พิเศษ(cso)
ฮอนดา แอคคอร์ด
ระยะทางพิสูจน์ม้า
ระยะเวลาพิสูจน์ผลงาน
การเสาะแสวงหาช่างติดตั้งเครื่องเสียงฝีมือดีๆ แม้จะยากลำบากเพียงใด ใครๆ ก็มีความพยายาม เช่นเดียวกับ เจฟฟ์ มีดา (JEFF MAEDA) หนุ่มอายุ 26 ปี ชาวเมืองซีแอทเติล วอชิงทัน ต้องการ เดินทางไป ทัลซา, โอกลาโฮมาเพื่อหาช่างติดตั้งที่มีฝีมือ แม้ว่าต้องเดินทางไปไกลถึง 2,000 ไมล์ ทางเครื่องบิน หรือถ้าขับรถไปก็ต้องขับไปไกลถึง2,500 ไมล์ แถมยังต้องทิ้งรถให้ช่างเขาทำอีก 9 เดือน แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคใหญ่ สำหรับ เจฟฟ์
แล้วขอให้รถของเขาเข้าถึงรอบสุดท้ายในงานแข่ง USAC และ IASCA ได้เท่านั้น หลังจากสิ้นสุดงาน USACเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจฟฟ์ รีบเอารถ ฮอนดา แอคคอร์ด แอลเอกซ์ ปี 1994 ไปให้ แกรี บิกส์ (GARY BIGGS) แห่งร้านCAR TOYS ที่เมืองทัลซา ทำรถให้ทันที
เจฟฟ์ ไม่มีอาการเหนื่อยเพลียแต่อย่างใด แม้ว่าต้องขับรถมาไกลถึงขนาดนั้น เขารีบนำรถเข้าร้านส่งมอบให้ แกรี ทันทีก่อนหน้านี้ เจฟฟ์ เคยเอารถมาให้ แกรี ทำมาแล้ว และรถของเขาสามารถเข้าถึงรอบสุดท้ายในปี 97 และ 98แต่นั่นยังไม่ใช่จุดหมายที่ เจฟฟ์ ต้องการ มาครั้งนี้เขาต้องการให้ แกรี ทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมอีก หลังจากที่รถ ฮอนดามาถึงร้าน CAR TOYS โดยที่ แกรี, เรย์ พรอคเตอร์ (RAY PROCTOR) และ แบรด แกรนด์คแลร์ (BRAD
GRANDCLAIR) ช่วยกันรื้อแผงบุภายในตัวรถออกหมด หลงเหลือไว้แต่ส่วนของเหล็กที่เป็นตัวถังหลังจากนั้นทำการพ่นวัสดุซับเสียง NOISE KILLER ของ ESOTERIC AUDIO ทั่วทั้งด้านในส่วนของห้องโดยสารรวมทั้งที่แผงประตูก็ปิดทับด้วยแผ่นซับเสียง DYNAMAT ก่อนที่จะไปถึงขั้นตอนของการเดินสายไฟและสายสัญญาณในลำดับต่อไป
แบทเตอรี และอัลเทอร์เนเตอร์เดิมที่ติดรถมาถูกยกออกเพื่อเปลี่ยนใส่สำหรับกำลังไฟที่เพิ่มมากขี้น แบทเตอรี ESOTERIC STREETWIRES รุ่นใหม่ FX-1050 เป็นตัวเลือกใหม่สำหรับ แกรี โดยวางในกล่องไม้MDF แล้วปิดทับด้วย HARDENER และตกแต่งให้สวยงามด้วยไฟเบอร์กลาสส์
แท่งอลูมิเนียมขนาดครึ่งนิ้วถูกนำมาดัดขี้นรูปด้วยมือ เพื่อทำเป็นแป้นสำหรับยึดแบทเตอรีและเพื่อให้ดูสวยงามจึงปิดทับด้านบนของแบทเตอรีด้วยแผ่น PLEXIGLASSและยังเป็นการตัดคลื่นรบกวนไม่ให้เข้าสายสัญญาณอีกด้วย
