JOSEPH McMANNERS

ศิลปิน : JOSEPH McMANNERS อัลบัม : IN DREAMS แนวดนตรี : CLASSIC POP "อัจฉริยะเสียงใสวัย 12 ขวบ" นานๆ ในแวดวงดนตรีจะมีศิลปินเด็กออกมาให้ได้ฟังกัน เท่าที่มีบทเพลงสำหรับเด็กออกมาก็จะเป็นการทำเพลงของผู้ใหญ่ ร้องและทำดนตรีเพื่อให้เด็กๆ ฟัง โดยเนื้อหาก็จะฟังง่ายดนตรีออกสนุกสนาน แต่สำหรับอัลบัมชุดนี้ เป็นการทำดนตรีสำหรับศิลปินเด็ก เพื่อให้ฟังกันได้ทุกเพศทุกวัย JOSEPH McMANNERS เด็กน้อยวัย 12 ขวบ ที่มีพรสวรรค์ในการร้องเพลง หลายๆ คนได้ให้ฉายาเขาว่าเป็น IL DIVO ตัวน้อย ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่เจ้าหนูอยู่ในวัยเพียง 8 ขวบและได้ร่วมร้องเพลง TITANIC ในงานรวมญาติของครอบครัว ทำเอาหลายๆ คนที่พบเห็นถึงกับทึ่งในความสามารถ ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ผิดเพี้ยน จังหวะและทำนองแม่นยำเกินเด็กจากนั้นเขาก็เริ่มฉายแวว โดยได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวของเขาเป็นอย่างดี IN DREAMS เป็นอัลบัมแรก ที่ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่มองอนาคตไกลของ JOSEPH McMANNERS เอาไว้ นับว่าเร็วมาก หากเปรียบเทียบกับศิลปินโดยทั่วไป เพราะหลังจากที่เขาฝึกฝนอีกเพียง 4 ปี ก็ได้ออกอัลบัม ต้องถือว่าเป็นโอกาสดี ที่วงการดนตรีเปิดเส้นทางสายดนตรีให้กับเด็กๆ ซึ่งยากที่จะเลียนแบบ และเด็กๆ ยังนำบทเพลงในอัลบัมชุดนี้ไปร้องกันได้อีกด้วย สำหรับอัลบัมชุดนี้ ได้ทำแนวดนตรีออกมาในแบบ CLASSIC POP ซึ่งจริงๆ เป็นเรื่องยากสำหรับเด็กวัยเพียง 12 ขวบ แต่สำหรับ JOSEPH McMANNERS ตั้งใจร้องออกมาได้อย่างดี โดยชุดนี้มีด้วยกัน 13 แทรค อย่าง IN DREAMS, CIRCLE OF LIFE โดยเฉพาะ LULLABY ที่หลายคนเคยได้ยินกัน นอกจากนั้นยังเพิ่มโบนัสแทรคให้อีก 1 เพลง คือ THE SALLY GARDENS ซึ่งทุกแทรคฟังสบายๆ ในแบบคลาสสิค กับเสียงใสๆ ของเด็กที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี   ศิลปิน : BARRY MANILOW อัลบัม : THE GREATEST SONG OF THE FIFTIES แนวดนตรี : VOCAL POP "รวมเพลงแห่งความทรงจำในยุค 50'S" BARRY MANILOW ศิลปินนักร้อง VOCAL POP ที่อยู่ในใจของนักฟังเพลงรุ่นใหญ่หลายๆ คน คงจะจำกันได้กับผลงานก่อนหน้านี้ THE ESSENTIAL BARRY MANILOW ที่เคยแนะนำกันไป ซึ่งเป็นอัลบัมรวบรวมผลงานคุณภาพของเขาเอาไว้หลายเพลง แต่สำหรับอัลบัมนี้ เป็นความพิเศษในอีกรูปแบบหนึ่ง THE GREATEST SONG OF THE FIFTIES เป็นการรวบรวมผลงานที่ได้รับความนิยมเฉพาะในยุค 50'S เท่านั้น