เทคนิค(car)
ที่สุดแห่งของโชว์
เจ้าของรถ บีเอมดับเบิลยู เอม 3 ปี 1995 คันนี้ชื่อ สตีฟ บราวน์ (STEVE BROWN)
รถคันก่อนของเขาคือ อคูรา เลเจนด์ ถูกขายไปก่อนจะถอย เอม 3 คันใหม่นี้ออกมา
บราวน์ตื่นเต้นมากกับรถใหม่ และหลังจากใช้งานมา 5 ปีเขาก็วางแผนให้ทางสำนักงานใหญ่ของเครื่องเสียง ALPINE จัดการแต่งเครื่องเสียงใส่รถคันนี้ซึ่งต้องเป็นรุ่นที่ดีที่สุดเท่านั้น เป้าหมายของบราวน์ก็คือ ต้องมีระบบที่ง่ายและให้เสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพเกินกว่าความเป็นธรรมดา สามารถแข่งขันกับผู้อื่นได้
แผงหน้าปัดใหม่
ภายในตัวรถทั้งหมดถูกเปลี่ยนให้แตกต่างจากของเดิม ที่หลงเหลือเป็นของเดิมติดรถอยู่ก็คือ แผงบุด้านในของหลังคา รวมทั้งถอดแก้มข้าง ฝากระโปรงหน้า และกระจกบังลมหน้าออก คริส ยาโต (CHRIS YATO) เพื่อน และบิกบอสส์ของ ALPINE
กับบราวน์ใช้เวลาร่วมเดือนในการวิจัยหาตำแหน่งในการติดตั้งลำโพง และดูว่าจะทำอะไรกับรถบ้างโดยเขาตัดสินใจติดตั้งลำโพงมิดเบสส์ไว้ที่ด้านหลังแผงหลัง KICK PANEL ที่ๆของเดิมติดรถมาไม่มีโพรงสำหรับติดตั้งลำโพงมาให้ ทำให้บราวน์ และเพื่อนต้องทำตู้ขนาดปริมาตร1/3 ลูกบาศก์ฟุต ที่ทำขึ้นจากเหล็กขนาด 1/8" แล้วเชื่อมติดกับบริเวณหลังแก้มข้างเพื่อติดตั้งลำโพงมิดเบสส์ขนาด 6" ALPINE รุ่น SPX-F 17 T แล้วใช้เหล็กเจาะรูเบอร์ 16 มาคลุมข้างในพรมโปร่งแสงอคูสติค เพราะซ่อนไว้ในแก้มข้าง ทำให้ไม่มีใครรู้ว่ามีตุ้ลำโพงอยู่ข้างในนั้น สำหรับไฮเอนด์ได้ติดตั้งทวีเตอร์ไว้ข้างในเสาเอ ด้านหน้าด้านหลังแผง PANEL ประกบปิดซึ่งในขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาหลายวัน เพื่อหาตำแหน่งในการติดตั้งที่เหมาะสม
ขั้นตอนต่อไปเป็นการทำแผงหน้าปัดใหม่ โดยต้องให้มีความสมมาตรกันทั้งสองด้าน
ขั้นตอนนี้กินเวลานานที่สุด เพราะต้องย้ายอุปกรณ์ชิ้นส่วนหลายรายการที่ติดรถมา
แป้นยึดคอพวงมาลัยจากเดิมที่ติดรถมาอยู่ฝั่งขวา ก็จัดการย้ายมาอยู่ทางฝั่งซ้าย วัสดุต่างๆทั้งไม้ MDF ไฟเบอร์กลาสส์ มาร์กลาสส์ โพลีพไรเมอร์ และสี นำมาใช้เพื่อทำเป็นโครงร่างแผงหน้าปัดขึ้นมา พวกเกจวัดต่างๆ จากเดิมที่อยู่ด้านหลังพวงมาลัย จัดการย้ายมาอยู่ตรงกลางของรถพอดี ด้านหลังมาตรวัดต่างๆ ทำเป็นที่ยึดลำโพง ALPINE SPX ขนาด 4"2 ตัวที่ช่องตรงกลาง ด้วยมาตรวัด ลำโพง และระบบระบายอากาศในจุดเดียวกัน ในส่วนของระบบระบายอากาศทั้งละลายฝ้า ฮีเตอร์ และท่อแอร์ ต้องเอาของยี่ห้อฮันเดมาใส่ เพราะมีขนาด และรูปร่างที่เล็กกว่าของเดิมที่ติดรถมา แผงหน้าปัดทั้งหมดหุ้มด้วยหนังสีดำ
