เทคนิค(car)
การต่อเล่นแบบ TRI-MODE
สำหรับคอลัมน์เกี่ยวกับเทคนิค ซึ่งผมตั้งใจมานานแล้วว่าอยากจะนำเรื่องของซิสเตมแบบ TRI-MODE หรือบางครั้งก็ เรียกว่า STEREO MIX MONO (3 แชนแนล) ซึ่งเป็นเทคนิคง่ายๆ สามารถทำได้โดยการใช้เพาเวอร์แอมพ์ 2 แชน แนล 1 ตัว หรืออาจจะเป็น 4 แชนแนลก็ได้นะครับ ในรูปแบบที่ผมกำลังจะคุยกับแฟนๆ
ที่จริงแล้วเทคนิคแบบ TRI-MODE นี้เป็นเทคนิคที่เกิดขึ้นมานานพอสมควร เป็นกลยุทธ์อันหนึ่งของเจ้าของรถ หรืออาจเป็นของนักเลงเครื่องเสียงที่อยากจะพิสูจน์ฝีมือของตัวเองว่า ถ้ามีแค่เพาเวอร์แอมพ์ 2 แชนแนล 1 ตัว สามารถสร้างซิสเตมที่มีคุณภาพเสียงแบบ SOUND QUALITY ได้หรือไม่
และเมื่อตอนผมไปอบรมกับฟรอนท์ค่ายยักษ์ ที่ประเทศ มาเลเซีย เมื่อ 2 ปีที่แล้ว การอบรมนี้มีวิทยากรชาวต่างชาติที่เป็นมืออาชีพบอกว่า เทคนิค TRI-MODE ใน สหรัฐอเมริกา เกิดจากเจ้าของรถที่มีทุนน้อยมักจะนิยมติดตั้งเครื่องเสียงด้วยตนเอง (DIY) คำเต็มบอกว่า DO IT YOUR SELF ต้องการจะรีดประสิทธิภาพ และพลังแบบคุ้มค่าเกินราคาและต้องใช้แอมพ์ที่มีอยู่ตัวเดียว 2 แชนแนล ขับลำโพงแซเทิลไลท์ สเตริโอด้านหน้า และโมโนเบสส์ ด้วยการใช้ซับแค่1 ตัว จะติดตั้งในตู้หรือแขวนลอยก็แล้วแต่นะครับ
การเล่นแบบ TRI-MODE ในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นนักเล่นเครื่องเสียง หรือร้านติดตั้ง มักจะร้อง "ยี้" เพราะคิดว่าแค่แอมพ์ 1 ตัว คงไม่สามารถสร้างซิสเตมแบบ SOUND QUALITY ได้ สู้ใช้เพาเวอร์แอมพ์แบบหลายๆ ตัว หรือแบบมัลทิแชนแนลไม่ได้นะครับ สำหรับผมกลับมีความคิดเห็นตรงกันข้าม ถ้าคุณมีฝีมือ "รู้จริง" สามารถเค้นคุณภาพเสียงจากซิสเตมธรรมดาๆ ในรูปแบบ TRI-MODE ผมว่าคุณมีฝีมือ และแน่จริง เพราะบ่อยครั้งที่เราเห็นซิสเตมที่มีแอมพ์หลายๆ ตัว ฟังของจริงในรถปรากฏว่า "แถมฟรียังไม่อยากได้" ตัวผมเองก็เจอมามาก
ก่อนอื่นซิสเตมแบบ TRI-MODE ผมอยากแบ่งออกมาเป็น 3 ระดับด้วยกันคือ TRI-MODE ระดับ A เป็นซิสเตมเรียบง่ายใช้เทคนิคพื้นๆ ไฮพาสส์ของลำโพงคู่หน้าก็เป็นแบบ 6 ดีบี ใช้ CAP ขนาด 150 ไมโครฟารัด ต่อตรงขั้วบวกของลำโพงวูเฟอร์ และวงจรซับก็เป็นแบบ 6 ดีบี ใช้คอยล์ขนาด 6.0 ไมโครเฮนรี ต่อตรงขั้วบวกเช่นเดียวกัน ดูตามรูปก็ได้
นะครับ
ส่วน TRI-MODE ระดับ B ใช้แอมพ์ 2 แชนแนลตัวเดียว แต่วงจรของลำโพงหน้าเริ่มเป็นแบบ 12 ดีบี/ออคเทฟ และวงจรโลว์พาสส์ของซับวูเฟอร์ก็เป็นแบบ 12 ดีบี/ออคเทฟ เช่นเดียวกัน ระดับ B นี้เริ่มยุ่งยากในวงจรไฮพาสส์ และโลว์พาสส์ เพราะฉะนั้นผมก็เลยมีรายละเอียด และข้อมูลของตัวคอยล์ และตัวแคพมาให้ดูกันว่าคุณจะต้องจัดอุปกรณ์มี
