พิเศษ(formula)
มิตซูโอกะ (MITSUOKA)
ผู้ผลิตรถยนต์แดนปลาดิบ สร้างรถยนต์ยี่ห้อใหม่ โดยการขอซื้อโครงสร้างพื้นฐาน (PLATFORM) และลิขสิทธิ์การออกแบบส่วนกลางจากรถ 2 ยี่ห้อ คือ นิสสัน กับ ฮอนดา โดยดัดแปลงชิ้นส่วนช่วงฝากระโปรงหน้าและช่วงหลังใหม่หมด เพื่อให้กลายเป็นรถที่มีเอกลักษณ์พิเศษสำหรับผู้ต้องการความแตกต่าง
จุดเริ่มต้น
ธุรกิจของ มิตซูโอกะ บริษัท แอดวานศ์ ออโตโมบิล จำกัด (ADVANCE AUTOMOBILE) เป็นผู้ผลิต และจัดจำหน่ายรถยนต์ที่นำเอาส่วนดีของรถยี่ห้อต่างๆมาผสมผสานกันเป็นรถที่มีสไตล์เป็นของตัวเองภายใต้ยี่ห้อ "มิตซูโอกะ" (ตั้งชื่อตามนามสกุลของผู้ก่อตั้ง)
ธุรกิจของ มิตซูโอกะ เริ่มขึ้นเมื่อ 40 ปีก่อน โดยพี่ชายคนโต ซึ่งเป็นประธานบริษัท ร่วมกับน้องชายที่เป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยุโรป เช่น โฟล์คสวาเกน (VOLKSWAGEN)/เอาดี(AUDI)/ลัมโบร์กินี (LAMBORGHINI)/เบนท์ลีย์(BENTLEY) และรถอเมริกันอีกหลายยี่ห้อ
การผลิตรถ มิตซูโอกะ มีสัดส่วนแค่ 10 % ของธุรกิจทั้งหมดของบริษัท มิตซูโอกะ มอเตอร์ จำกัด โดยเมื่อปี 2006 ยังขายรถได้เพียง 960 คัน แม้ว่าจะมีกำลังการผลิตสูงสุด 1,600 คัน
มิตซูโอกะ ออกแบบรถคันแรกโดยใช้แชสซีส์ของ โฟล์คสวาเกน บีเทิล (VOLKSWAGEN BEETLE)ปัจจุบัน มิตซูโอกะ ผลิตรถยนต์ 2 สไตล์ คือ คลาสสิค และสปอร์ท โดยนำโครงสร้างของรถญี่ปุ่นที่มีจำหน่ายอยู่ทั่วไป มาออกแบบส่วนหน้า และส่วนท้ายใหม่ โดยคงส่วนประตู และห้องโดยสารไว้อย่างเดิม
ไอโกะ มิตซูโอกะ (AIKO MITSUOKA) ประธานบริษัท ฯ กล่าวว่า "เราได้แสดงให้เห็นถึงความปรารถนาของคนรักซูเพอร์คาร์ และทำให้เกิดความทรงจำที่น่าตื่นเต้น โดยการสร้างรถต้นแบบ "โอโรชิ" (OROCHI) ขึ้นมา และการได้ร่วมแสดงในงานมหกรรมยานยนต์โตเกียว มันได้เปลี่ยนความฝัน ทำให้เกิดความมั่นใจ และรู้สึกว่าเรากำลังอยู่บนเส้นทางที่จะเติบโตขึ้น"
เสนอ "รถแนว" เพื่อคนชอบความต่าง
ประธานบริษัทฯ กล่าวต่อไปว่า "มิตซูโอกะ เป็นรถสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความแตกต่าง ซึ่งสะท้อนความเป็นตัวเองของผู้ขับขี่ และนอกจากนั้นเรายังมีผู้บริหารที่เก่งเรื่องของการสร้างภาพลักษณ์ และการสร้างความเจริญเติบโตทางธุรกิจ นอกจากนั้น บริษัท ฯ ยังมีแผนที่จะขายรถ มิตซูโอกะให้ได้ 200 คันภายในปีนี้ที่สิงคโปร์