อัลเทอร์เนเตอร์ตัวใหม่เป็นขนาด 170 แอมพ์ โดยจะส่งกระแสไฟไปยังตอนท้ายของรถ ผ่านสายขนาด 1/0 ของSTREETWIRES ทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องเดินสายไฟไว้ข้างใต้รถแล้วเจาะรูที่พื้นรถเพื่อร้อยสายเข้ามาในรถอีกทีสายไฟสามารถร้อยเข้ามาในห้องโดยสารผ่านทางรูกรอมเมทที่ให้มากับตัวรถโดยแนวของสายไฟสามารถเดินเลียบแนวข้างของพื้นรถไปถึงห้องเก็บของท้ายรถและที่นี่เองจะพบเรนฟอร์ศเมนท์แคพขนาด 1ฟารัด 3 ตัว
ชุดเครื่องเล่นซีดี/คาสเสทท์/วิดีโอของ ECLIPSE รุ่น 7301 สามารถติดตั้งเข้าไปในช่องวิทยุติดรถเดิมได้อย่างพอดีแล้วตกแต่งให้สวยงามด้วยห่วงแหวนที่พ่นสี และรับกันเป็นอย่างดีกับแผงหน้าปัดโดยมีชุดเครื่องเล่นซีดีเชนเจอร์ขนาด 6 แผ่น รุ่น 5961 เชื่อมต่อเข้าไว้ด้วยกัน
บริเวณ KICK PANEL ถูกเลือกไว้ใช้เป็นที่ติดตั้งลำโพง โดยจะติดตั้งลำโพงเสียงกลาง และทวีเตอร์รุ่น ND 25 ยี่ห้อ KICKER โดยใช้เทคนิคพิเศษในการติดตั้งลำโพงระบบ FRONT STAGEโดยที่เขาจะไม่ให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ ยึดหลักการแบบพื้นๆ คือ ทำช่องติดตั้งลำโพงใส่เข้าไปในรถด้วยไม้MDF และไฟเบอร์กลาสส์ แล้วแปะเข้าไปใน KICK PANEL นั้น เสร็จแล้วจึงค่อยติดตั้งลำโพงเสียงกลางแล้วนำเอาแผ่นอลูมิเนียมมาดัดทำเป็นแป้นสำหรับยึดทวีเตอร์ไว้ทางด้านหน้ามิดเรนจ์อีกทีหนึ่งและเพื่อให้ดูสวยงามฝาครอบด้านหน้าลำโพงทำขึ้นมาให้รับเข้ากันกับแผงบุด้านในตัวรถของเดิมอย่างกลมกลืน
ในการควบคุมแทรค และวอลูม สามารถทำได้จากทั้งที่ตัวเครื่องเล่นบนแผงหน้าปัด และทั้งที่คอนโซลกลางโดยอยู่ด้านหลังคันเกียร์อีกทีหนึ่ง ข้างในคอนโซลกลางจะเป็นแผงควบคุม สำหรับสั่งงานด้วย ดิจิทอล อีควอไลเซอร์ทั้งหมดเป็นสินค้าจากร้าน PRO AUDIO ชุดแปลงกำลังไฟจาก OWEN TECHNOLOGIES ที่จะมีไฟเลี้ยง 5 โวลท์เผื่อค่าผิดพลาดไว้ที่ +/-15 สำหรับระบบในรถ ที่แผงหน้าปัดหน้ารถยังมีจอภาพ LCDขนาดเล็กติดตั้งไว้ที่ตำแหน่งฝาปิดสวิทช์ที่ว่างไว้
ห้องเก็บของสัมภาระท้ายรถเป็นอีกจุดที่ แกรี และพรรคพวกของเขาสร้างความประหลาดให้เกิดขึ้นเมื่อพับเบาะหลังลง คุณจะเห็นลำโพงซับวูเฟอร์ขนาด 12 นิ้ว 4 ตัวของ KICKER SOLOBARIC อย่างเห็นได้ชัดโดยติดตั้งแหวกแนวในรูปแบบของฝาหอยเปิดอ้าออกโดยมีแผ่นไฟเบอร์กลาสส์สีขาวทางด้านหน้าทำหน้าที่ยึดวูเฟอร์ทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน
ปริมาตรอากาศภายในตู้ซับวูเฟอร์มีอยู่ประมาณ 2 ลูกบาศก์ฟุต ในกล่องแรก ที่ตัวสวิทช์ควบคุมแบบ CRUISE CONTROL จะไปทำหน้าที่เปิดฝาสไลด์เลื่อนทางด้านล่างของตู้ออกเพื่อให้เข้าถึงส่วนของปริมาตรอากาศ 2ลูกบาศก์ฟุต นี้ได้ ส่วนกล่องที่สองจะทำขี้นมาจากครึ่งหนึ่งของยางอะไหล่พอดี แนวคิดนี้ก็คือต้องการให้มีเนื้อที่เล็กๆ สำหรับ SPL และกล่องที่ใหญ่สำหรับ SQและปิดด้วยโฟมพิเศษทำให้ทุกอย่างทำงานประสานกันอย่างลงตัว ทั้งหมดล้วนเป็นกลยุทธ์ในการติดตั้งทั้งสิ้น
เนื้อที่ว่างที่เหลือของยางอะไหล่ถูกใช้เป็นที่ยึดคาพาซิเตอร์ของ STREETWIRESทั้งหมดถูกติดตั้งในเบ้าไฟเบอร์กลาสส์พ่นสีขาว ที่วางอยู่บนแอมพ์ KICKER อีกทีหนึ่งกล่องสมองกลสำหรับควบคุมด้วย EQ ถูกติดตั้งไว้ที่ด้านล่างของแผงวางของด้านหลัง ที่สามารถยกออกได้เมื่อยกออกจะเห็นถึงแผงวงจรที่สวยงาม ที่ด้านล่างของแผงวางของจะเป็นอีเลคทรอนิค ครอสส์โอเวอร์ของ IMAGE DYNAMIC S รุ่น IDX 24 โดยติดตั้งไว้บนเบ้าไฟเบอร์กลาสส์สีขาวอีกทีหนึ่ง งานสีที่พ่นทั้งหมดเป็นผลงานของร้านCAREFREE TRUCKING ที่หาที่ติได้ยาก
แอมพ์ KICKER ทั้งสี่ตัวทำหน้าที่เสริมกำลังให้กับระบบ ลำโพงมิดเรนจ์แต่ละตัวจะรับกำลังขับแอมพ์ ZR 120สองตัวเชื่อมต่อกัน เพื่อเสริมกำลังในรูปแบบของสเตริโอร่วมกับทวีเตอร์ ส่วนแอมพ์ตัวใหญ่ XS 100ทำหน้าที่ขับลำโพงซับทั้งสี่ตัว และแอมพ์ทุกตัวติดตั้งไว้บนเบ้าไฟเบอร์กลาสส์โดยมีพัดลมคอยระบายอากาศช่วยที่ข้างในเบ้าสีขาวจะมีหลอดนีออนสีฟ้า และมีฝาปิดแยกแต่ละตัวพ่นสีเดียวกับด้านในของตัวรถทำให้เมื่อมองดูแล้วเหมือนกับว่าแอมพ์ทั้งหมดลอยอยู่ในเบ้าเมื่อเปิดแสงไฟจากหลอดนีออน
CAR TOYS ใช้เวลาทำรถ ฮอนดา แอคคอร์ด คันนี้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมิถุนายน ซึ่ง เจฟฟ์ต้องนั่งเครื่องบินกลับไปรอที่ซีแอทเทิล นานถึง 9 เดือน กว่าจะกลับมาอีกที เพื่อรับรถที่เสร็จแล้วกลับบ้านแต่ถึงจะรอนานสักหน่อย แต่ก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังแม้แต่น้อย เพราะเขาได้รับรางวัลที่ 1 กลับไป และต้องเลื่อนขั้นจากแต่ก่อนที่อยู่ CLASS 301-600 มาเป็น CLASS 150-300 แทน จริงๆแล้วเขาไม่มีทางเลือกเลยในเรื่องนี้ เพราะ แกรี และ CAR TOYS ก็ทำรถเข้าแข่งด้วยเช่นกัน โดยส่งเข้าแข่งในรุ่น PRO POWER CLASS เสียงของรถที่ แกรี ทำได้ค่อยข้างจะหนักเบสส์เอามากๆ
เรื่องโดย : วิโชค
ภาพโดย : -
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2545
คอลัมน์ Online : พิเศษ(cso)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/53380