ซูเพอร์แมนลาโลก

ผมเคยสร้างหนังไทยเรื่องหนึ่งเมื่อ 49 ปีที่แล้ว (ปี '98) ชื่อเรื่อง "ยอดคน" พระเอกของผมคือ คุณเกชา เปลี่ยนวิถี เป็นบทประพันธ์ของ "อรวรรณ" เข้าฉายที่โรงภาพยนตร์ควีนส์ หลังวังบูรพา "ยอดคน" ถ้าแปลเป็นภาษาอังกฤษเรื่องนี้ก็น่าใช้ชื่อว่า "SUPERMAN" ของฮอลลีวูดนั่นทีเดียว ซูเพอร์แมนฝรั่งนั้น ศิลปินที่มาแสดงคือ คริสโตเฟอร์ รีฟ (CHRISTOPHER REEVE) ชายหนุ่มคนนี้เกิดเมื่อวันที่ 25 กันยายน 1952 ที่มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2004 ที่สถานพยาบาลเมาน์ท คิสโก (MOUNT KISCO) นิวยอร์ค ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว พิสูจน์สัจธรรมอันหนึ่ง แม้แต่เหนือมนุษย์หรือยอดคนอย่างซูเพอร์แมน ถ้าหัวใจหยุดเต้นซะอย่างเดียว-ตายแหงแก๋ คริสโตเฟอร์ รีฟ มีชีวิตที่ผูกพันกับโลกเซลลูลอยด์หลายเรื่องหลายปี นับส่วนที่เขาแสดงแล้วก็มากถึง 39 เรื่อง (จำนวนนี้ถือว่ามากของระดับอินเตอร์ แต่ระดับ มิตร-เพชรา ของเราแค่นี้ถือว่ารายปักษ์ครับ) ล่าสุดของรีฟ เป็นการลำดับภาพจากแฟ้มเดิมชื่อ "REPLICA" สร้างหลังจากรีฟอัดเสียงบรรยายลงไปในหนังทีวี "TOUGHEST BREAK: MARTIN'S STORY, THE" ฟแรงคลิน รีฟ (FRANKLIN REEVE) บิดาของ คริสโตเฟอร์ เป็นศาสตราจารย์และเป็นนักเขียนหนังสือ ขณะที่ บาร์บารา จอห์นสัน (BARBARA JOHNSON) มารดาเป็นนักหนังสือพิมพ์ เมื่อเขาอายุ 4 ขวบ บิดากับมารดาจำต้องแยกทางกันเดิน เขากับพี่ชายได้มาอยู่กับมารดาที่พรินสตัน นิวเจอร์ซีย์ การศึกษาระดับประถม เรียนที่โรงเรียนพรินสตัน เดย์ (PRINCETON DAY SCHOOL) ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อเขาอายุ 8 ขวบ สามารถเล่นเพียโนให้กับโรงเรียนได้ หลังจากนั้นอีกแปดปี เมื่อเขาอายุ 16 ปี รีฟก็ทุ่มเทชีวิตให้กับการแสดงเพียงด้านเดียวประกอบกับพรสวรรค์ที่เขาได้มาแต่เกิด ทำให้เขามีเอเยนต์ตั้งแต่ในตอนนั้น การศึกษาระดับมหาวิทยาลัย รีฟได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ (CORNELL UNIVERSITY) คณะดนตรีและภาษา (MUSIC AND ENGLISH) แม้ต้องเป็นนักศึกษา แต่รีฟก็ยังไม่ทิ้งสาขาการแสดง เขาปลีกเวลาไปเรียนการแสดงที่โรงเรียนจูเลียด ในนิวยอร์ค และเป็นนักเรียนชั้นเดียวกับ ศิลปินนักแสดงที่ชื่อ โรบิน วิลเลียมส์ (ROBIN WILLIAMS) ชีวิตการแสดงของคริสโตเฟอร์ รีฟ เริ่มเมื่อปี 1978 โดยเขารับบทเป็น ซูเพอร์แมน ถือเป็นการแสดงภาพยนตร์เรื่องที่สามของชีวิต โดยเรื่องแรกเป็นหนังทีวี-หนังชุดเป็นตอนๆเรื่อง "LOVE OF LIFE" ต่อมาในปี 1978 ก็เล่นหนังใหญ่ชื่อ GRAY LADY DOWN ซูเพอร์แมนเป็นหนังที่ได้รับความสนใจจากคนทั้งโลก เพียงเรื่องเดียวเท่านั้นโลกก็อยู่แทบเท้าของเขา คริสโตเฟอร์ รีฟ เล่นได้อย่างเหมาะสม เป็นซูเพอร์แมนตัวจริง