หากคุณจะใส่ขั้วลำโพง ให้เจาะไม้ในขั้นตอนนี้ได้เลย
ต่อไปเป็นการตกแต่ง เตรียมวัสดุที่ต้องการหุ้ม ตัดขนาดตามความยาวของผนังตู้ โดยจะหุ้มจากขอบท้ายตู้ก่อน ทากาวยางที่ผนังตู้ และชิ้นงาน รอให้แห้งหมาดๆ จากนั้น หุ้มและดึงให้ตึง ใช้ไม้แบนๆ ตบไล่ ให้ทากาวหุ้มไปจนครบ 4 ด้าน คลุมช่องซับไปเลย ก็จะมาชนกับขอบเดิม ปล่อยชายทิ้งไว้ จากนั้นใช้คัทเตอร์ตัดและใช้ไม้ตบให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกันสำหรับช่องซับให้ใช้คัทเตอร์ตัดเช่นกัน ทากาวหุ้มอีก 2 ด้านที่เหลือ โดยปล่อยชายเอาคัทเตอร์ตัด และใช้ไม้ตบให้เนียนเข้ากัน ในกรณีเป็นหนังหรือไวนิล ควรใช้ลูกกลิ้งแทนไม้
ต่อจากนั้นให้นำซับมาวาง และใช้สว่านไฟฟ้าเจาะรูใส่นอท หากไม่ใส่ขั้วลำโพงให้หาตำแหน่งเจาะช่องร้อยสายในขั้นตอนนี้ จากนั้นจึงเดินสายลำโพง อัดใยแก้วประมาณ 50-80 % และใส่ซับยึดนอทได้ นำตู้ซับไปวางในตำแหน่งที่ต้องการ และปรับทูนเสียงเบสส์ตามต้องการ
สรุป
การออกแบบตู้ซับเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน แต่การทำตู้เองก็เป็นเรื่องที่สนุก ที่สำคัญจะต้องได้เสียงเบสส์ที่กลมกลืนสมจริง และติดตั้งในรถได้อย่างลงตัว สำหรับนักเล่นที่อยากลองตีตู้เอง ผมเอาใจช่วยให้ได้เสียงเบสส์ตามต้องการครับ
ABOUT THE AUTHOR
ช
ชูศักดิ์
ภาพโดย : อินเตอร์เนทนิตยสาร 409 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2549
คอลัมน์ Online : พิเศษ(cso)