ข้างใต้ชุดมาตรวัด เป็นที่ติดตั้งวิทยุ ALPINE CDA-7990 เพื่อให้มองเห็นได้ง่าย และ
ใช้งานได้สะดวก เข้ากับหลักสรีรศาสตร์ของแผงหน้าปัด ไฟในวิทยุเปลี่ยนเป็นสีแดง
อำพัน ด้านล่างวิทยุเป็นมอนิเตอร์ขนาด 6.5" ของ ALPINE รุ่น TME-M 750 A 2 ตัว
จอหนึ่งไว้ใช้กับระบบนำทาง ส่วนอีกจอไว้ใช้ดูวีดีโอ ข้างใต้จอมอนิเตอร์เป็นชุดแผงควบคุมระบบระบายอากาศ ตรงแผงคอนโซลกลางพ่นด้วยสีเงิน เพื่อให้เข้ากับสีด้านนอกของตัวรถส่วนทางด้านล่างของคอนโซลกลาง เป็นที่รวมของสวิทช์หน้าต่าง ไฟฉุกเฉิน และที่จุดบุหรี่ที่ทางด้านหลังคันเกียร์
ซับวูเฟอร์ของ ALPINE รุ่น SWR-1040 D แบบ R ขนาด 10" ติดตั้งไว้ใต้แผงหน้าปัด
เหนือที่วางเท้าฝั่งผู้โดยสาร โดยติดตั้งในตู้ขนาด 5 ลูกบาศก์ฟุต ยึดติดกับแป้นใต้คอนโซลโดยมีผ้าอคูสติคโปร่งแสง และแผ่นเหล็กเจาะรูเบอร์ 16 เป็นตัวยึดฝาครอบลำโพง คอยป้องกันวูเฟอร์ด้านหน้าของวูเฟอร์เป็นเกจมิเตอร์สีเงิน 4 อัน แสดงโวลเทจ ระดับน้ำมัน บูสต์ และนาฬิกา
แม้ว่าที่ประตูจะไม่ได้ติดตั้งลำโพงอะไร แต่บราวน์ และเพื่อนก็ได้จัดการทำแผงประตูขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่แผงหน้าปัดไล่ไปจนถึงประตูคลุมปิดด้วยหนังสีดำ ทางด้านล่างของประตูแกะแผ่นPLEXIGLASS เป็นโลโก ALPINE
คอนโซลแนวอนาคต
ส่วนหน้าของคอนโซลกลาง ทำเป็นที่ยึดรีโมทคอนโทรล ALPINE หล่อขึ้นเป็นเบ้า ดูราวกับเป็นส่วนหนึ่งของคอนโซล ด้านหลังรีโมทเป็นแผ่นปิดที่หุ้มด้วยหนัง ปกปิดปุ่มต่างๆที่ควบคุมระบบภาพ และเสียง เช่น เพาเวอร์ของมอนิเตอร์ นีออน และพัดลมระบายความร้อนแอมพ์มีไฟ LED สว่าง บอกสถานะการทำงานของมอนิเตอร์
ทางตอนบน และด้านข้างของกล่องฟิวส์เป็นชุดแอมพ์ ตั้งแต่ประตูไล่ตกแต่งด้วยสีเงิน ไปจนถึงส่วนหลังของรถ และชุดแอมพ์ V 12 ของ ALPINE 4 ตัว โดยเป็น รุ่น MRV-T 707 2 ตัว และรุ่น MRV-F 407 อีก 2 ตัว แป้นยึดแอมพ์ทำจากท่อเหล็กเหลี่ยมที่หนักไม่ถึง 5ปอนด์ เป็นแรคยึดแอมพ์แล้วยึดติดเข้ากับตัวรถด้วยกาวบอนดิง ที่ด้านหลังแอมพ์แต่ละตัวมีพัดลมระบายความร้อน 2 ตัว เพื่อให้แน่ใจว่าใช้นานแค่ไหนก็จะไม่ร้อนเกิน ที่ระหว่างแอมพ์ทั้ง 4 ตัวเป็นเครื่องเล่น DVD โมบายล์ของ ALPINE รุ่น DVA-5205 และจอมอนิเตอร์ขนาด 6.5" รุ่น TME-M 750 A เพื่อไว้ดูหนัง ทางด้านบนของชุดแอมพ์เป็นที่ติดตั้งลำโพงมิดขนาด 4" และทวีเตอร์ของ รุ่น SPX ทางด้านซ้าย และขวาของเรียร์เดค โดยมีการป้องกันเช่นเดียวกับลำโพง 6" และซับวูเฟอร์ทางด้านหน้า