ค่าเท่าไรในวงจร 12 ดีบี/ออคเทฟ ตามจุดตัดไฮพาสส์ โลว์พาสส์ ที่คุณต้องการ วงจรแบบ B นี้ เพื่อไม่ให้เพาเวอร์แอมพ์ทำงานหนักจนเกินกำลัง ผมแนะนำให้ใช้ลำโพงซับเบสส์ที่มีความต้านทาน 8 โอห์ม นะครับ จะใส่ในตู้ปิดหรือตู้เปิดต้องทดสอบกันเอาเองว่าอะไรเสียงดี
ท้ายสุด TRI-MODE ระดับ C ก็เริ่มสลับซับซ้อนยุ่งยากมากขึ้น เพราะใช้เพาเวอร์แอมพ์ 4แชนแนล 1 ตัว สามารถให้ซุ่มเสียงได้ในรูป 2 แชนแนล ด้านหน้า และ TRI-MODE กับ 2แชนแนล ด้านหลัง ดูในรูปประกอบจะเข้าใจมากขึ้น จะเห็นว่าการเล่นเทคนิคแบบ TRI-MODE นี้ ถ้าคุณเรียนรู้ และมีความชำนาญ คุณสามารถสร้างซิสเตมที่ประหยัด ติดตั้งง่าย ไม่ยุ่งยาก และข้อสำคัญที่สุด ถ้าคุณใช้กฎเหล็ก ICFR (IN-CAR FREQUENCY RESPONSE) มาใช้ในการคัดเลือกอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นเพาเวอร์แอมพ์ หรือลำโพง ตลอดจนซับวูเฟอร์ และคุณสามารถสร้างวงจรพาสสีฟให้เหมาะกับลำโพงคู่หน้า และซับวูเฟอร์ของคุณแล้ว คุณสามารถเนรมิตซิสเตมแบบ SOUND QUALITY จากเพาเวอร์แอมพ์แค่ 1 ตัว ได้โดยไม่ยาก ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการฟังในรูปแบบเน้นมิติ คุณก็ต้องใช้เทคนิคการเลือกตำแหน่งการติดตั้งลำโพงคู่หน้าในตำแหน่งที่ฟังดูแล้ว สามารถรับรู้ถึงมิติ ในแบบ FRONT STAGE ดีที่สุด ในขณะเดียวกันเรื่องของ MONO BASS ที่ใช้ซับแค่ 1 ตัว คุณสามารถเลือกเอาตู้ปิด (SEALED) ตู้เปิด (PORTED) หรือตู้แบบ BANDPASS SINGLE REFLEX หรือ DOUBLE REFLEX ก็ได้
เพราะฉะนั้นเครื่องเสียงรถยนต์ในยุค "วิชาการนำหน้า" จากซิสเตมในรูปแบบ TRI-MODE ธรรมดาๆ ดูแล้วไร้พิษสงต้องเปลี่ยนความคิดแล้วนะครับ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ผมได้ฟังซิสเตมแบบ TRI-MODE ที่เจ้าของรถเขามีความรู้ แถมติดตั้งเองใช้เพาเวอร์แอมพ์คุณภาพดีเป็นแอมพ์หลอดแบบ HYBRID 2 แชนแนล สามารถดับรัศมีซิสเตมแบบไบ-แอมพ์ทั่วไป
โดยสรุป ผมคิดว่าเทคนิคในรูปแบบของ TRI-MODE คราวนี้คงจะเปิดหูเปิดตานักเลงเครื่องเสียงรถยนต์ ที่ติดอยู่กับความคิดว่า ต้องใช้ของดีๆ เยอะๆ ถึงจะได้คุณภาพเสียง ผมว่ามันไม่จริงนะครับ
ภาพ
1. เทคนิคการต่อเพาเวอร์แอมพ์แบบ TRI-MODE ระดับ A
2. ตารางค่า CAP และ COIL ขนาด 6 ดีบี/ออคเทฟ
3. เทคนิคการต่อแอมพ์ 2 แชนแนล ใช้ซับเบสส์ 8 โอห์ม
4. ตารางค่าวงจรพาสสีฟ ไฮพาสส์/โลว์พาสส์ ขนาด 12 ดีบี/ออคเทฟ
5. ภาพไดอแกรม เมื่อเล่นแอมพ์ 4 แชนแนล โดยใช้ 2 แชนแนล ด้านหน้า และ TRI-MODE กับ 2 แชนแนล ด้านหลัง
เรื่องโดย : ว. รุ่งเรืองโรจน์
ภาพโดย : -
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2545
คอลัมน์ Online : เทคนิค(car)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/53422