"การจำหน่ายรถ มิตซูโอกะ นอกประเทศญี่ปุ่นนั้น เริ่มขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อนที่ประเทศมาเลเซีย/ฮ่องกงและมาเก๊า ด้วยเศรษฐกิจของแถบเอเชียกำลังขยายตัว ทำให้ผู้คนในหลายๆ ประเทศต้องการรถของเรามากขึ้น"
มิตซูโอกะ ได้นำรถรุ่นใหม่เข้ามาจำหน่ายแล้ว 2 รุ่นคือ "วิวท์" (VIEWT) รถซีดาน 4 ประตู เครื่องยนต์1,500 ซีซี ใช้โครงสร้างของรถ นิสสัน มาร์ช (NISSAN MARCH) แต่นำมาออกแบบใหม่ในสไตล์ มีนี แจกวาร์ (MINI JAGUAR) ส่วนอีกรุ่น คือ รถ ซูเพอร์สปอร์ทคาร์ (SUPER SPORT CAR) "โอโรชิ" ซึ่งชิ้นส่วนรถทุกชิ้นทำขึ้นโดยบริษัท ฯ ยกเว้นแต่เครื่องยนต์ขนาด 3,300 ซีซี และเกียร์ที่เป็นของ โตโยตา (TOYOTA) รถรุ่นนี้ถูกสั่งจองแล้วกว่า 200 คัน หลังจากออกจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น เมื่อปลายปีที่แล้ว
ประธาน มิตซูโอกะ ยังกล่าวอีกว่า "รถหรูยี่ห้ออื่น ล้วนเป็นรถที่อยู่ในตลาดระดับสูง แต่ทุกคนก็ขับเหมือนๆ กันหมด ซึ่งน่าเบื่อ ในประเทศญี่ปุ่นมีรถ มิตซูโอกะ อยู่น้อยกว่า 1 % แต่ว่ามันไม่เหมือนใครและใครที่ต้องการแสดงความเป็นตัวของตัวเอง จะต้องซื้อรถของเราแน่นอน"
ก้าวสู่งานแสดงรถยนต์
ปี 2006 บริษัท ฯ ได้นำรถ มิตซูโอกะ เข้าแสดงในงานมหกรรมยานยนต์สิงคโปร์ โดยนำรถรุ่น "กาลูเอะ" (GALUE) สร้างบนพื้นฐานของ นิสสัน ฟูกะ (NISSAN FUGA) ใช้เครื่องยนต์ 2,500 ซีซี และ เครื่องยนต์ วี 6 3,500 ซีซี ขับเคลื่อนล้อหลัง เกียร์อัตโนมัติแบบ 5 จังหวะ ส่วนภายในลูกค้าสามารถสั่งตกแต่งได้ตามความต้องการ
ส่วน "โนอูเอระ" (NOUERA) สร้างบนพื้นฐานของ ฮอนดา แอคคอร์ด (HONDA ACCORD) ใช้เครื่องยนต์ K20A 2,000 ซีซี และ เครื่องยนต์ K24A I-VTEC 2,400 ซีซี
สู่ยุคใหม่ มิตซูโอกะ
มิตซูโอกะ คือ บริษัท ฯ ที่นำรถญี่ปุ่นธรรมดาๆ มาเปลี่ยนเป็นรถสไตล์ยุโรป และผลิตออกมาจำนวน จำกัด ทำให้เป็นรองเจ้าอื่นๆ เรื่องการขาย
ตามข้อเท็จจริง และความเห็นของญี่ปุ่น "โนอูเอระ" แปลงร่างมาจากพื้นฐานของ ฮอนดา แอคคอร์ด เด่นที่ด้านหน้า ซ่อนความเป็น แจกวาร์ เอส-ไทพ์ (JAGUAR S-TYPE) และรถคลาสสิคในยุคต้นๆ ไว้ส่วน "กาลูเอะ" ก็ดูสง่างาม และน่าดึงดูดใจ