เป็นยอดคนอย่างแท้จริงจนไม่มีใครจะลอกเลียนแบบได้ หลังจากรับบทซูเพอร์แมน รีฟเล่นหนังอีกเรื่องก่อนจะมาเป็น ซูเพอร์แมนภาคสอง ในปี '80 ซึ่งก็โกยเงินทุกแห่งที่เข้าฉายเพราะแฟนหนังคลั่งไคล้เขาเสียแล้ว เป็นอันว่า รีฟเล่นเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย เขาอุตส่าห์แหวกบทมากมาย หลายเรื่องแต่ก็ไม่ได้รับความสนใจราวกับว่าชื่อของเขา คริสโตเฟอร์ รีฟ ไม่มีอำนาจเท่ากับคำว่า ซูเพอร์แมน หลังจากปี '80 เขาเล่นหนังไป 4 เรื่อง มีพอจะทำเงินได้ก็เพียงเรื่องเดียวคือ SOMEWHERE IN TIME เขารับบท ริชาร์ด คอลิเออร์ จนเขากลับมารับบท ซูเพอร์แมน 3 อีกครั้งในปี '83 ชื่อของเขาจึงยังคงอยู่ในความทรงจำของคนดูหนังและคนที่รักหนัง ซูเพอร์แมน เดินเรื่องมาถึง 3 ภาค ใครก็คิดว่าน่าจะเลิกสร้างกันได้แล้ว แต่ความดังของรีฟยังทำให้เรื่องนี้จบไม่ลง จำเป็นต้องมีภาคที่ 4 ซึ่งเกิดขึ้นในปี 1987 ชื่อของภาคที่ 4 คือ "SUPERMAN IV: THE QUEST FOR PEACE" เป็นภาคสุดท้ายในชีวิตของเขา ในปี 1992 เขาสมรสกับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ ดานา โมโรซินี (DANA MOROSINI) มีบุตรชายด้วยกันคนหนึ่งชื่อ วิลล์ ซึ่งมีพี่ชายต่างมารดาอีกสองคนคืออเลกซานดรา และแมทธิว อันเกิดจาก เก เอกซ์ตัน (GAE EXTON) พวกเขาอยู่ที่เมืองอังกฤษ คริสโตเฟอร์ รีฟ นอกจากเล่นหนังแล้ว เขายังเล่นกีฬาอีกหลายประเภท เขาชอบการเล่นสกี เล่นสเกทน้ำแข็ง ชอบการขี่ม้าแบบบังคับ ชอบการบิน และสุดท้ายที่เขาโปรดปรานมากเป็นพิเศษ คือชอบเล่นกับ วิลล์ ลูกชายของเขา ในปี 1995 ขณะที่เขาแข่งเกมการขี่ม้าแบบบังคับที่ คัลเพเพอร์ เคาน์ทรี (CULPAPER COUNTRY) ในรัฐเวอร์จิเนีย คริสโตเฟอร์ รีฟ ก็ประสบอุบัติเหตุตกจากหลังม้าของเขาเองเพราะอีสเทิร์น เอกซ์เพรสส์ ม้าของเขาไม่ยอมกระโจนข้ามเครื่องกีดขวางอันที่สาม ทำให้เขากลายเป็นอัมพาตแต่นั้นมา วันนั้นคือ วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม 1995 และเขาต้องสู้กับชีวิตด้วยความเพียรอย่างสูงมาเป็นเวลาถึง 9 ปี จนกระทั่งพ่ายแพ้ให้กับมันในปี 2004 ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว การต่อสู้ของเขาเป็นที่เลื่องลือ และเกิดความศรัทธาแก่มวลมนุษย์ทั่วไป รีฟพยายามให้คนทั้งโลกเกิดความมานะเพื่อสู้กับโรคร้ายที่ทรมานร่างกายอันนี้ เขาพยายามสู้กับมันด้วยหัวใจของความเป็นนักกีฬาในอดีต ความพยายามครั้งหนึ่งที่ถือว่าเป็นสุดยอดของความพยายามก็คือ เมื่อเขาอายุได้ 50 ปี ตรงกับปี 2002 หรือเมื่อสองปีที่ผ่านมานั้น รีฟพยายามบังคับตนเองเดินไปกอด วิลล์ ลูกชายของเขาและถือว่าเป็นความสำเร็จในการต่อสู้ นอกจากเป็นนักแสดงแล้ว คริสโตเฟอร์ รีฟ ยังเป็น ผู้กำกับการแสดง ผู้อำนวยการสร้างกรรมกรโรงถ่าย และผู้เขียนบทภาพยนตร์ ชีวิตของยอดคน สมบูรณ์ลงด้วยประการฉะนี้