ซึ่งได้คัดสรรทั้ง 13 บทเพลง ตั้งแต่ปี 1953-1959 มาให้แฟนเพลงตัวจริงได้เก็บสะสมกัน เฉกเช่นกันอัลบัม AMERICAN CLASSIC SONGBOOK ของ ROD STEWART ที่ประสบความสำเร็จมากทีเดียว กับแฟนเพลงของเขา จนติดอันดับ 1 ใน BILLBOARD ALBUM CHART ทั้ง 13 แทรค มีบทเพลงตั้งแต่ปี 1953 คือ RAGS TO RICHES ซึ่งเป็นเพลงเดียวแห่งปีตามด้วย YOUNG AT HEART อยู่ในปี 1954 และเพลงที่ได้รับความนิยมจากปี 1955 มีด้วยกัน 4 แทรค คือ UNCHAINED MELODY, LOVE IS A MANY SPLENDORED THING, SINCERELY/TEACH ME TONIGHT (DUET WITH PHYLLIS McGUIRE) และ BEYOND THE SEA บทเพลงแห่งปี 1957 นำมารวมในอัลบัมเพลงเดียว คือ IT'S NOT FOR ME TO SAY เช่นเดียวกับ IT'S ALL IN THE GAME ในปี 1958 และที่ได้รับความนิยมจากปี 1959 อีก 5 เพลงคือ MOMENTS TO REMEMBER, VENUS, ARE YOU LONESOME TONIGHT ?, ALL I HAVE TO DO IS DREAM และ WHAT A DIFF'RENCE A DAY MADE ซึ่งบางเพลงอาจมีการนำมาทำดนตรีใหม่กันก่อนหน้านี้ แต่สำหรับซาวน์ดเดิมๆ ในอัลบัมชุดนี้ ก็ยังคงอยู่ในใจของใครหลายๆ คน   ศิลปิน : VARIOUS ARTISTS อัลบัม : DIFFERENT STROKES BY DIFFERENT FOLKS แนวดนตรี : FUNK "อัลบัมเพื่อวงรุ่นเก๋าในยุค 60'S" SLY & THE FAMILY STONE กลุ่มศิลปิน FUNK ที่ประสบความสำเร็จในยุค 60'S และมีอิทธิพลต่อกลุ่มนักดนตรี ROCK/JAZZ/R&B/HIP HOP ในปัจจุบัน จนเป็นที่มาของอัลบัมชุดนี้ โดยกลุ่มศิลปินที่ชื่นชอบผลงานของพวกเขา ได้ร่วมกันนำผลงานในอดีตมาทำเป็นอัลบัมชุดนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งได้นำไปแสดงบนเวทีประกาศรางวัลแกรมมี จนทำให้หลายคนต้องนึกถึงความเก๋าที่ไม่เคยเลือนหาย อัลบัมชุดนี้ได้รวบรวมผลงานของพวกเขา และถ่ายทอดจากศิลปินที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันมากมาย มีด้วยกัน 14 แทรคประกอบด้วย DANCE TO THE MUSIC (WILL.I.AM), EVERYDAY PEOPLE (MAROOM 5), STAR (THE ROOTS), RUNNIN' AWAY (BIG BOI/SLEEPY BROWN & KILLER MIKE), FAMILY AFFAIR (JOHN LEGEND AND JOSS STONE W/VAN HUNT), (YOU CAUGHT ME) SMILIN' (SCAR/CEE-LO GREEN/BIG BOI & DJ SWIFF) และ IF YOU WANT ME TO STAY (DEVIN LIMA) นอกจากนั้นยังมี I GET HIGH ON YOU (THE WYLDE BUNCH), LOVE CITY (MOBY), YOU CAN MAKE IT IF YOU TRY (BUDDY GUY & JOHN MAYER), SING A SIMPLE SONG (CHUCK D/D'ANGELO & ISAAC HAYES), I WANT TO TAKE YOU HIGHER (STEVEN TYLER WITH ROBERT RANDOLPH), DON'T CALL ME NIGGER, WHITEY (NAPPY