มิตซูโอกะ เอาใจตลาดญี่ปุ่นเต็มที่ ในรุ่น "โนอูเอระ" นั้น ปุ่มควบคุมต่างๆ เป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด เบาะผ้ากึ่งหนัง นุ่มนวลน่านั่ง แต่ที่ติเห็นจะเป็นมาตรวัดออพทิตรอน ที่ดูเกินความจำเป็น ฐานล้อขนาด 2,670 มม. ซึ่งอาจจะสั้นกว่า ฮอนดา ซีวิค แต่ความกว้างภายในห้องโดยสาร ก็เพียงพอสำหรับผู้ใหญ่ 5 คน นั่งได้สบายๆ
แม้ว่ารถ มิตซูโอกะ จะแพงกว่ารถที่นำมาเป็นพื้นฐาน (ซึ่งหมายถึง ฮอนดา แอคคอร์ด กับ นิสสัน ฟูกะ)แต่ในเมื่อ ลูกค้าต้องการรถที่มีคุณภาพระดับสูง และต้องการความแตกต่าง เรื่องราคาจึงไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
สำหรับในประเทศไทย อาจเป็นไปได้ที่ในอนาคตจะมีรถ มิตซูโอกะ เข้ามาขาย ภายใต้การบริหารของกลุ่มยนตรกิจ ที่ไปตั้งฐานการผลิต ซีตรอง กับ เปอโฌต์ อยู่ในประเทศสิงคโปร์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จึงหันไปจับตลาดรถ มิตซูโอกะ แทน จึงน่าจะมีโอกาสที่จะขยายตลาดมายังประเทศไทย
มิตซูโอกะ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1968 และภายหลังได้ตัดสินใจเปลี่ยนจากการเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยี่ห้อ นิสสัน และ ฮีโน มาเป็นผู้ผลิต และจำหน่ายรถอย่างที่เขา และผู้บริโภคต้องการ นั่นคือ มิตซูโอกะ
- ปี 1982 ผลิตตัวถังรถเป็นครั้งแรก รุ่น "BUBU SHUTTLE 50" สำหรับคนพิการโดยเฉพาะ
- ปี 1987 BUBU CLASSIC SSK
- ปี 1989 BUBU 356 SPEEDSTER
- ปี 1990 LE-SEYDE (ได้รับความสนใจอย่างมาก ด้วยยอดขาย 4 วัน 500 คัน)
- ปี 1991 วิวท์ รุ่นนี้ทำให้นึกถึง แจกวาร์ มาร์ค ทูI
- ปี 1994 ซีโร 1 ได้รับการจดจำในฐานะ 10th JAPANESE PASSENGER CAR AND MANUFACTURER
- ปี 1996 ออก 3 รุ่นพร้อมกัน "กาลูเอะ"/ "ซีโร-1 ไทพ์ เอฟ"/REI
- ปี 1998 ออกรุ่น "RYOGA" จากนั้น บริษัท ฯ สร้างฐานการผลิตขึ้น และทำรถเครื่องยนต์ 50 ซีซี
- ปี 2000 เป็นตัวแทนจำหน่าย "LONDON TAXI TX1" จากประเทศอังกฤษ แต่เพียงผู้เดียว พร้อม ออกรุ่น "LE-SEYDE" อีกครั้ง
- ปี 2001 เข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์โตเกียว ครั้งที่ 35 เป็นครั้งแรก โดยนำรถแนวคิดซูเพอร์คาร์ รุ่น "โอโรชิI" ไปแสดง
เรื่องโดย : ปาจรีย์ ทัศนาญชลี
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2550
คอลัมน์ Online : พิเศษ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/53260