จัดวางเต็มพื้นที่
ชุดโพรเซสเซอร์ ALPINE PXA-H 900 เป็นสมองกลของระบบ ด้วยการป้อนข้อมูล
ผ่านทางพีซีคอมพิวเตอร์ เช่น ครอสส์โอเวอร์แบบ 11 แชนแนล ตัวเชคเวลา อีควอไลเซอร์175 แบนด์ 1/3 ออคเทฟ ตัวเลือกเฟส และอื่นๆ มีหลายอย่าง โพรเซสเซอร์ถอดรหัสดอลบีโพรลอจิก/ดอลบี ดิจิทอล/DTS/HDCD และ MPEG จอสำหรับโพรเซสเซอร์ ติดตั้งในแผงหลังคาข้างหน้าซันรูฟพอดี
แบทเตอรีเปลี่ยนเป็นแบบเฮวีดิวที ส่วนด้านใต้เป็นเบรเกอร์ของ PHOENIX GOLD
2 ตัว ตัวหนึ่งไว้สำหรับระบบ ส่วนอีกตัวไว้ใช้ตัดไฟในรถ ในแต่ละฝั่งของห้องเก็บของด้านหลัง เป็นซับวูเฟอร์ของ ALPINE แบบ R รุ่น SWR-1240 ในตู้แบบพอร์ท ซึ่งวูเฟอร์เหล่านี้ไว้ใช้สำหรับ SPL ฝาครอบทำจากแผ่นเหล็กเจาะรูขนาด 1/8" และไฟเบอร์กลาสส์
พวงมาลัยโมโม และหัวเกียร์ถูกเปลี่ยนแทนรุ่น M ของเดิมจากโรงงาน ที่พวงมาลัย
รวมเอาปุ่มควบคุมการใช้งานเครื่องเสียงมาไว้ เพื่อให้ใช้งานได้ในขณะที่มือยังจับ
พวงมาลัยอยู่ ทางด้านบนของพวงมาลัย เป็นจอมอนิเตอร์บอกสถานะการทำงานของ
นีออน พัดลม คุณภาพเสียง หรือ SPL MODE และอื่นๆ
ล้อรถเปลี่ยนเป็นของ MVR รุ่นแมกนัม ขนาด 19" กับยางโตโย รุ่น T1-Sขนาด 235/35-19 ไฟท้าย และไฟเลี้ยวเปลี่ยนเป็นแบบเลนส์ใสสไตล์ยุโรป ส่วนไฟหน้า
ก็เปลี่ยนเป็นสไตล์ยุโรปเช่นกัน หลอดไฟหน้า และไฟตัดหมอกเป็นชุด HID
ของ PHILLIPS เพื่อทัศนวิสัยยามค่ำคืนที่ดีขี้น กันชนพ่นเป็นสีเงินให้เหมือนกับตัวรถ
ในห้องเครื่องยนต์ได้ติดตั้งชุดซูเพอร์ชาร์จ RMS และท่อไอเสีย DTM เพื่อเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์ รวมทั้งชุดอินเตอร์คูเลอร์ RMS ด้วย ทำให้กำลังเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 50 แรงม้าเบรคได้เปลี่ยนเป็นเบรมโบขนาดใหญ่ 14.1" และท่อเบรคแบบปลอกถักด้วยเหล็ก
และก็เป็นอย่างที่บราวน์ตั้งใจเอาไว้ก่อนที่จะแต่งเครื่องเสียงใส่รถคันนี้ เอม 3 ของ
เขาได้คว้ารางวัล "ที่สุดแห่งของโชว์" จากงานแสดง CES 2001 มาได้ รวมทั้งได้ที่
1 จากงาน IASCA ที่สวนสาธารณะสปริงเบรค ที่สำคัญรถของบราวน์คันนี้เป็นจุดเด่น
ราวกับเป็นพระเอกของงานไปเลย เพราะมีผู้คนหลั่งไหลมารุมดูรถคันนี้ของเขา ทำให้
บราวน์ปลี้มจนแทบจะลืมไปว่าที่เขามาดูนั่น เขามาดูรถ ไม่ใช่มาดูตัวบราวน์
เรื่องโดย : วิโชค
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2545
คอลัมน์ Online : เทคนิค(car)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/53765