ROOTS FT. MARTIN LUTHER) และ THANK YOU RHYTHM NATION 1814 (JANET JACKSON & DJ RESET) ที่น่าทึ่งเห็นจะเป็นแทรค 3 กับ STAR ที่ THE ROOTS นำซาวน์ดเก่าๆ ในยุค 60'S มาใส่ในช่วงต้นเพลงให้ฟังกัน และแทรค 10 YOU CAN MAKE IT IF YOU TRY ที่ JOHN MAYER แสดงฝีมือขยี้กีตาร์ได้อย่างสะใจ อัลบัมชุดนี้จัดเป็นดนตรี FUNK ที่มีความหลากหลายของดนตรี ROCK/JAZZ/R&B/HIP HOP ผสมอยู่ด้วย โดยศิลปินแต่ละคนต่างถ่ายทอดในแบบของตัวเองได้อย่างกลมกลืน   ศิลปิน : SCOTT STAPP อัลบัม : THE GREAT DIVIDE แนวดนตรี : HARD ROCK "ดนตรีหนักๆ กับเนื้อหากระชากใจ" SCOTT STAPP ประสบความเร็จอีกครั้ง หลังจากที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ร่วมกับเพื่อนๆตั้งแต่ปี 2001ในอัลบัม WEATHERED และโซโลอัลบัมของเขาได้คลอดออกมาหลังจากนั้นไม่กี่ปี โดยในปี 2004 วงการดนตรี ROCK กับรอคเกอร์ทั้งหลายต่างให้การต้อนรับ CREED โซโลอัลบัมแรกของเขาเป็นอย่างดี นอกจากตัวเขาเองจะขึ้นมาเป็นศิลปินในแนวหน้าแล้ว เขายังเขียนเพลงเองอีกด้วยทำให้เขาร้อง และถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และแต่ละเพลงที่เขาเขียนนั้น มีความหมายชัดเจน เข้าใจได้ง่าย ทำให้เข้าถึงกลุ่มคนฟังทันทีที่ได้ฟังในครั้งแรกอย่าง THE GREAT DIVIDE ชื่อเดียวกับอัลบัม ที่เน้นตรงเนื้อหา และมีดนตรีไม่หนักมากให้เสียงกีตาร์ส่งความรู้สึกเป็นช่วงๆ สำหรับ THE GREAT DIVIDE เป็นอัลบัมล่าสุด ที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ในการอยู่ร่วมกันของมวลมนุษยชาติ มีด้วยกัน 10 แทรค ซึ่งแต่ละแทรคจะเต็มไปด้วยความหนักหน่วงของดนตรีในแบบ HARD ROCK เสียงร้องแตกพร่า และกีตาร์หนักๆ การสับคอร์ดในแบบ ALTERNATIVE ที่เคยได้รับความนิยมในบ้านเรามาแล้ว เปิดแทรคแรกได้หนักหน่วงกับ REACH OUT ที่มีกีตาร์ริธึม และลูกโซโลที่รวดเร็วเหมือนแนว SPEED แต่ก็ดึงจังหวะลงมาหนักๆ ในแบบ HARD ROCK แทรคที่ 3 และ HARD WAY กับ JUSTIFY เขาเน้นสีสันด้วยซาวน์ดแปลกๆ ในตอนขึ้น และปิดท้ายด้วย BROKEN กับจังหวะกระชาก เบียดเสียงร้อง ที่ทำให้รู้สึกถึงความหนักของเนื้อหารวมถึงอีกหลายแทรค ที่มีความเข้มข้นไม่แพ้กัน ถึงวันนี้ เขาคิดว่าตัดสินใจได้ถูกแล้ว ที่เดินออกมาทำโซโลอัลบัม เปิดเส้นทางสายดนตรี ROCK ของเขาได้อย่างงดงาม เหมือนอย่างความหมาย ที่เคยเชื่อมั่นว่าจะมุ่งมั่นก้าวเดินต่อไป ถึงตอนนี้ ยังเข้าใจความหมายของการให้ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งรอคเกอร์ทั้งหลายพร้อมตอบรับ